เลเซอร์ CO2 คืออะไร กำจัดกระเนื้อ, ติ่งเนื้อ, สิวหินได้ดีไหม?

หากพูดถึงโปรแกรมการรักษาที่ใช้การยิงเลเซอร์ CO2 Laser ก็ถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดีในการรักษาปัญหาผิวที่คนไข้หลายคนกังวลใจ โดยเฉพาะในคนไข้ที่มีไฝ, ขี้แมลงวัน, กระเนื้อ, ติ่งเนื้อ, สิวหิน, หูด หรือส่วนเกินอื่น ๆ เพราะสามารถใช้การจี้ด้วยเครื่องยิง Laser CO2 ได้ค่ะ โดยจะเห็นผลลัพธ์ทันทีตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ นอกจากนี้ CO2 Laser ยังสามารถใช้ในการกรอผิว เพื่อผลัดเซลล์ผิวเก่า กระตุ้นให้เกิดการสร้างเซลล์ผิวใหม่ ไปพร้อม ๆ กับกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ซึ่งจะช่วยรักษาหลุมสิว, ลดเลือนริ้วรอยเล็ก ๆ และทำให้คนไข้มีผิวที่เรียบเนียนยิ่งขึ้นค่ะ
CO2 Laser คืออะไร?
CO2 Laser (คาร์บอนไดออกไซด์เลเซอร์) หรือ เลเซอร์ CO2 คือโปรแกรมทางการแพทย์ในการรักษาปัญหาผิวด้วยแสงเลเซอร์ประเภทหนึ่ง ซึ่งใช้ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) มาเป็นตัวกลางในการผลิตแสงเลเซอร์ ที่มีความยาวคลื่น 10,600 nm โดยเลเซอร์ CO2 จะสามารถใช้ในการกำจัดเนื้อเยื่อส่วนเกินต่าง ๆ ได้ดี ช่วยกำจัดปัญหาจำพวกไฝ, ขี้แมลงวัน, กระเนื้อ, ติ่งเนื้อ, สิวหิน, หูด รวมถึงต่อมไขมันโตที่หน้าได้อย่างแม่นยำ โดยไม่ทำลายเนื้อเยื่ออื่นที่อยู่รอบ ๆ ไม่ทำให้เลือดออก หรือออกน้อย รวมถึงไม่ทำให้ผิวไหม้ และมีโอกาสเกิดรอยแผลเป็นน้อยมาก
นอกจากนี้ CO2 Laser ยังสามารถใช้เพื่อผลัดเซลล์ผิวเก่า กระตุ้นให้เกิดการสร้างเซลล์ผิวใหม่ และกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนได้ด้วย ซึ่งเลเซอร์ CO2 ยังมีข้อดีคือ เห็นผลตั้งแต่ครั้งแรกหลังทำ, ให้ผลลัพธ์ภายหลังการรักษาที่มีประสิทธิภาพ, ใช้เวลาในการรักษาน้อย, ไม่ต้องพักฟื้นนาน, มีความปลอดภัยสูง และโอกาสในการเกิดผลข้างเคียงที่อาจเป็นอันตรายต่ำ เพราะไม่ต้องใช้การผ่าตัด
เลเซอร์ CO2 ทำงานยังไง และมีกี่แบบ?
