“ฟิลเลอร์ (Filler)” เป็นวิธีแก้ปัญหาผิวและใบหน้าที่ยอดเยี่ยม หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ประสบกับปัญหาผิวเริ่มมีริ้วรอยร่องลึก มีตีนกา หน้าผากย่น มีร่องแก้ม หรือไม่พอใจในส่วนต่างๆบนใบหน้าของตัวเอง อยากปรับรูปหน้าเพื่อเสริมความมั่นใจ หรือสายมูที่ต้องการปรับเปลี่ยนแก้โหวงเฮ้ง Filler คือตัวช่วยที่เหมาะในการแก้ปัญหานี้
แก้ปัญหาใต้ตาและปรับโครงสร้างใบหน้าด้วยการฉีด Filler
ฟิลเลอร์คืออะไรและมีกี่ชนิด
Filler คือสารเติมเต็มอย่างหนึ่งที่นำมาใช้เพื่อการลดเลือนริ้วรอยและการเสริมเติมแต่ง ปรับรูปหน้าให้เป็นไปตามต้องการ สามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ประเภทโดยแบ่งตามความสามารถในการสลายตัวได้ ดังนี้
- แบบชั่วคราว (Temporary) เป็นประเภทที่นำมาใช้เสริมความงามมากที่สุด เนื่องจากความสามารถในการสลายตัว ด้วยหลักการคิดที่ว่าเมื่อเวลาเปลี่ยนไป รูปหน้าของคนก็จะเปลี่ยนไปตามอายุที่เพิ่มขึ้น ดังนั้น การนำ Filler ไปเติมเพื่อลบจุดด้อย หรือเพิ่มจุดเด่นก็จะทำให้ใบหน้ามีความสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น โดยทั่วไป Filler แบบชั่วคราวนี้มักทำมาจากอนุพันธ์ของ Hyaluronic Acid (HA) ซึ่ง Filler ชนิดนี้จะอยู่บนผิวได้นาน 6-12 เดือน
- แบบกึ่งถาวร (Semipermanent) สามารถอยู่ในร่างกายได้นานอย่างน้อย 18 เดือนด้วยกัน โดยส่วนใหญ่แล้วมักทำมาจากอนุพันธ์ของแคลเซียม
- แบบถาวร (Permanent) เมื่อนำเข้าสู่ร่างกายแล้วจะไม่มีการสูญสลายไป จึงทำให้องค์การอาหารและยาในประเทศไทยและสหรัฐอเมริกาไม่อนุญาตให้นำมาใช้ในการฉีดเข้าร่างกาย ส่วนใหญ่จะทำมาจากซิลิโคน
อย่างไรก็ตาม แม้ Filler จะมีหลายชนิดด้วยกัน แต่ปัจจุบันมีเพียงชนิดเดียวที่ผ่านการรับรองจากองค์การอาหารและยาของประเทศไทย อีกทั้งยังได้รับการรับรองจากทางฝั่งยุโรปและสหรัฐอเมริกา นั่นก็คือ Filler แบบชั่วคราวที่ทำผลิตจากอนุพันธ์ Hyaluronic Acid เนื่องจากมีความปลอดภัยสูง
โดยปกติแล้ว Hyaluronic Acid เป็นสารที่สามารถพบได้ในร่างกายของเรา โดยเฉพาะที่ดวงตา ผิวหนัง และข้อต่อต่างๆ ทำหน้าที่ให้ความชุ่มชื้นแก่เนื้อเยื่อและข้อต่อต่างๆเพื่อให้ร่างกายสามารถทำงานได้อย่างปกติ และทำให้ผิวมีความชุ่มชื้น ไม่เหี่ยวย่น
ด้วยเหตุผลนี้เองจึงทำให้ฟิลเลอร์ที่ทำมาจาก Hyaluronic Acid จึงสามารถช่วยลดเลือนริ้วรอยได้
ข้อดีของการฉีด Filler
ข้อดีของการฉีด Filler นั่นคือสามารถเห็นผลได้ทันทีหลังจากการทำ ไม่ว่าจะเป็นการฉีดเพื่อลดเลือนริ้วรอยร่องลึก หรือฉีดเพื่อเสริมเติมแต่งส่วนต่างๆของใบหน้าโดยไม่ต้องพักฟื้น และมีความปลอดภัยสูง
เนื่องจากการฉีด Filler นั้นก็เหมือนกับการเติม Hyaluronic Acid เข้าสู่ผิว ผลลัพธ์จากการฉีดสามารถอยู่ได้นานประมาณ 6-12 เดือน ขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองหลังจากการฉีด และที่สำคัญ หากวันหนึ่งรู้สึกว่าไม่ชอบหรือต้องการปรับเปลี่ยนเพิ่มเติมก็สามารถทำได้เรื่อยๆ
