การดูดไขมันต้นแขน ช่วยเปลี่ยนแขนใหญ่ให้กลับมาเรียวเล็ก

แขนใหญ่ แขนย้วย แขนหย่อนคล้อย แขนไม่กระชับ เป็นปัญหาที่สาว ๆ มักจะต้องเผชิญอยู่เสมอ แม้จะเป็นคนที่น้ำหนักตัวอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานหรือลดน้ำหนักลงแล้วก็ตาม เพราะต้นแขนยังมีไขมันส่วนเกินสะสมอยู่ สาเหตุเกิดได้จากทั้งฮอร์โมนเอสโตรเจนในผู้หญิง กรรมพันธุ์ การมีน้ำหนักตัวมาก รวมถึงปัจจัยอื่น ๆ ซึ่งการดูดไขมันต้นแขนเป็นทางเลือกที่ช่วยแก้ปัญหานี้ได้อย่างตรงจุด โดยที่ KKC Clinic จะใช้การดูดไขมันด้วยวิธี VASER ที่มีการใช้คลื่นอัลตราซาวด์ทำให้เซลล์ไขมันแตกตัวก่อน จึงดูดออกมาได้ง่ายขึ้นและไม่ทำให้เนื้อเยื่อรอบ ๆ ได้รับบาดเจ็บไปด้วย ทั้งนี้ การดูดไขมันต้นแขนควรทำร่วมกับโปรแกรมกระชับผิวและสัดส่วนอย่าง J-Plasma เพราะจะทำให้ต้นแขนภายหลังจากที่ดูดไขมันออกไปแล้วมีความกระชับมากยิ่งขึ้น
ผลลัพธ์ที่ได้อาจขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล
การดูดไขมันต้นแขนคืออะไร?
การดูดไขมันต้นแขน (arm liposuction) คือการดูดไขมันสะสมส่วนเกินใต้ผิวหนังบริเวณรอบ ๆ ต้นแขน ทั้งต้นแขนด้านหน้า ต้นแขนด้านหลัง และท้องแขน ซึ่งการดูดไขมันต้นแขนจะไม่ได้ดูดบริเวณกล้ามเนื้อ เพราะเป็นบริเวณที่ไม่มีไขมัน จึงไม่สามารถทำให้บริเวณนั้นเล็กลงได้ด้วยการดูดไขมัน โดยการดูดไขมันต้นแขนจะช่วยให้คนไข้มีต้นแขนที่เล็กลง แก้ปัญหาแขนใหญ่ แขนย้วย แขนหย่อนคล้อย แขนไม่กระชับ เวลายกแขนโบกมือจึงจะไม่เห็นท้องแขนแกว่งไปมาอีกต่อไป
ข้อดีของการดูดไขมันต้นแขน คือนอกจากจะทำให้ผู้ที่เข้ารับการดูดไขมันมีต้นแขนที่เรียวกระชับ เพิ่มความมั่นใจในการแต่งตัวแล้ว ยังช่วยแก้ปัญหาผิวหนังเสียดสี ซึ่งอาจก่อให้เกิดแผลและการติดเชื้อ รวมถึงปัญหาเรื่องกลิ่นตัวอีกด้วย โดยการดูดไขมันต้นแขนที่ KKC Clinic ใช้วิธี VASER คือการใช้เครื่อง VASER Smooth 2.2 ปล่อยคลื่นอัลตราซาวด์เข้าไปทำให้ไขมันส่วนเกินใต้ชั้นผิวแตกตัวและมีความเหลวมากขึ้น จากนั้นจึงใช้เข็มแคนนูล่าดูดออกมาอย่างนุ่มนวล เซลล์ไขมันจึงถูกกำจัดออกจากต้นแขนอย่างถาวร ทั้งนี้ การดูดไขมันต้นแขนควรทำควบคู่กับโปรแกรม J-Plasma เพื่อช่วยกระชับผิวไม่ให้หย่อนคล้อยภายหลังจากที่ไขมันถูกดูดออกไปแล้ว รวมถึงคงผลลัพธ์ให้อยู่ต่อไปในระยะยาว