เครื่องเลเซอร์ CO2 จะผลิตแสงเลเซอร์ที่มีความยาวคลื่น 10,600 nm ซึ่งเป็นความยาวคลื่นที่อยู่ในช่วงคลื่นของอินฟราเรด มีคุณสมบัติในการดูดซับน้ำได้ดี เมื่อยิงแสงเลเซอร์นี้ลงไปบนผิวหนังในตำแหน่งที่ต้องการรักษา พลังงานของอินฟราเรดจะทะลุผ่านชั้นผิวหนังลงไป และถูกดูดซับโดยน้ำในเซลล์ที่เป็นส่วนประกอบของผิวหนัง ทำให้เกิดความร้อนสูงอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้เนื้อเยื่อส่วนเกินที่ไม่ต้องการหลุดลอกออก หรือถูกทำลาย รวมถึงทำให้เนื้อเยื่อบริเวณที่เป็นปัญหาตายไป
นอกจากนี้ หากเป็นการรักษาแบบ CO2 Fractional Laser ก็จะช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่า กระตุ้นให้เกิดการสร้างเซลล์ผิวใหม่ และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนอีกด้วยค่ะ
โดย CO2 Laser จะแบ่งออกเป็น 2 แบบ ดังนี้
- Traditional CO2 Laser: คือการยิงเลเซอร์ลงโดยตรงที่จุดเดียว เพื่อแก้ไขปัญหาและกำจัดส่วนเกินอย่างเจาะจงเฉพาะจุด เช่น จี้ไฝ, ขี้แมลงวัน, กระเนื้อ, ติ่งเนื้อ, สิวหิน, หูด
- Fractional CO2 Laser: คือการยิงเลเซอร์เป็นจุดเล็ก ๆ ถี่ ๆ หลายจุดคล้ายตะแกรง เพื่อผลัดเซลล์ผิวเก่า เผยเซลล์ผิวใหม่ และกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจน ทำให้หลุมสิวตื้นขึ้น, รูขุมขนเล็กลง, ลดริ้วรอยเล็ก ๆ, ผิวเรียบเนียนมากขึ้น และยังช่วยรักษารอยแผลเป็น รวมถึงลดรอยแตกลาย
การเลเซอร์ด้วย CO2 Laser ช่วยเรื่องอะไร?
หากแบ่งตามประเภทของ CO2 Laser การยิงเลเซอร์ CO2 ก็จะช่วยในเรื่องต่าง ๆ ดังต่อไปนี้ค่ะ
- Traditional CO2 Laser ช่วยในการรักษา…
- ไฝ, ขี้แมลงวัน
- กระเนื้อ
- ติ่งเนื้อ
- สิวหิน, สิวข้าวสาร, สิวอุดตัน
- หูด
- ต่อมไขมันโต
- เนื้องอกของต่อมไขมัน, ต่อมเหงื่อ หรือเนื้องอกผิวหนังอื่น ๆ
- Fractional CO2 Laser ช่วยในเรื่องของ…
- รักษาหลุมสิวและรอยแผลเป็น
- รูขุมขนเล็กลง
- ผิวเรียบเนียนขึ้น
- ลดเลือนริ้วรอยเล็ก ๆ
- ลดรอยแตกลาย
CO2 Laser เหมาะกับใคร?
การทำ CO2 Laser จะเหมาะและไม่เหมาะกับคนในกลุ่มต่อไปนี้ค่ะ
คนที่เหมาะกับการทำ CO2 Laser
- คนที่มีไฝ, ขี้แมลงวัน, กระเนื้อ, ติ่งเนื้อ, หูด
- คนที่มีสิวหิน, สิวข้าวสาร, สิวอุดตัน
- คนที่มีต่อมไขมันโต, เนื้องอกต่อมไขมัน, เนื้องอกผิวหนังอื่น ๆ
- คนที่มีหลุมสิวหรือรอยแผลเป็น
- คนที่มีรูขุมขนกว้าง, มีริ้วรอยเล็ก ๆ, มีปัญหาผิวไม่เรียบเนียน
- คนที่มีรอยแตกลาย
- คนที่ไม่อยากหรือไม่เหมาะกับการแก้ปัญหาผิวเหล่านี้ด้วยการผ่าตัด
คนที่ไม่เหมาะกับการทำ CO2 Laser
- คุณแม่ที่อยู่ในระหว่างการตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร
- คนที่เพิ่งผ่านการรักษาด้วยการฉายรังสีบริเวณใบหน้า
- คนที่มีโรคประจำตัวบางโรค เช่น โรคเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน, โรคแพ้ภูมิตัวเอง (SLE), โรคผิวหนังอื่น ๆ ที่รุนแรง
