การฉีดโบท็อกซ์หน้าผากคืออะไร ทำไมถึงช่วยลดริ้วรอยได้?

ผู้ป่วยที่ KKC Clinic กำลังรับการฉีดโบท็อกซ์บริเวณหน้าผาก โดยผู้เชี่ยวชาญกำลังฉีดยา แบนเนอร์โปรโมทโปรแกรมโบท็อกซ์หน้าผาก พร้อมคำถามเกี่ยวกับประโยชน์และผลลัพธ์

เมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น หน้าผากก็นับว่าเป็นอีกตำแหน่งสำคัญที่มักจะสร้างความกังวลใจให้ใครหลาย ๆ คน โดยเฉพาะเวลาที่เลิกคิ้วหรือยักคิ้ว ที่มักจะทำให้เห็นริ้วรอยเป็นร่อง หรือรอยย่นเป็นเส้นอย่างชัดเจน ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์และความมั่นใจเป็นอย่างมาก แต่ปัญหานี้สามารถแก้ได้ด้วยการฉีดโบท็อกซ์หน้าผากค่ะ เพราะการฉีดโบท็อกซ์หน้าผากจะช่วยลดริ้วรอยและรอยย่นบนหน้าผากได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่ต้องใช้การผ่าตัดศัลยกรรม ทั้งช่วยปรับเปลี่ยนภาพลักษณ์ให้ดูดีขึ้น ทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ และยังช่วยป้องกันไม่ให้หน้าโทรมจนทำให้หน้าแก่ก่อนวัย จึงช่วยเรียกคืนความมั่นใจให้กลับคืนมา

ผลลัพธ์ที่ได้อาจขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล

โบท็อกซ์หน้าผากคืออะไร?

โบท็อกซ์หน้าผาก (Forehead Botox) คือการฉีดสารโบทูลินั่ม ท็อกซิน เอ (Botulinum Toxin Type A) เข้าไปที่บริเวณหน้าผาก หรือบริเวณเหนือคิ้วขึ้นไป โดยโบท็อกซ์จะออกฤทธิ์ต่อระบบประสาท ทำให้เซลล์ประสาทไม่สามารถหลั่งสารสื่อประสาท เมื่อกล้ามเนื้อไม่ได้รับสารสื่อประสาท ก็จะไม่ได้รับคำสั่งจากระบบประสาทที่จะคอยสั่งให้กล้ามเนื้อทำงานโดยการหดตัว ดังนั้น เวลาที่เราแสดงสีหน้า เช่น เลิกคิ้ว, ยักคิ้ว, ทำหน้าย่น กล้ามเนื้อก็จะไม่หดตัวจนก่อให้เกิดเป็นริ้วรอยและรอยย่นบนหน้าผาก หน้าผากของเราจึงดูตึงและเรียบเนียนขึ้น รวมถึงรูขุมขนจะกระชับขึ้นด้วยค่ะ

ทั้งนี้ การฉีดโบท็อกซ์หน้าผากจะนิยมทำควบคู่ไปกับการฉีดโบท็อกซ์ (Botox) ลดริ้วรอยในบริเวณอื่น ๆ เช่น โบท็อกซ์ระหว่างคิ้ว โบท็อกซ์ใต้ตา และโบท็อกซ์หางตา (โบท็อกซ์ตีนกา) เพื่อที่จะได้ลดริ้วรอยทั่วใบหน้า ทำให้ใบหน้าโดยรวมดูเด็กลงค่ะ

การฉีดโบท็อกซ์หน้าผากช่วยเรื่องอะไร?

แน่นอนว่า เมื่อกล้ามเนื้อบริเวณหน้าผากไม่หดตัว เวลาที่เราขยับใบหน้าเพื่อแสดงอารมณ์หรือแสดงสีหน้า บนหน้าผากก็จะไม่เกิดเป็นรอยพับหรือรอยย่นขึ้น ดังนั้น การฉีดโบท็อกซ์หน้าผากจึงช่วยลดเลือนริ้วรอย และรอยย่นของหน้าผากได้ค่ะ ทำให้หน้าผากดูตึงและเรียบเนียนมากขึ้น รวมถึงเมื่อหน้าผากไม่หดเกร็งซ้ำ ๆ นาน ๆ ก็จะป้องกันการเกิดริ้วรอยถาวรในอนาคตได้ด้วย