การดูดไขมันต้นแขนควบคู่กับการดูดไขมันนมน้อยและการดูดไขมันปีกหลัง
ตามปกติแล้ว ในขั้นตอนการเข้ารับคำปรึกษาก่อนการดูดไขมันต้นแขน แพทย์จะพิจารณาถึงปริมาณไขมันบริเวณอื่นโดยรอบด้วย ซึ่งในบางกรณี แพทย์จะแนะนำให้คนไข้ทำการดูดไขมันต้นแขนพร้อมกับการดูดไขมันนมน้อยและการดูดไขมันปีกหลัง เพราะหากยังมีไขมันส่วนเกินสะสมใน 2 จุดนี้อยู่ แม้จะดูดไขมันต้นแขนออกไปแล้ว ก็อาจจะทำให้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงในภาพรวมที่ไม่ชัดเจน เพราะลำตัวช่วงบนยังดูใหญ่ มองดูแล้วอาจจะรู้สึกไม่สมส่วน
การดูดไขมันนมน้อยและปีกหลังจะใช้แผลเดียวกับที่เปิดเพื่อดูดไขมันต้นแขน รวมถึงใช้วิธีการดูดแบบ VASER เหมือนกัน ดังนั้น หากแพทย์ประเมินแล้วเห็นว่าสมควรต้องดูดไขมันใน 2 จุดนี้ด้วย ก็สามารถดูดไปพร้อมกับการดูดไขมันต้นแขนเลย นอกจากจะทำให้เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนขึ้นแล้ว ยังช่วยประหยัดเวลา และทำให้คนไข้เจ็บตัวในขั้นตอนการให้ยาชาเพียงครั้งเดียว
การดูดไขมันนมน้อยคืออะไรและใครบ้างที่ควรดูดไขมันนมน้อย?
การดูดไขมันนมน้อย (accessory breast liposuction) คือการดูดไขมันสะสมส่วนเกินใต้ผิวหนังส่วนที่อยู่ใต้รักแร้ด้านหน้า ซึ่งคนที่มีไขมันในบริเวณนี้เยอะก็จะเห็นเป็นก้อนปลิ้นออกมา โดยไขมันนมน้อยนี้จะพบเห็นได้มากในผู้หญิงช่วงวัยรุ่นและผู้หญิงที่ผ่านการตั้งครรภ์ ส่งผลให้สาว ๆ หลายคนไม่มั่นใจเวลาที่ต้องใส่ชุดแขนกุดหรือชุดราตรีที่มีการเปิดช่วงบน
ผู้ที่เหมาะกับการดูดไขมันนมน้อย ได้แก่ ผู้ที่มีเนื้อปลิ้นใต้รักแร้แล้วเห็นเป็นก้อนตุ่ยออกมา ซึ่งเนื้อในส่วนนี้จะแยกกับเนื้อหน้าอกอย่างชัดเจน หรือเรียกว่านมน้อยนั่นเอง โดยเมื่อทำท่าเท้าเอวแล้วจะเห็นนมน้อยชัดขึ้น ส่งผลให้ขาดความมั่นใจเวลาต้องใส่ชุดซึ่งมีการโชว์ช่วงบน ทั้งนี้ สำหรับผู้ที่เข้ารับการดูดไขมันต้นแขน แล้วศัลยแพทย์ประเมินว่าควรดูดไขมันนมน้อยด้วย ก็สามารถทำไปพร้อมกันได้เลย จะช่วยให้ลำตัวช่วงบนดูสมส่วนมากขึ้น
การดูดไขมันปีกหลังคืออะไรและใครบ้างที่ควรดูดไขมันปีกหลัง?