ถ้ายังไม่แน่ใจว่าการทำ CO2 Laser จะเหมาะกับคุณหรือไม่? คุณสามารถจองรับคำปรึกษากับเราฟรี เพื่อรับแผนการรักษาจากการประเมินของแพทย์ ที่ออกแบบมาเพื่อคุณโดยเฉพาะ
ขั้นตอนการทำ CO2 Laser ที่ KKC Clinic
ก่อนที่จะเริ่มทำ CO2 Laser คนไข้ก็จะต้องเข้าพบแพทย์ก่อนค่ะ เพื่อให้แพทย์ซักประวัติ พร้อมกับช่วยวิเคราะห์ปัญหาและสภาพผิวของคนไข้ เพื่อที่จะได้แนะนำแนวทางการรักษาที่เหมาะสมต่อไป จากนั้นก็จะเข้าสู่ขั้นตอนการยิงเลเซอร์ ดังนี้ค่ะ
- ผู้ช่วยแพทย์ทำความสะอาดผิวของคนไข้
- แปะยาชา หรือฉีดยาชา หากเป็นการแปะยาชาจะต้องรอประมาณ 30 – 60 นาที แต่หากเป็นการฉีดยาชาก็จะสามารถทำได้เลย
- ผู้ช่วยแพทย์สวมแว่นตาหรือที่ครอบตาให้กับคนไข้ เพื่อป้องกันดวงตาจากแสงเลเซอร์
- แพทย์เริ่มทำการยิงเลเซอร์ตามแผนการรักษาที่วางไว้ ซึ่งขั้นตอนนี้อาจจะใช้เวลาตั้งแต่ 30 นาที – 2 ชม. ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของปัญหา รวมถึงขนาดและจำนวนของบริเวณที่ต้องยิง
- เมื่อยิงเลเซอร์เสร็จ ผู้ช่วยแพทย์จะทำความสะอาดผิวอีกครั้ง แล้วทายาฆ่าเชื้อ
- อาจมีการแปะพลาสเตอร์ปิดแผลตามความเหมาะสม เป็นขั้นตอนสุดท้าย
ภายหลังการยิงเลเซอร์ คนไข้อาจจะรู้สึกว่าผิวมีความบวมแดงเล็กน้อย รวมถึงมีแผลตกสะเก็ดเล็ก ๆ เกิดขึ้น ซึ่งก็ไม่ต้องกังวลไปนะคะ เพราะอาการบวมแดงจะค่อย ๆ ลดลงใน 1 – 3 วัน ส่วนสะเก็ดจะหลุดออกเองในประมาณ 7 – 14 วันค่ะ
ก่อนและหลังการทำ CO2 Laser
เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ภายหลังการรักษาที่มีประสิทธิภาพ และป้องกันการเกิดผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายอย่างเช่นแผลติดเชื้อ คนไข้จึงควรปฏิบัติตัวตามวิธีการเตรียมตัวก่อนทำ CO2 Laser และวิธีการดูแลตัวเองหลังทำ CO2 Laser ดังนี้ค่ะ
วิธีการเตรียมตัวก่อนทำ CO2 เลเซอร์
- เตรียมข้อมูลสุขภาพไปแจ้งกับแพทย์ เช่น โรคประจำตัว, โรคที่กำลังรักษา, ยาที่ทานเป็นประจำ, ยาที่แพ้ รวมถึงประวัติการทำหัตถการที่เพิ่งผ่านมา
- หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่อาจก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อผิว เช่น ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ AHA, BHA, วิตามิน C และเรตินอยด์
- หลีกเลี่ยงการโดนแดดตรง ๆ อย่างน้อย 1 – 2 สัปดาห์ หากต้องออกไปโดนแดด ให้ทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF สูง ๆ หรือสวมใส่เสื้อผ้าที่จะช่วยปกคลุมผิวจากแสงแดด
- ควรหลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์และการสูบบุหรี่ อย่างน้อย 2 สัปดาห์
- หากเป็นการจี้ไฝหรือติ่งเนื้อขนาดใหญ่ อาจจะต้องงดการรับประทานยา, วิตามิน, อาหารเสริม ที่ส่งผลต่อการไหลเวียนของเลือด เช่น แอสไพริน, ไอบูโพรเฟน, NSAIDs, วิตามิน St. John’s Wort, Ginkgo Biloba และวิตามิน E ประมาณ 1 สัปดาห์ (ขึ้นอยู่กับคำแนะนำของแพทย์)