และสำหรับคนไข้ที่ยังลังเลว่า จะฉีดโบท็อกซ์ลดริ้วรอยบนหน้าผากดีไหม? ก็ต้องบอกว่าการฉีดโบท็อกซ์หน้าผากมีข้อดีหลายอย่างค่ะ เพราะเป็นหัตถการที่ใช้การฉีด ไม่ใช่การผ่าตัด ขณะทำจึงเจ็บตัวน้อย ใช้เวลาในการทำไม่นาน ไม่ทำให้เกิดรอยแผลเป็น หลังทำเสร็จแล้วไม่ต้องพักฟื้น มีวิธีการดูแลตัวเองไม่ยุ่งยาก ให้ผลลัพธ์ที่เห็นได้จริง ช่วยแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด และหากฉีดด้วยโบท็อกซ์ของแท้กับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ในคลินิกที่ผ่านการรับรองมาตรฐาน ก็จะเป็นหัตถการที่มีความปลอดภัยค่ะ

นอกจากนี้ ข้อดีและข้อเสียของการฉีดโบท็อกซ์คือ โบท็อกซ์สามารถสลายได้เอง 100% เมื่อเวลาผ่านไป ทำให้ไม่ทิ้งสารตกค้างใด ๆ ไว้ในร่างกาย แต่ก็ทำให้ผลลัพธ์ที่ได้ไม่ถาวร ข้อดีคือ หากไม่พอใจในผลลัพธ์ สุดท้ายแล้วผลลัพธ์นี้ก็จะหายไปเอง แต่ข้อเสียคือ หากต้องการคงผลลัพธ์ไว้ ก็จะต้องกลับมาฉีดซ้ำใหม่เรื่อย ๆ

โบท็อกซ์หน้าผากเหมาะกับใคร?

ภาพระยะใกล้ของหน้าผากผู้ป่วยที่มีริ้วรอย โดยมีมือสวมถุงมือจับผิวเบา ๆ เพื่อประเมินก่อนการฉีดโบท็อกซ์

การฉีดโบท็อกซ์หน้าผากจะเหมาะกับคนที่มีริ้วรอยและรอยย่นบริเวณหน้าผากขณะแสดงสีหน้าค่ะ โดยเฉพาะเวลาที่เลิกคิ้ว ซึ่งจะทำให้เห็นริ้วรอยพวกนี้ได้อย่างชัดเจน รวมถึงคนที่มีริ้วรอยบริเวณระหว่างคิ้วและรอบดวงตา เพราะมักจะฉีดเพื่อแก้ไขปัญหาเหล่านี้ไปพร้อม ๆ กันกับโบท็อกซ์หน้าผากเลย

การฉีดโบท็อกซ์หน้าผากยังเหมาะกับคนที่อยากป้องกันการเกิดริ้วรอยถาวร, อยากเห็นผลลัพธ์ที่รวดเร็ว และยังเหมาะกับคนไข้ที่ไม่ต้องการใช้วิธีการรักษาโดยการผ่าตัด เช่น ไม่อยากเจ็บตัวเยอะ, ไม่อยากเสียเวลาพักฟื้น, ไม่อยากเสียค่าใช้จ่ายจำนวนมาก รวมถึงคนไข้ที่ไม่เหมาะกับวิธีการผ่าตัด เช่น มีโรคประจำตัวหลายโรค หรือมีโรคประจำตัวที่คุมอาการได้ไม่ดี

ทั้งนี้ การฉีดโบท็อกซ์หน้าผากจะไม่เหมาะกับคนบางกลุ่มค่ะ เช่น คุณแม่ที่อยู่ในระหว่างการตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร, คนที่ผิวหนังบริเวณที่จะฉีดโบท็อกซ์กำลังอักเสบหรือติดเชื้อ, คนที่แพ้โบท็อกซ์

ถ้ายังไม่แน่ใจว่าการฉีดโบท็อกซ์หน้าผากจะเหมาะกับคุณหรือไม่? คุณสามารถจองรับคำปรึกษากับเราฟรี เพื่อรับแผนการรักษาจากการประเมินของแพทย์ ที่ออกแบบมาเพื่อคุณโดยเฉพาะ

โบท็อกซ์ (Botox) หน้าผากใช้กี่ยูนิต?