การดูดไขมันปีกหลัง (upper back liposuction) คือการดูดไขมันสะสมส่วนเกินใต้ผิวหนังส่วนที่เห็นเป็นก้อนบริเวณสะบักหลัง ซึ่งหลายคนมักจะเรียกกันว่าปีกหลัง โดยจะเห็นได้ชัดเจนขึ้นเมื่อสวมใส่ชุดชั้นใน ทำให้สาว ๆ หลายคนมีความกังวลเวลาที่ต้องใส่ชุดซึ่งมีการรัดลำตัวช่วงบน หรือใส่สายเดี่ยวและเกาะอกที่โชว์แผ่นหลัง
ผู้ที่เหมาะกับการดูดไขมันปีกหลัง ได้แก่ ผู้ที่เมื่อใส่ชุดชั้นในแล้ว จะเห็นได้ว่ามีเนื้อส่วนเกินด้านหลังป่องออกมาเยอะ เมื่อใส่ชุดที่โชว์หรือรัดช่วงหลังแล้วจะยิ่งเห็นเป็นหนอกนูนออกมาชัดเจน ซึ่งตามปกติแล้ว ผู้ที่มีไขมันสะสมส่วนเกินบริเวณปีกหลังนี้ มักจะมีไขมันสะสมส่วนเกินบริเวณต้นแขนด้วยเสมอ ดังนั้น การดูดไขมันต้นแขนจึงควรทำร่วมกับการดูดไขมันปีกหลังไปพร้อมกันเลย เพื่อความสมส่วนของลำตัวช่วงบน
ใครบ้างที่ควรดูดไขมันต้นแขน?
ผู้ที่เหมาะกับการดูดไขมันต้นแขน ได้แก่
- ผู้ที่มีไขมันส่วนเกินสะสมอยู่บริเวณต้นแขนเยอะ ทำให้แขนดูใหญ่ ดูย้วย ดูแล้วไม่กระชับ รวมถึงมีท้องแขนห้อยย้อย
- ผู้ที่มีลำตัวช่วงบนใหญ่ เพราะต้นแขนใหญ่ ทำให้มองดูแล้วไม่ได้สัดส่วน
- ผู้ที่มีต้นแขนใหญ่จากกรรมพันธุ์ ซึ่งการลดให้เล็กลงด้วยตัวเองทำได้ยาก
- ผู้ที่คุมอาหารและออกกำลังกายแล้ว แต่ก็ยังไม่สามารถลดขนาดต้นแขนได้
- ผู้ที่ทำการลดต้นแขนด้วยวิธีอื่นแล้ว แต่ไม่สามารถคงผลลัพธ์ไว้ได้ในระยะยาว เช่น วิธีการฉีด Meso Fat ที่ช่วยลดขนาดของเซลล์ไขมันบริเวณต้นแขน แต่ไม่ได้ลดจำนวนของเซลล์ไขมัน ทำให้เซลล์ไขมันสามารถกลับมาขยายใหญ่ได้อีกครั้ง แตกต่างจากการดูดไขมันต้นแขน ซึ่งจะเป็นการลดจำนวนเซลล์ไขมันโดยการดูดออกมาจากร่างกาย
- ผู้ที่ต้องการลดขนาดต้นแขนด้วยวิธีที่ปลอดภัยและเห็นผลลัพธ์ชัดเจนทันทีในระยะเวลาอันรวดเร็ว
- ผู้ที่ขาดความมั่นใจเวลาที่ใส่เกาะอก สายเดี่ยว เสื้อแขนกุด หรือเสื้อผ้าที่มีการเปิดช่วงบน
*ผู้ที่มีโรคประจำตัวหรือปัญหาสุขภาพบางประการ เช่น โรคหัวใจ โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง ต้องเข้ารับคำปรึกษาจากแพทย์ก่อนทุกครั้ง ซึ่งการวินิจฉัยของแพทย์อาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล
การเตรียมตัวก่อนดูดไขมันต้นแขน
นอกจากการศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการดูดไขมันต้นแขนและรายละเอียดในการเลือกคลินิกหรือสถานพยาบาลที่จะเข้ารับบริการแล้ว คนไข้ยังต้องมีการเตรียมตัวดังนี้
- เข้ารับการตรวจร่างกายและประเมินสุขภาพตามคำแนะนำของแพทย์
- แจ้งข้อมูลสุขภาพของท่านกับแพทย์ เช่น โรคประจำตัว ยาที่แพ้ หรือยาที่รับประทานเป็นประจำ
- งดทานยาและอาหารเสริมบางชนิด เพราะอาจมีผลต่อการแข็งตัวของเลือดและทำให้ตับกำจัดยาชาได้ช้าลง อาจเกิดภาวะยาชาเป็นพิษ เช่น แอสไพริน ไอบูโพรเฟน น้ำมันตับปลา และวิตามินซี อย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนเข้ารับการดูดไขมันต้นแขน
- งดการสูบบุหรี่และหลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนการเข้ารับการดูดไขมันต้นแขน
- ควรงดน้ำและอาหารก่อนเข้ารับการดูดไขมันต้นแขนอย่างน้อย 6 ชม.