วิธีการดูแลตัวเองหลังจากเลเซอร์หน้า CO2 หรือเลเซอร์กระ
- หลีกเลี่ยงการให้บริเวณที่ยิงเลเซอร์โดนน้ำใน 24 ชม.แรกหลังทำ หลังจากนั้นสามารถล้างหน้าได้ แต่ไม่ควรเช็ดถูใบหน้าแรง ๆ และเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่มีความอ่อนโยน
- หากมีการติดพลาสเตอร์กันน้ำมาให้ ควรแปะไว้ประมาณ 7 วัน แต่หากพลาสเตอร์หลุดก่อน ให้ทำความสะอาดแผลด้วยน้ำเกลือ แล้วติดพลาสเตอร์กันน้ำอันใหม่
- หากมีแผลตกสะเก็ด ไม่แนะนำให้แกะสะเก็ดออกเอง ควรปล่อยให้สะเก็ดหลุดออกตามธรรมชาติ ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 7 – 14 วัน
- ทาครีมกันแดดที่มี SPF สูง ๆ เป็นประจำ และหลีกเลี่ยงการโดนแดดโดยตรงประมาณ 2 – 4 สัปดาห์ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดรอยดำ
- หลีกเลี่ยงการแต่งหน้าหรือใช้เครื่องสำอางในบริเวณที่ยิงเลเซอร์จนกว่าแผลจะหาย หรือตามระยะเวลาที่แพทย์แนะนำ
- หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนัก ๆ หรือกิจกรรมที่จะทำให้เหงื่อออกมาก
- ทานยาหรือทายาตามที่แพทย์แนะนำ
- หากมีนัดพบแพทย์ ให้กลับมาพบแพทย์ตามนัด หรือกลับมาพบแพทย์หากมีความผิดปกติใด ๆ เกิดขึ้น
ผลข้างเคียงจากการทำเลเซอร์ CO2
แม้ว่า CO2 Laser จะเป็นหัตถการที่ปลอดภัย แต่ก็อาจมีผลข้างเคียงเล็กน้อยที่พบได้ทั่วไปค่ะ เช่น ผิวมีความไวต่อสิ่งเร้า (sensitive) มากขึ้น เช่น โดนแดดแล้วแสบผิว ซึ่งจะค่อย ๆ ดีขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป, ผิวบริเวณที่ทำมีอาการบวมแดง ซึ่งจะค่อย ๆ ดีขึ้นใน 1 – 3 วัน, เกิดแผลตกสะเก็ด ซึ่งสะเก็ดจะค่อย ๆ หลุดออกเองใน 7 – 14 วัน, ผิวกลายเป็นสีแดงหรือสีชมพู ซึ่งจะกลับมาเป็นปกติใน 3 – 4 เดือน, สีผิวเข้มขึ้น ซึ่งจะจางลงจนเป็นปกติใน 2 – 6 เดือน
นอกจากนี้ หากคนไข้ไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำในการดูแลตัวเอง หรือไปยิง CO2 Laser กับแพทย์ที่ขาดความชำนาญ ก็อาจจะก่อให้เกิดผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายได้ค่ะ เช่น อาการบวมแดงมากผิดปกติ, มีรอยไหม้, มีรอยแผลเป็น, เกิดผื่นแดงเรื้อรัง, ผิวลอก, สีผิวซีดจางหลายเดือนหรือถาวร, ผิวหนังอักเสบหรือติดเชื้อ
ดังนั้น ก่อนทำ CO2 Laser คนไข้จึงควรศึกษาข้อมูลให้ดี เพื่อที่จะได้เลือกทำการรักษาในคลินิกที่ใช้เครื่อง CO2 Laser ของแท้ และยิงโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ รวมถึงเป็นคลินิกที่ผ่านการรับรองมาตรฐาน อย่างที่ KKC Clinic นะคะ ทั้งนี้ อีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญในการป้องกันผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายคือ การปฏิบัติตัวตามวิธีการดูแลตัวเองดังที่กล่าวมา หรือตามคำแนะนำของแพทย์ค่ะ
CO2 Laser ราคาเท่าไหร่?