ผู้ป่วยที่ KKC Clinic กำลังรับการฉีดโบท็อกซ์บริเวณหน้าผาก โดยมีการประคบเย็นบนหน้าผากเพื่อลดความไม่สบายระหว่างการรักษา

ตามปกติแล้ว การฉีดโบท็อกซ์หน้าผากจะใช้ประมาณ 15 – 20 ยูนิต (Unit) ค่ะ ในขณะที่โบท็อกซ์ระหว่างคิ้วจะใช้ประมาณ 6 – 15 ยูนิต (Unit) และโบท็อกซ์หางตาจะใช้ประมาณ 15 – 20 ยูนิต (Unit) โดยแพทย์จะเป็นผู้กำหนดปริมาณโบท็อกซ์ที่ต้องใช้ ให้เหมาะสมกับปัญหาและความต้องการของคนไข้ ซึ่งแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล เพราะหากฉีดโบท็อกซ์หน้าผากมากเกินไป ก็จะทำให้หน้าผากแข็งตึง จนเลิกคิ้วได้ลำบาก และยังอาจทำให้หนังตาตก คิ้วตก หรือรู้สึกหนัก ๆ ที่ตา

โบท็อกซ์ (Botox) หน้าผากราคาเท่าไหร่?

การฉีดโบท็อกซ์หน้าผากที่ KKC Clinic จะมีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 3,000 บาทค่ะ ในขณะที่โบท็อกซ์ระหว่างคิ้วจะมีราคาเริ่มต้นที่ 1,200 บาท และโบท็อกซ์หางตาจะมีราคาเริ่มต้นที่ 3,000 บาท

ทั้งนี้ ราคาจะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นยี่ห้อหรือปริมาณของโบท็อกซ์ที่ใช้ โดยคนไข้จะทราบจำนวนค่าใช้จ่ายทั้งหมดได้จากการประเมินของแพทย์นะคะ

คุณสามารถจองรับคำปรึกษากับเราฟรี เพื่อรับใบเสนอราคาที่จัดเตรียมมาให้เหมาะกับเป้าหมายและแผนการรักษาของคุณโดยเฉพาะ

ฉีดโบท็อกซ์ (Botox) ลดริ้วรอยบนหน้าผากกี่วันเห็นผล?

การฉีดโบท็อกซ์หน้าผากจะเริ่มเห็นผลในประมาณ 3 – 4 วันค่ะ โดยคนไข้จะรู้สึกได้ว่าหน้าผากตึง ๆ จากนั้นจึงจะเห็นผลเต็มที่เมื่อเวลาผ่านไปประมาณ 1 – 2 สัปดาห์ ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้อาจจะแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคลนะคะ

ฉีดโบท็อกซ์ลดริ้วรอยบนหน้าผากจะออกฤทธิ์ / เห็นผลนานกี่วัน?

ผลลัพธ์จากการฉีดโบท็อกซ์หน้าผากจะอยู่ได้นานประมาณ 4 – 6 เดือนค่ะ โดยระยะเวลาของผลลัพธ์จะขึ้นอยู่กับปัจจัยต่าง ๆ เช่น ยี่ห้อและปริมาณของโบท็อกซ์ที่ใช้ รวมถึงการดูแลตัวเองของคนไข้หลังจากฉีดโบท็อกซ์เข้าไปแล้ว ทั้งนี้ เพื่อคงระยะเวลาของผลลัพธ์ไว้ ก็ขอแนะนำให้คนไข้กลับมาฉีดโบท็อกซ์ซ้ำเรื่อย ๆ เมื่อโบท็อกซ์หมดฤทธิ์ หรือเว้นระยะห่างอย่างน้อย 3 เดือนนะคะ

ฉีดโบท็อกซ์หน้าผากอันตรายไหม?

แพทย์ประจำ KKC Clinic สวมหน้ากากสีเขียวและชุดกาวน์สีขาว กำลังฉีดโบท็อกซ์บริเวณหน้าผากผู้ป่วย โดยมีผู้ช่วยถือแผ่นประคบเย็นอยู่ด้านข้าง

การฉีดโบท็อกซ์หน้าผากเป็นหัตถการที่ไม่อันตรายค่ะ หากฉีดด้วยโบท็อกซ์แท้ ฉีดกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ รวมถึงฉีดในคลินิกที่ผ่านการรับรองมาตรฐาน และแม้ว่าการฉีดโบท็อกซ์หน้าผากจะมีความปลอดภัย แต่ก็อาจก่อให้เกิดอาการหลังฉีดโบท็อกซ์หน้าผากที่พบได้ทั่วไป เช่น รอยเข็ม อาการบวมแดง และอาการปวดหัว ซึ่งจะเป็นเพียงอาการเล็กน้อยเท่านั้น และจะหายไปเองเมื่อเวลาผ่านไป ไม่เป็นอันตรายค่ะ