เนื่องจาก Filler สามารถสลายได้ตามธรรมชาติ และไม่เป็นอันตรายกับร่างกายอีกด้วย หรือหากต้องการสลายอย่างรวดเร็วก็สามารถทำการฉีดสลายได้เช่นเดียวกัน
ฟิลเลอร์เหมาะกับใคร
ในปัจจุบันองค์การอาหารและยาของประเทศสหรัฐอเมริกาได้มีการยอมรับให้ผู้ที่มีอายุ 22 ปีขึ้นไปเข้ารับการฉีดฟิลเลอร์ได้ การฉีด Filler เหมาะกับผู้ที่ต้องการ
- ลดเลือนริ้วรอยร่องลึกของผิวหนัง
- เสริมเติมแต่งส่วนต่างๆ บนใบหน้า เช่น บริเวณริมฝีปาก แก้ม ใต้ตา
- เติมเต็มหลุมสิวให้ตื้นขึ้น
- ปรับรูปหน้า
- เสริมจมูกและคางให้ดูมีมิติมากยิ่งขึ้น
ปริมาณ Filler ที่ใช้ในแต่ละจุดบนใบหน้า
Filler สามารถฉีดบริเวณไหนได้บ้าง
- ขมับทั้ง 2 ด้าน
- จมูก
- ใต้ตา
- โหนกแก้ม
- ร่องแก้ม (ร่องน้ำหมาก)
- ริมฝีปาก
- ร่องลึกบริเวณมุมปาก
- กรามและกรอบหน้า
- หลังมือ
การฉีดฟิลเลอร์ปลอดภัยไหม
การฉีด Filler นั้นมีความปลอดภัยสูงมาก หากคุณฉีด Filler แท้ที่ทำมาจาก Hyaluronic Acid ซึ่งเป็นสารที่พบได้ในร่างกายของเรา เมื่อสลายไปแล้วจึงไม่เป็นอันตรายใดๆ แก่ร่างกายของเรา แต่อันตรายจะเกิดขึ้นถ้าหากคุณเจอ Filler ปลอมอย่างเช่นซิลิโคน
โปรแกรมการฉีดฟิลเลอร์แก้ปัญหาใบหน้าที่แตกต่างกัน
อันตรายจากการฉีด Filler ปลอม
ร่างกายของคุณจะเกิดอาการบาดเจ็บได้จากการฉีด Filler ปลอม หรือซิลิโคน ซึ่งในระยะยาวอาจทำให้เกิดการติดเชื้อ เป็นแผลเป็นหรือเสียโฉมเนื่องจาก Filler ปลอมจะไม่มีการสลายและจะเกาะติดกับเนื้อเยื่อภายใต้ผิวหนังจนทำให้เกิดพังผืดได้ ซึ่งการจะนำซิลิโคนออกนั้นสามารถทำได้ด้วยการผ่าตัดและการขูดออกเท่านั้น
แต่วิธีนี้ไม่สามารถการันตีว่าจะสามารถนำซิลิโคนที่แข็งตัวออกจากผิวได้หมดหรือไม่ ดังนั้น การเลือกฉีด Filler จึงควรเลือกสถานบริการที่มีความน่าเชื่อถือ
โดยสามารถขอแพทย์ผู้ให้บริการแสดงกล่อง Filler ว่ามีเลขที่จดแจ้งกับทาง อ.ย.หรือไม่ และที่กล่องจะต้องมีฉลากภาษาไทยที่ระบุถึงเลข lot no. โดยที่กล่องและหลอดที่บรรจุ Filler จะต้องมีเลขที่ตรงกัน
ผลข้างเคียงจากการฉีดฟิลเลอร์
หลังจากการฉีด Filler อาจจะมีรอยแดงและอาการบวม ซึ่งรอยแดงจะหายได้ในเวลาประมาณ 2-3 วัน ส่วนอาการบวมจะหายได้ในเวลาประมาณ 7-14 วัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล
ข้อควรระวังและการดูแลตัวเองหลังจากการฉีด Filler
- งดการทาสกินแคร์บนใบหน้าประมาณเป็นเวลา 12-24 ชั่วโมงหลังฉีด สกินแคร์ที่ใช้ไม่ควรมีสารที่มีคุณสมบัติกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิว เช่น AHA BHA หรือ Retinoids เพื่อหลีกเลี่ยงโอกาสที่ที่จะเกิดการระคายเคืองผิว