ถ้าอ่านมาจนถึงหัวข้อนี้ หลาย ๆ ท่านคงมีคำถามแล้วว่า “การทำเลเซอร์ CO2 มีราคากี่บาท?” หรือ “การเลเซอร์สิวหินมีราคาเท่าไหร่?” คำตอบก็คือ การทำเลเซอร์ CO2 ที่ KKC Clinic เพื่อรักษาปัญหาต่าง ๆ เช่น กำจัดติ่งเนื้อ, กระเนื้อ, สิวหิน หรือต่อมไขมันโตที่หน้า มีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 1,000 บาทเท่านั้นค่ะ
ทั้งนี้ คนไข้จะทราบค่าใช้จ่ายในการรักษาทั้งหมด ภายหลังจากที่เข้าพบแพทย์นะคะ โดยราคาก็จะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยค่ะ เช่น ประเภทของเลเซอร์ที่ใช้ (Traditional หรือ Fractional), ประเภทของปัญหาที่ต้องการกำจัด, รวมถึงขนาดและจำนวนของส่วนเกินที่เป็นปัญหาด้วยค่ะ
คุณสามารถจองรับคำปรึกษากับเราฟรี เพื่อรับใบเสนอราคาที่จัดเตรียมมาให้เหมาะกับเป้าหมายและแผนการรักษาของคุณโดยเฉพาะ
คำถามที่พบบ่อย
การทำ CO2 Laser เจ็บไหม?
โดยทั่วไปแล้ว ก่อนการทำ CO2 Laser จะมีการแปะยาชาหรือฉีดยาชาให้ค่ะ แต่คนไข้ก็ยังอาจจะรู้สึกเจ็บบ้างเล็กน้อย ในระดับที่ทนได้ หรือในคนไข้บางคนก็ไม่รู้สึกเจ็บค่ะ เพียงแต่รู้สึกถึงพลังงานของเลเซอร์ที่ยิงลงไปบนผิวเท่านั้น
หลังเลเซอร์หน้าด้วย CO2 Laser หรือหลังจี้ไฝ ห้ามโดนน้ำกี่วัน?
หลังทำเลเซอร์หน้าหรือทำการรักษาด้วย CO2 Laser โดยปกติแล้วจะห้ามโดนน้ำประมาณ 24 ชม.ค่ะ
หลังเลเซอร์หน้าด้วย CO2 Laser ห้ามกินอะไร?
หลังทำ CO2 Laser จะไม่ได้มีอาหารที่ห้ามกินเป็นพิเศษค่ะ แต่ให้ระวังการกินอาหารเผ็ด ๆ หรืออาหารร้อน ๆ ที่อาจทำให้เหงื่อไหลมาโดนผิวบริเวณที่เพิ่งยิงเลเซอร์ และแนะนำให้หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์กับการสูบบุหรี่นะคะ
หลังเลเซอร์หน้าด้วย CO2 Laser ทาครีมกันแดดได้ไหม?
ได้ค่ะ โดยหลังทำ CO2 Laser จะแนะนำให้คนไข้ทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF สูง ๆ นะคะ แต่อาจจะต้องรอให้แผลหายก่อน หรือเว้นระยะเวลาตามคำแนะนำของแพทย์ ถึงค่อยทาครีมกันแดดค่ะ
การเลเซอร์ด้วย Fractional CO2 Laser ต้องทำกี่ครั้งถึงจะเห็นผล?
หากเป็นการเลเซอร์ด้วย Traditional CO2 Laser ทำเพียง 1 – 2 ครั้งก็จะสามารถกำจัดปัญหา เช่น ไฝ, ขี้แมลงวัน, ติ่งเนื้อเล็ก ๆ ได้อย่างถาวรค่ะ แต่ถ้าหากปัญหาเหล่านี้มีขนาดใหญ่มาก ๆ ก็อาจจะต้องกลับมาทำซ้ำนะคะ
ส่วนการทำเลเซอร์ Fractional CO2 อาจจะเห็นผลได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำค่ะ ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ปัญหาและสภาพผิวของคนไข้ หรือหากเป็นการทำเพื่อรักษาหลุมสิว ก็อาจจะต้องทำประมาณ 4 – 6 ครั้งค่ะ ซึ่งจำนวนครั้งและความถี่ในการทำ จะขึ้นอยู่กับการประเมินของแพทย์นะคะ
ผลของ CO2 Laser อยู่ได้นานแค่ไหน?