- ควรเช็กวันที่มาของรอบเดือน ไม่ให้ตรงกับวันที่เข้ารับการดูดไขมันต้นแขน
- คนไข้ควรอาบน้ำ สระผม และชำระล้างร่างกายให้สะอาดเรียบร้อย ก่อนมาเข้ารับการดูดไขมันต้นแขน
- ในวันที่เข้ารับการดูดไขมันต้นแขน คนไข้ควรสวมใส่เสื้อผ้าที่สบายหรือมีความหลวม รวมถึงเลือกชุดที่สามารถใส่ – ถอดได้โดยไม่ถูกแผล หรือเตรียมชุดในลักษณะดังที่กล่าวมานี้เพื่อเปลี่ยนในภายหลัง
ขั้นตอนการดูดไขมันต้นแขนที่ KKC Clinic
ก่อนเข้ารับการดูดไขมันต้นแขน ศัลยแพทย์จะทำการพูดคุยและให้คำปรึกษากับคนไข้อย่างละเอียด เกี่ยวกับเป้าหมายและความคาดหวังถึงผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้น ประเมินสภาพร่างกาย วัดสัดส่วน รวมถึงออกแบบตำแหน่งที่จะทำการดูดไขมันและปริมาณไขมันที่จะถูกดูดออกมา โดยพิจารณาถึงความเหมาะสมและความต้องการของคนไข้แต่ละบุคคลโดยเฉพาะ จากนั้น เมื่อคนไข้เตรียมตัวพร้อมแล้ว ก็จะเข้าสู่ขั้นตอนการดูดไขมันต้นแขน ดังนี้
ขั้นตอนที่ 1
ศัลยแพทย์จะทำเครื่องหมายกำหนดบริเวณที่จะดูดไขมันต้นแขนและให้ยาระงับอาการเจ็บ (ยาชา) เฉพาะที่
ขั้นตอนที่ 2
ศัลยแพทย์จะทำการเปิดแผลขนาดเล็กเพื่อดูดไขมันต้นแขน 2 แผล คือบริเวณเหนือข้อศอกและซอกรักแร้ ขนาดประมาณ 3 – 5 มม. เพื่อใส่หัวดูดแคนนูล่าของเครื่อง VASER Smooth 2.2
ขั้นตอนที่ 3
เครื่อง VASER Smooth 2.2 จะปล่อยคลื่นอัลตราซาวด์เพื่อทำให้เซลล์ไขมันแตกตัวและมีความเหลวมากขึ้น ช่วยให้สามารถดูดไขมันบริเวณต้นแขนและบริเวณรอบ ๆ ออกมาได้อย่างง่ายดาย
เมื่อเซลล์ไขมันแตกตัวแล้ว ศัลยแพทย์จะใช้หัวดูดแคนนูล่าของเครื่อง VASER Smooth 2.2 ดูดไขมันต้นแขนออกมาจากบริเวณที่กำหนดไว้อย่างละเอียดและแม่นยำ โดยมีการเกลี่ยปรับระดับเพื่อให้บริเวณที่ดูดไขมันกับบริเวณที่ไม่ได้ดูดไขมันมีความเรียบเนียนเสมอกัน
หากคนไข้มีการดูดไขมันนมน้อยและปีกหลังร่วมด้วย ก็จะดูดพร้อมกันไปเลยในขั้นตอนนี้ ซึ่งวิธีการดูดไขมันต้นแขนแบบ VASER จะไม่ก่อให้เกิดการทำลายเนื้อเยื่ออื่น ๆ ที่อยู่รอบ ๆ
ขั้นตอนที่ 4
ภายหลังจากดูดไขมันต้นแขนเสร็จสิ้นแล้ว ศัลยแพทย์จะทำการเย็บปิดแผลด้วยความประณีต เพื่อให้รอยแผลสวยงามและมีขนาดเล็กที่สุด ลดความเสี่ยงในการเกิดแผลอักเสบและบวมช้ำ
การดูดไขมันต้นแขนด้วยวิธี VASER ร่วมกับการทำโปรแกรม J-Plasma