- ควรอยู่ในสถานที่ที่อากาศเย็น หลีกเลี่ยงการอยู่ในสถานที่ที่มีอากาศร้อนทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นการอยู่กลางแจ้ง การเข้าห้องซาวน่า โยคะร้อน หรือการอยู่หน้าเตาอาหารชาบู ปิ้งย่างต่างๆ เป็นเวลาอย่างน้อย 48 ชั่วโมง
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสใบหน้า รวมถึงการนวดและการทำทรีทเมนต์ต่างๆอย่างน้อย 3 วันเพื่อป้องกันการเคลื่อนของ Filler
- ควรดื่มน้ำให้ได้วันละ 2-3 ลิตร หรือประมาณ 8-10 แก้วในช่วง 5 วันแรกเพื่อช่วยให้ Filler อุ้มน้ำ จึงทำให้บริเวณที่ฉีด Filler ดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น เนื่องจากหนึ่งในคุณสมบัติที่สำคัญของ Hyaluronic Acid ใน Filler นั่นก็คือการอุ้มน้ำนั่นเอง
- งดออกกำลังกายหนักๆในช่วง 7 วันแรกหลังได้รับบริการ
- งดการทำเลเซอร์ หรือการทำหัตถการใดๆที่ทำให้ผิวเกิดความร้อนเป็นเวลาอย่างน้อย 1 เดือน
- งดรับประทานอาหารที่มีผลต่อการอักเสบของผิว เพราะจะทำให้ Filler เข้าที่ช้า เช่น การดื่มแอลกอฮอล์ อาหารหมักดอง อาหารรสจัด และควรงดสูบบุหรี่เนื่องจากบุหรี่จะทำให้ผิวหายบวมช้า
เคล็ดลับการดูแลตนเองหลังฉีด Filler
หากเลิกฉีดฟิลเลอร์แล้วผิวและโครงหน้าจะเป็นอย่างไร
ผิวและโครงหน้าจะกลับไปเป็นตามเดิม ไม่มีปัญหาหรือผลกระทบใดๆหากหยุดฉีด เนื่องจาก Filler ที่ใช้เป็นชนิดที่สลายได้ตามธรรมชาติ
ดังนั้นผลของการฉีด Filler จึงไม่คงทนถาวรจึงไม่ต้องกังวลหากวันนึงคุณไม่ต้องการฉีดเพิ่มอีกต่อไปส่วนบริเวณที่เคยได้รับการฉีด Filler นั้น ผิวจะมีความอ่อนเยาว์มากกว่าบริเวณที่ไม่ได้ฉีด
หากต้องการให้ผลลัพธ์ในการแก้รูปหน้าอยู่อย่างถาวรก็อาจจะต้องพิจารณาเพิ่มเติมในการผ่าตัดศัลยกรรม หรือหากต้องการให้ผิวอ่อนเยาว์ วิธีการชะลอวัยผิวอย่าง Ultherapy หรือ Thermage ก็เป็นวิธีการที่น่าสนใจในการนำมาพิจารณา แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปัญหาและสภาพผิวของคุณด้วย
หากมีข้อสงสัยสามารถปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่ KKC Clinic เพื่อทำการประเมินและเลือกวิธีการที่เหมาะสม
ทำไมต้องฉีด Filler ที่ KKC Clinic
การที่เราจะเลือกฉีด Filler ที่ไหนสักที่ เราควรพิจารณาในเรื่องคุณภาพและความปลอดภัยเป็นสำคัญ ที่ KKC Clinic เราเป็นคลินิกเสริมความงามครบวงจรที่ได้รับรางวัล Top 5 Chain Clinic จากบริษัท Galderma ในปี 2021 ที่เป็นผู้จัดจำหน่าย Filler ในประเทศไทย
สามารถการันตีได้ว่าที่ KKC Clinic นั้นได้รับความไว้วางใจจากลูกค้ามากมาย สำหรับการบริการในด้านการฉีด Filler ทั้งในเรื่องของผลลัพธ์ และการบริการระดับมาตรฐานสากล พร้อมยังมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในการแก้ไขปัญหาผิวและการปรับโครงสร้างหน้า
นอกจากนี้ KKC Clinic ยังการันตีด้วยประสบการณ์ทางด้านความงามมากกว่า 16 ปี มีการเปิดให้บริการทั้งหมด 15 สาขาทั้งในและต่างประเทศ พร้อมทั้งยังเป็นผู้นำในการจัดหาและนำนวัตกรรมใหม่ล่าสุดมาบริการให้กับลูกค้าเสมอ