ทั้งนี้ หากคนไข้ฉีดโบท็อกซ์ปลอม ฉีดกับหมอกระเป๋าที่ไม่ใช่แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ หรือฉีดในคลินิกที่ไม่สะอาดเพียงพอ ก็อาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงหรือภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ จากการฉีดโบท็อกซ์ลดริ้วรอยบนหน้าผากได้ค่ะ เช่น ฉีดโบท็อกซ์แล้วหน้าผากแข็งตึงมากเกินไป เลิกคิ้วไม่ได้ ไม่สามารถแสดงสีหน้าได้อย่างเป็นธรรมชาติ, ฉีดแล้วหนังตาตก / คิ้วตก / รู้สึกหนัก ๆ ที่ดวงตา, ฉีดแล้วคิ้วกระดก (Spock Brow) คือโบท็อกซ์มากระจุกอยู่ตรงกลางหน้าผาก ไม่กระจายไปด้านข้าง ทำให้หัวคิ้วถูกกดลง แต่หางคิ้วชี้ขึ้น หรืออาจถึงขั้นทำให้คิ้วไม่เท่ากัน / คิ้วผิดรูป, ฉีดโบท็อกซ์หน้าผากแล้วรู้สึกปวดหัวมาก ๆ ไม่หาย เพราะแพ้โบท็อกซ์ รวมถึงบริเวณที่ฉีดโบท็อกซ์เข้าไปเกิดการอักเสบหรือติดเชื้อ

ดังนั้น ถ้าอยากฉีดโบท็อกซ์หน้าผากให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี และมีความปลอดภัย ก็จะต้องมาฉีดที่ KKC Clinic นะคะ เพราะเราใช้แต่โบท็อกซ์ของแท้ ซึ่งเป็นโบท็อกซ์ที่มีคุณภาพและมีมาตรฐาน, ทำการฉีดโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งจะช่วยกำหนดปริมาณและตำแหน่งที่จะฉีดโบท็อกซ์ลงไปได้อย่างเหมาะสม รวมถึงฉีดในคลินิกที่มีความสะอาดเพียงพอ

หลังฉีดโบท็อกลดริ้วรอยบนหน้าผากต้องดูแลตัวเองยังไง และมีข้อห้ามอะไรบ้าง?

เพื่อป้องกันไม่ให้โบท็อกซ์สลายไวจนเกินไป หรือกระจายไปยังจุดอื่น ๆ ที่ไม่ต้องการ ภายหลังจากการฉีดโบท็อกซ์หน้าผาก คนไข้ก็ควรปฏิบัติตัวตามวิธีการดูแลตัวเอง รวมถึงงดทำพฤติกรรมต่าง ๆ ตามข้อห้าม ดังต่อไปนี้ค่ะ

  • หลังฉีด ให้ขยับกล้ามเนื้อหน้าผากด้วยการยักคิ้วขึ้น – ลงทันที ประมาณ 5 – 10 นาที เพื่อให้โบท็อกซ์กระจายตัวไปทั่วหน้าผาก ไม่กระจุกอยู่ที่เดียว และเพื่อให้โบท็อกซ์ถูกดูดซึมได้มากที่สุด
  • งดนอนราบ / นอนตะแคง / นอนคว่ำ อย่างน้อย 3 – 4 ชม. พยายามอย่าให้ใบหน้าอยู่ต่ำกว่าหัวใจ
  • งดจับ นวด เกาแรง ๆ ในบริเวณหน้าผากที่เพิ่งฉีดโบท็อกซ์มา อย่างน้อย 24 ชม.
  • หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์, การกินอาหารที่ต้องอยู่หน้าเตาร้อน ๆ, อาหารกึ่งสุกกึ่งดิบ, อาหารหมักดอง, อาหารรสจัด ประมาณ 2 – 3 วัน
  • หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่ที่มีอากาศร้อน ๆ และกิจกรรมที่จะทำให้เลือดสูบฉีดแรง เช่น การออกกำลังกาย ประมาณ 2 – 3 วัน
  • งดการเข้าซาวน่าและยิงเลเซอร์ประมาณ 2 สัปดาห์
  • งดสูบบุหรี่

คำถามที่พบบ่อย

การฉีดโบท็อกซ์หน้าผากเจ็บไหม?