โปรแกรม J-Plasma คือ โปรแกรมที่จะช่วยยกกระชับผิวหนังที่หย่อนคล้อย โดยใช้พลังงานของฮีเลียมพลาสมา (helium plasma) หรือก๊าซเฉื่อยความเย็น ร่วมกับพลังงานคลื่นความถี่วิทยุ (radio-frequency – RF) ทำให้เส้นใยโครงสร้างผิวหนังและเนื้อเยื่อต่าง ๆ หดตัวลง รวมไปถึงเนื้อเยื่อในโพรงชั้นผิวหนังที่มีช่องว่างหลังจากไขมันถูกดูดออกไปแล้ว ก็จะหดรัดตัวลงอย่างรวดเร็วเช่นกัน ผิวหนังของเราจึงจะกระชับขึ้นทันที ต้นแขนจะดูเรียวเล็กและท้องแขนไม่หย่อนคล้อย
โปรแกรม J-Plasma จะใช้การสอดท่อพลังงานเข้าไปทางแผลเดียวกับที่ใช้เครื่อง VASER ดูดไขมันออกมา ดังนั้น เพื่อผลลัพธ์ภายหลังการดูดไขมันต้นแขนที่มีประสิทธิภาพและคงอยู่เป็นระยะเวลานาน จึงควรทำการดูดไขมันต้นแขนพร้อมกับโปรแกรม J-Plasma
การดูแลตัวเองภายหลังการดูดไขมันต้นแขน?
ภายหลังจากเข้ารับการดูดไขมันต้นแขนแล้ว คนไข้ควรพักสังเกตอาการอย่างน้อย 30 นาทีหรือตามระยะเวลาที่แพทย์แนะนำ หากไม่มีความผิดปกติใด ๆ เกิดขึ้น คนไข้ก็สามารถกลับบ้านได้ทันที ซึ่งหลังจากที่คนไข้กลับบ้านไปแล้ว คนไข้ควรปฏิบัติตัวดังนี้
- ทำความสะอาดแผลที่เกิดจากการดูดไขมันต้นแขนทุกวัน ตามคำแนะนำของแพทย์
- ห้ามให้แผลโดนน้ำเป็นระยะเวลา 7 วัน หรือจนกว่าจะทำการตัดไหม
- สวมใส่ชุดกระชับตลอด 24 ชม. ในระยะเวลา 1 เดือนแรกภายหลังจากการดูดไขมันต้นแขน หลังจากนั้นให้ใส่ชุดกระชับเป็นเวลาไม่ต่ำกว่า 12 ชั่วโมง ในตอนกลางวันที่มีการขยับตัวทำกิจกรรมต่าง ๆ ตามระยะเวลาที่แพทย์แนะนำ
- งดสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์ งดทานยาและอาหารเสริมบางชนิด รวมถึงการทานอาหารหมักดอง อาหารทะเล อาหารดิบ และอาหารกึ่งสุกกึ่งดิบ (หากไม่แน่ใจ ให้สอบถามกับแพทย์ผู้ทำการรักษา)
- หลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมบางอย่างที่ต้องอาศัยการขยับตัวมาก ๆ เช่น การออกกำลังกายหรือการเล่นกีฬาบางประเภท รวมถึงการยกของหนัก ๆ
- ทานยาให้ครบตามที่แพทย์สั่งและมาพบแพทย์ทุกครั้งตามนัดหมาย
ค่าใช้จ่ายในการดูดไขมันต้นแขน
ค่าใช้จ่ายในการดูดไขมันต้นแขนเริ่มต้นที่ 39,900 บาท ทั้งนี้ ในคนไข้แต่ละคนจะมีค่าใช้จ่ายที่แตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับการประเมินของศัลยแพทย์และความต้องการของคนไข้ ดังนั้น ก่อนเข้ารับการดูดไขมันต้นแขนที่ KKC Clinic คนไข้จะได้รับการวิเคราะห์และประเมินบริเวณที่ต้องการดูดไขมันอย่างละเอียด เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ภายหลังการรักษาที่ดีที่สุด รวมถึงทราบค่าใช้จ่ายทั้งหมดอย่างชัดเจน
ทำไมต้องดูดไขมันต้นแขนที่ KKC Clinic