หากเป็นการเลเซอร์แบบ Traditional CO2 Laser เพื่อกำจัดส่วนเกิน ผลลัพธ์ก็จะอยู่ได้ถาวรค่ะ แต่หากเป็นการเลเซอร์แบบ Fractional CO2 Laser ระยะเวลาของผลลัพธ์ก็จะขึ้นอยู่กับปัจจัยต่าง ๆ ทั้งนี้ หากคนไข้มีการปฏิบัติตัวตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด และมาเข้ารับการรักษาอย่างสม่ำเสมอตามที่แพทย์แนะนำ ผลลัพธ์ก็สามารถอยู่ได้นานเป็นปีค่ะ
แผลหลังเลเซอร์จาก CO2 Laser หรือแผลจี้ไฝ / ขี้แมลงวัน / กระ กี่วันหาย?
ส่วนมากแล้ว แผลต่าง ๆ จากการทำ CO2 Laser จะหายในประมาณ 7 – 14 วันค่ะ
หลังทำ CO2 Laser ควรนอนยังไง?
หลังทำ CO2 Laser ในช่วงแรก จะแนะนำให้คนไข้นอนหงายและหนุนหมอนสูง ๆ เพื่อลดอาการบวมที่อาจเกิดขึ้นนะคะ รวมถึงเลือกใช้ปลอกหมอนที่มีความสะอาดด้วยค่ะ
CO2 Laser กับ Sylfirm X Plus ต่างกันยังไง?
การทำ CO2 Laser จะใช้การผลิตแสงเลเซอร์ผ่านตัวกลางอย่างก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) โดยมีจุดประสงค์หลักเพื่อกำจัดส่วนเกินที่เป็นปัญหาต่าง ๆ เช่น ไฝ, ขี้แมลงวัน, กระเนื้อ, ติ่งเนื้อ, สิวหิน รวมถึงสามารถใช้ในการกรอผิว เพื่อให้เกิดการผลัดเซลล์ผิว และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนค่ะ
ในขณะที่ Sylfirm X Plus จะใช้เทคโนโลยี RF Microneedling ซึ่งสามารถทำการรักษาและแก้ปัญหาได้หลากหลายกว่า เช่น ลดฝ้า / จุดด่างดำ / รอยแดงและรอยดำจากสิว, ปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ ช่วยให้ผิวมีความกระจ่างใสขึ้น, ยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อย แต่ก็สามารถกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน, ลดขนาดรูขุมขน, ลดริ้วรอยเล็ก ๆ และรักษาหลุมสิวได้เหมือนกันค่ะ
ทั้งนี้ ถ้าคนไข้ยังไม่แน่ใจว่าควรยิงเลเซอร์แบบไหน ก็ขอแนะนำให้เข้ามาพบแพทย์ที่ KKC Clinic ก่อนนะคะ ทีมแพทย์ของเราจะช่วยออกแบบแผนการรักษาที่เหมาะกับคนไข้แต่ละคนให้โดยเฉพาะค่ะ
ควรทำ CO2 Laser ที่ไหนดี?
สำหรับคนไข้ที่สนใจจะทำ CO2 Laser เราก็ขอแนะนำให้มาทำที่ KKC Clinic ด้วยเหตุผลดังต่อไปนี้ค่ะ
- ทีมแพทย์ของเรามีประสบการณ์ในการรักษาปัญหาผิวมาอย่างยาวนาน และมีความเชี่ยวชาญในการใช้เครื่องมือต่าง ๆ เป็นอย่างดี
- นอกจาก CO2 Laser แล้ว ที่ KKC Clinic ยังมีอุปกรณ์และเครื่องมือใหม่ ๆ ที่มีเทคโนโลยีทันสมัย พร้อมให้บริการแก่คนไข้มากมาย เช่น Ultherapy Prime และ Sylfirm X Plus
- ภายหลังการรักษา เราจะมีเจ้าหน้าที่ของ KKC Clinic คอยดูแลและติดตามผลลัพธ์ของคนไข้ทุกท่านอย่างใกล้ชิด
- KKC Clinic มีสาขาที่หลากหลายในกรุงเทพฯ และยังมีเจ้าหน้าที่ที่สามารถสื่อสารได้หลายภาษา เพื่อรองรับลูกค้าทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ
กำจัดส่วนเกินที่สร้างความกังวลใจ พร้อมเผยผิวสวยเนียนใสได้แล้ววันนี้ กับโปรแกรม CO2 Laser ที่ KKC Clinic นะคะ (นัดหมายเข้ารับคำปรึกษาจากแพทย์ฟรีค่ะ)