ดังนั้นจึงมั่นใจได้ทั้งผลลัพธ์ ความปลอดภัย และความน่าเชื่อถือได้อย่างแน่นอน
ขั้นตอนการรับบริการฉีด Filler ที่ KKC Clinic
- เข้าพบแพทย์เพื่อปรึกษาปัญหาที่ต้องการแก้ไข เพื่อประเมินว่าควรทำหรือไม่ หากมีข้อสงสัยใดๆ หรือกำลังอยู่ในช่วงการรักษาตัวแล้วมีการรับประทานยาให้แจ้งแพทย์เพื่อประเมินความเสี่ยงในการทำ
- หลังจากเข้ารับการประเมินแล้วพบว่าสามารถเข้ารับบริการได้ แพทย์จะทำการอธิบายรายละเอียดในการทำ และการดูแลตนเองหลังจากเข้ารับบริการ
- ทำการนัดวันและเวลาเพื่อทำการฉีด Filler
- เมื่อถึงวันที่นัดเข้ารับบริการ เตรียมผิวด้วยการล้างหน้าให้สะอาดและไม่ต้องแต่งหน้าเพื่อให้การฉีด Filler เป็นไปอย่างแม่นยำ ซึ่งในก่อนการฉีด แพทย์จะแสดงกล่องและบรรจุภัณฑ์ของ Filler เพื่อให้ผู้ได้รับบริการมั่นใจได้ว่า Filler ที่ใช้นั้นเป็นของแท้ การฉีดจะใช้ระยะเวลาประมาณ 10-30 นาที ขึ้นอยู่กับจำนวนและบริเวณที่ทำ
- หลังเข้ารับบริการแล้วสามารถกลับบ้านได้เลยโดยไม่ต้องพักฟื้น ซึ่งผู้ได้รับบริการฉีด Filler ควรปฎิบัติตตามอย่างเคร่งครัดเพื่อให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานและไม่เคลื่อน หากเกิดอาการบวมหรือช้ำสามารถใช้การประคบเย็นเข้าช่วยได้
สรุปการฉีดฟิลเลอร์
ฟิลเลอร์คือนวัตกรรมที่ออกแบบมาเพื่อใช้ในการแก้ไขปัญหาริ้วรอยร่องลึกของผิว การฉีด Filler จึงถือว่าเป็นการฉีดสารเติมเต็มเพื่อคงความอ่อนเยาว์ให้ผิว และด้วยคุณสมบัตินี้จึงทำให้ Filler ถูกนำมาใช้ในการฉีดเพื่อลบจุดด้อยและเพิ่มจุดเด่นบนใบหน้า หรือแม้กระทั่งฉีดเพื่อปรับโหวงเฮ้งเพื่อเพิ่มความมั่นใจ
Filler ที่ใช้ในการฉีดเพื่อเสริมความงามทำมาจากอนุพันธ์ของ Hyaluronic Acid ที่เป็นสารที่พบได้ทั่วไปในร่างกายของเรา ไม่ว่าจะเป็นที่เนื้อเยื่อ ผิว ข้อต่อ หรือดวงตาของเราจึงมั่นใจได้ในเรื่องความปลอดภัย
อีกหนึ่งคุณสมบัติที่ทำให้ Filler เหมาะนำมาฉีดเพื่อเสริมความงามนั่นคือความสามารถในการสลายตัวโดยไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย อีกทั้งยังสามารถฉีดได้เรื่อยๆ
ปกติแล้ว Filler จะอยู่ได้นานประมาณ 6-12 เดือน แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองหลังจากการทำด้วย แต่ถ้าหากได้ผลลัพธ์ที่ได้ไม่ถูกใจก็สามารถทำการฉีดเพื่อสลาย Filler ได้เช่นเดียวกัน
Filler สามารถฉีดได้ที่หน้าผาก ขมับ คาง จมูก ริมฝีปาก และริ้วรอยร่องลึกต่างๆบนใบหน้า ความน่าเชื่อถือของสถานที่ที่จะเข้ารับบริการฉีด Filler นั้นสำคัญมาก
หากเลือกคลินิกที่ไม่มีความน่าเชื่อถืออาจมีโอกาสในการนำ Filler ปลอมที่ทำมาจากซิลิโคนมาใช้ซึ่งเป็นอันตรายมาก เนื่องจากซิลิโคนไม่สามารถเสื่อมสลายได้เอง และยังอาจทำให้เกิดการอักเสบและการบาดเจ็บของผิว
