รูปร่างกระชับ ใบหน้าเรียวได้รูป ไม่ต้องผ่าตัด

ริ้วรอย ที่เกิดขึ้นบนใบหน้าของคนเรานั้น เกิดจากการแสดงสีหน้าและอารมณ์ ต่างๆ ซ้ำๆ กล้ามเนื้อ มัดที่เราใช้แสดงสีหน้าและอารมณ์ ก็จะเกิดการหดตัวทำให้ ผิวหนัง ที่อยู่เหนือกล้ามเนื้อนั้น เกิดเป็น รอยให้เห็น หรือที่เรียกว่า “ รอยย่น ” เมื่อเราฉีด BTA เข้าในกล้ามเนื้อที่มีริ้วรอย ในปริมาณยาเพียงเล็กน้อย ยาจะออกฤทธิ์ยับยั้งการนำกระแสประสาทที่ส่งมายังกล้ามเนื้อบริเวณนั้น ทำให้เกิดการคลายตัว เมื่อ กล้ามเนื้อคลายตัว ผิวหนังด้านบนของกล้ามเนื้อนั้นก็จะเรียบและไม่มีรอยย่น ส่วนการทำงานด้านอื่นๆ ของเส้นประสาทเป็นปกติ เช่น การรับรู้ความรู้สึกต่างๆ เป็นปกติ

การออกฤทธิ์ของยา เป็นการออกฤทธิ์เฉพาะที่ หรือออกฤทธิ์เฉพาะบริเวณที่ฉีดเท่านั้น ไม่มีผลกับ กล้ามเนื้อ ส่วนอื่นๆ เมื่อคุณแสดง สีหน้า และ อารมณ์ ต่างๆ สีหน้า คุณดูเป็น ธรรมชาติ เพียงแต่ ริ้วรอย หายไปเท่านั้น

สารโบทูลินั่มท็อกซิน (Botulinum Toxin) ?

เป็นโปรตีนสกัดบริสุทธิ์ มีประสิทธิภาพในการคลายกล้ามเนื้อ เดิมทีแพทย์ใช้สารโบทูลินั่มท็อกซินรักษาผู้ป่วยที่มีอาการชักเกร็ง ตาเข ตาเหล่ อาการปวดศีรษะไมเกรน และภาวะกล้ามเนื้อหลังอักเสบ ต่อมาได้พัฒนามาใช้ในด้านความสวยความงามกันอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน เพราะทำให้หน้าเรียบเนียน กระชับ และยังสามารถใช้ในการปรับรูปหน้าให้เรียวสวยได้

โดยแพทย์จะเลือกจุดในการฉีดสารโบทูลินั่มท็อกซิน เพื่อทำการปรับรูปหน้า โดยอาจจะเลือกฉีดสารเข้าไปเพื่อเติมเต็มสิ่งที่หายไป หรือฉีดอีกจุดหนึ่งเพื่อทำให้ใบหน้าเรียวสวยได้รูป ซึ่งคุณสมบัติในการคลายกล้ามเนื้อนี้เอง จึงทำให้สารโบทูลินั่มท็อกซินสามารถช่วยแก้ไขปัญหาน่องปูด (ที่เกิดจากกล้ามเนื้อ) ให้เรียวขากลับมาสวยได้ และอีกหนึ่งคุณสมบัติดีๆ ก็คือสารโบทูลินั่มท็อกซินช่วยลดเหงื่ออันเป็นสาเหตุของกลิ่นตัว

โดยจะออกฤทธิ์ยับยั้งการสั่งงานของเส้นประสาทที่ไปเลี้ยงต่อมเหงื่อ ทำให้เหงื่อออกน้อยกว่าปกติในบริเวณที่ฉีด

อาการหลังฉีดสารโบทูลินั่มท็อกซิน ?

• • หลังทำการฉีดสารโบทูลินั่มท็อกซินอาจมีอาการปวดบวม มีรอยช้ำบริเวณที่ฉีดโบท็อกซ์ หรือ ปวดศีรษะ ซึ่งอาการเหล่านี้จะหายไปได้เองประมาณ 1-2 วัน
  • อาจมีอาการตึง หนักหน้าได้บ้างประมาณ 3-4 วัน หลังจากนั้นจะกลับเป็นปกติ
  • ในการรักษาเรื่องริ้วรอยด้วยสารโบทูลินั่มท็อกซิน จะเริ่มเห็นผลการรักษาสูงสุดภายใน 1-2 สัปดาห์ และประสิทธิภาพอยู่ได้นานประมาณ 6 เดือน ขึ้นอยู่กับสภาพผิวหน้าของแต่ละบุคคล โดยควรกลับมาฉีดซ้ำประมาณ 2-3 ครั้งต่อปี*
  • สำหรับการฉีดโบท็อกซ์เพื่อปรับรูปหน้า จะเริ่มเห็นผลหลังฉีดประมาณ 2-4 สัปดาห์

*หมายเหตุ ผลการศึกษาพบว่า การฉีดโบท็อกซ์ต่อเนื่องจะช่วยทำให้การฉีดโบท็อกซ์ครั้งต่อๆ ไป มีประสิทธิภาพที่ยาวนานขึ้น และช่วยให้ฉีดในปริมาณน้อยลงไปเรื่อยๆ ริ้วรอยจะไม่เพิ่มขึ้น

ข้อดี ของการฉีดสารโบทูลินั่มท็อกซิน

• ผิวหน้าและลำคอเรียบเนียน กระชับ ลดริ้วรอย ป้องกันการเกิดร่องลึกบนใบหน้า
• หน้าเรียวสวยได้รูป ลดกราม ลดโหนกแก้ม
• ลดขนาดน่องขาให้เล็กลงและยกกระชับทรวงอก
• ฉีดเพื่อลดเหงื่ออันเป็นสาเหตุของกลิ่นตัวที่รักแร้

เวลาที่ใช้ในการรักษา – ประมาณ 10-20 นาที ขึ้นอยู่กับบริเวณที่ทำ

ข้อควรระวัง

• • • หากมีรอยช้ำหลังฉีดให้ประคบเย็นหรือประคบอุ่นได้ แต่อย่ากดนวด
    • หลังฉีด 2-3 ชั่วโมงให้พยายามขยับกล้ามเนื้อในบริเวณที่ฉีดโดยการยิ้ม ขมวดคิ้ว ยักคิ้ว หรือเคี้ยวหมากฝรั่ง 15-30 นาที เพื่อให้โบท็อกซ์ออกฤทธิ์ในเซลล์กล้ามเนื้อได้ดีขึ้น
    • ไม่ควรนอนราบ นอนตะแคง หรือ ก้มหน้า ในช่วง 4 ชั่วโมงหลังการรักษา เพราะอาจทำให้ตัวยากระจายไปผิดทิศทางจากจุดที่ตั้งใจได้
    • งดการนวดหน้าหรือการทำทรีทเมนต์ใบหน้าอย่างน้อย 1 สัปดาห์
    • ในกรณีที่ฉีดโบท็อกซ์เพื่อปรับรูปหน้า ควรหลีกเลี่ยงการเคี้ยวอาหารที่แข็งและเหนียว
    • งดทานยาจำพวกแอสไพริน วิตามินอี
    • ควรหลีกเลี่ยงความร้อน เช่น การเล่นโยคะร้อน อบซาวน่า อบสมุนไพร
    • ใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 เป็นประจำ
    • ล้างหน้าด้วยน้ำสะอาดและซับหน้าเพียงเบาๆ
    • งดดื่มแอลกอฮอล์ในช่วง 2 สัปดาห์แรก