การฉีดโบท็อกซ์หน้าผากจะไม่เจ็บมาก หรือแทบจะไม่เจ็บเลยค่ะ โดยจะมีการแปะยาชาและการประคบเย็นเพื่อช่วยลดความเจ็บปวดให้คนไข้ นอกจากนี้ แพทย์ของ KKC Clinic ยังมือเบามาก ๆ ค่ะ หากมีความรู้สึกเจ็บก็จะเป็นในระดับที่ทนได้แน่นอน

ถ้าหยุดฉีดโบท็อกซ์จะเป็นยังไง?

หากเราหยุดฉีดโบท็อกซ์ เมื่อโบท็อกซ์ที่เคยมีอยู่สลายไปหมดแล้ว ก็จะทำให้กล้ามเนื้อกลับมาทำงาน และใบหน้ากลับมาเกิดริ้วรอยตามวัยได้ดังเดิมค่ะ แต่จะไม่แย่ลงไปกว่าเดิม

โบท็อกซ์ควรฉีดตอนอายุเท่าไหร่?

คนที่มาฉีดโบท็อกซ์ควรมีอายุ 20 ปีขึ้นไปนะคะ จะช่วยป้องกันการเกิดริ้วรอยถาวรในอนาคตได้ดี แต่ถ้าคนที่มีอายุ 18 – 19 ปี แล้วอยากฉีดเพื่อแก้ปัญหาหรือปรับเปลี่ยนใบหน้าเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็สามารถฉีดได้เช่นกันค่ะ แต่ต้องให้ผู้ปกครองพามา

การฉีดโบท็อกซ์จะทำให้หน้าแข็งไหม?

การที่ฉีดโบท็อกซ์แล้วหน้าแข็ง มักจะเกิดจากการฉีดโบท็อกซ์ในปริมาณมากเกินไป ดังนั้น ถ้าเลือกฉีดกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่ KKC Clinic แพทย์ก็จะกำหนดปริมาณที่ต้องใช้ให้อย่างเหมาะสม ก็จะไม่ทำให้หน้าแข็งค่ะ

โบท็อกซ์หน้าผากที่ไหนดี?

แพทย์ประจำ KKC Clinic สวมชุดกาวน์และถุงมือ กำลังให้คำปรึกษาผู้ป่วยที่มีผ้าขนหนูสีแดงคลุมศีรษะ ผู้ป่วยถือกระจกขณะถูกตรวจบริเวณหน้าผาก

สำหรับคนไข้ที่สนใจจะฉีดโบท็อกซ์หน้าผาก ก็ขอแนะนำให้มาฉีดที่ KKC Clinic ด้วยเหตุผลดังต่อไปนี้ค่ะ

  • ทีมแพทย์ของ KKC Clinic มีความเชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ในการฉีดโบท็อกซ์มาอย่างยาวนาน โดยจะมีการนำเทคนิค Asian MD Codes มาปรับใช้ร่วมกับการฉีดโบท็อกซ์ด้วย
  • มีการออกแบบแผนการรักษาให้เหมาะสมกับคนไข้แต่ละคนโดยเฉพาะ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ภายหลังการรักษาที่มีประสิทธิภาพและน่าพึงพอใจ
  • เราใช้แต่โบท็อกซ์ของแท้ ยี่ห้อที่ได้รับความนิยม นำเข้าอย่างถูกต้อง และผ่านการรับรองจากอย. คนไข้จึงสามารถมั่นใจได้ในเรื่องของคุณภาพและความปลอดภัยของตัวยา
  • คนไข้จะทราบถึงจำนวนค่าใช้จ่ายที่แน่นอนทั้งหมดก่อนเข้ารับการรักษา และจะไม่มีการเรียกเก็บค่าใช้จ่ายใด ๆ เพิ่มเติมภายหลังจากที่การรักษาเสร็จสิ้นลงแล้ว
  • เรามีรีวิวการฉีดโบท็อกซ์ลดริ้วรอยบนหน้าผากจากคนไข้ผู้มาใช้บริการจริง เพื่อแสดงให้เห็นว่าคนไข้ที่มาฉีดโบท็อกซ์กับเรารู้สึกพึงพอใจในผลลัพธ์และการให้บริการ