ดังนั้นหากใครที่ต้องการฉีด Filler ควรมีการขอแพทย์ผู้ให้บริการแสดงกล่องและบรรจุภัณฑ์ของ Filler เพื่อตรวจเช็คฉลากภาษาไทย เลขที่จดแจ้ง อย. และเลข lot no. เพื่อให้มั่นใจว่าคุณได้ใช้ Filler แท้ในการฉีด
ตอบคำถามเรื่องการฉีดฟิลเลอร์กับ KKC Clinic
จะรู้ได้อย่างไรว่า Filler ที่ได้รับการฉีดเป็นของแท้ หรือของปลอม
การเลือกรับบริการในสถานที่ที่มีความน่าเชื่อถือจะช่วยให้หลีกเลี่ยงปัญหานี้ไปได้ หากต้องการทราบว่า Filler ที่ใช้นั้นเป็นของแท้หรือว่าของปลอมให้เช็คจากแบรนด์ที่ทางคลีนิคนำมาฉีด ก่อนฉีดให้ขอดูกล่องและบรรจุภัณฑ์นั้นๆ ว่ามีฉลากภาษาไทย เลขจดแจ้ง อ.ย. เลข lot no. ว่าตรงกันทั้งกล่องและบรรจุภัณฑ์ และสามารถนำเลข lot no. ไปเช็คกับผู้ผลิตได้ เพื่อให้เกิดความแน่ใจก่อนฉีด
ต้องฉีด Filler กี่ครั้งจึงจะเห็นผล
การฉีด Filler นั้นสามารถเห็นผลได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ หากต้องการเพิ่มเติมก็สามารถแจ้งแพทย์ได้เพื่อทำการวินิจฉัยเพิ่มเติมและหาเวลาที่เหมาะสมที่จะทำเพิ่มเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
หลังจากฉีด Filler ควรดูแลตัวเองอย่างไรเพื่อไม่ให้ Filler สลายตัวเร็ว
การดูแลตนเองหลังจากการฉีด Filler ในช่วง 72 ชั่วโมงแรกนั้นสำคัญมาก หลังจากได้รับการฉีดให้หลีกเลี่ยงการไปอยู่ในที่อากาศร้อนทุกชนิด หลังจากการฉีดช่วง 24 ชั่วโมงแรกห้ามทาสกินแคร์ทุกชนิด และอย่าจับหรือนวดคลึงใบหน้าเพื่อให้ Filler ไม่เคลื่อนตัว และการงดดื่มแอลกอฮอล์ งดอาหารหมักดอง รวมถึงการสูบบุหรี่ก็จะช่วยให้ผิวบริเวณที่มีการฉีด Filler มีอาการบวมน้อยลง และสามารถกลับเป็นปกติได้อย่างรวดเร็ว
หลังจากการฉีด Filler สามารถรับประทานวิตามินหรืออาหารเสริมได้หรือไม่
ในช่วง 1 เดือนแรกหลังจากฉีด Filler ควรงดการทานอาหารเสริมและวิตามินไปก่อนเนื่องจากวิตามินและอาหารเสริมบางอย่าง เช่น สารสกัดจากแปะก๊วย น้ำมันพริมโรส กระเทียม โสม และวิตามินอี อาจมีผลทำให้ผิวบริเวณที่ฉีด Filler หายบวมหรือช้ำช้าลง
หากได้รับการฉีด Filler แล้วไม่พึงพอใจในผลลัพธ์ ต้องการแก้ไข ปรับเปลี่ยน หรือทำการสลาย Filler สามารถทำได้หรือไม่
หากไม่พึงพอใจผลลัพธ์สามารถทำการแก้ไขได้โดยปรึกษาแพทย์เพื่อหาวิธีที่เหมาะสมกับการปรับเปลี่ยนหรือแก้ไข ถ้าหากไม่ต้องการให้ Filler อยู่ในผิวแล้วก็สามารถฉีดสลายได้เช่นเดียวกัน ซึ่งการฉีดสลาย Filler นั้นไม่ก่อให้เกิดอันตรายแก่ร่างกายแต่อย่างใด
ค่าใช้จ่ายในการฉีด Filler แพงมั้ย
ค่าใช้จ่ายในการฉีด Filler นั้นแตกต่างกันไปตามบริเวณและปริมาณของ Filler ที่ใช้ในการฉีด ที่ KKC Clinic เรามีโปรโมชั่นที่ราคาน่าสนในการฉีด Filler อยู่เสมอ
หากต้องการปรึกษาหรือสอบถามสามารถติดต่อเข้ามาได้ เรามีทีมแพทย์ที่พร้อมตอบทุกคำถาม
References
เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง:
Filler ฉีดสารเติมเต็ม สยบปัญหาริ้วรอย