การดูดไขมันต้นแขนจำเป็นต้องทำกับศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ในคลินิกหรือสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐานเท่านั้น เพราะหากศัลยแพทย์ผู้ทำการดูดไขมันไม่มีความชำนาญแล้ว อาจกำหนดบริเวณที่ดูดไขมันและปริมาณไขมันที่จะดูดออกมาได้ไม่เหมาะสม หากดูดไขมันออกมามากเกินไป จะทำให้แขนดูบาง ผิวเป็นคลื่น และเห็นร่องกล้ามชัดเจน ดูแล้วไม่เป็นธรรมชาติ รวมถึงการดูดไขมันต้นแขนในสถานพยาบาลที่ไม่สะอาดเพียงพอ ก็อาจก่อให้เกิดการติดเชื้อได้
ที่ KKC Clinic เราทำการดูดไขมันต้นแขนโดยศัลยแพทย์ผู้มีความเชี่ยวชาญและมากไปด้วยประสบการณ์ เพราะเรามีศัลยแพทย์ผู้มีประสบการณ์ในการดูดไขมันมากว่า 18 ปี พร้อมด้วยเครื่องมือที่มีความทันสมัย ในคลินิกที่ได้มาตรฐานและผ่านการรับรอง รวมถึงมีเจ้าหน้าที่ที่จะคอยติดตามผลลัพธ์ภายหลังการรักษาอย่างใกล้ชิด คนไข้จึงสามารถมั่นใจได้ว่า การดูดไขมันต้นแขนที่ KKC Clinic นอกจากจะได้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจแล้ว ยังมีความปลอดภัยอีกด้วย
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการดูดไขมันต้นแขน
การดูดไขมันต้นแขนทำให้รู้สึกเจ็บไหม?
ในขั้นตอนการดูดไขมันต้นแขน จะมีการให้ยาชากับบริเวณที่ต้องการดูดไขมันออกมาก่อน ซึ่งคนไข้อาจจะรู้สึกเจ็บเล็กน้อยในขั้นตอนนี้
การดูดไขมันต้นแขนต้องดมยาสลบหรือไม่?
ตามปกติแล้ว การดูดไขมันต้นแขนที่ KKC Clinic ไม่จำเป็นต้องดมยาสลบ แต่ศัลยแพทย์จะใช้ยาชาเฉพาะที่ เพื่อช่วยลดความเจ็บปวดให้กับคนไข้ขณะที่ทำการดูดไขมันต้นแขน
ภายหลังจากดูดไขมันต้นแขนแล้ว กี่วันจึงจะเห็นผล?
การดูดไขมันต้นแขนจะเห็นผลลัพธ์ได้ชัดเจนทันทีหลังจากที่การดูดไขมันสิ้นสุดลง ทั้งนี้ ผลลัพธ์จะปรากฏให้เห็นเต็มที่เมื่อระยะเวลาผ่านไปประมาณ 3 – 6 เดือน
ภายหลังจากดูดไขมันต้นแขนแล้ว ต้องใช้เวลาพักฟื้นกี่วัน?
ภายหลังการดูดไขมันต้นแขน คนไข้อาจจะต้องพักฟื้นอย่างน้อย 1 – 3 วัน ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของศัลยแพทย์ผู้ทำการรักษา ทั้งนี้ ในคนไข้บางคนที่ต้องการทำกิจกรรมซึ่งไม่ต้องใช้การขยับแขนเยอะหรือใช้การออกแรงมาก เช่น การพิมพ์งานบนคอมพิวเตอร์ ก็สามารถทำได้เลยในวันถัดมา แต่อาจจะรู้สึกปวดแผลบ้างเล็กน้อย
ภายหลังจากดูดไขมันต้นแขนแล้ว น้ำหนักจะลดหรือไม่?
การดูดไขมันต้นแขนไม่ใช่การลดน้ำหนัก แต่เป็นการปรับลดสัดส่วนของแขนและบริเวณโดยรอบให้มีขนาดเล็กลงตามความเหมาะสม โดยใช้วิธีการดูดไขมันออกมา ดังนั้น ภายหลังจากการดูดไขมันต้นแขนแล้ว คนไข้อาจจะไม่เห็นความเปลี่ยนแปลงในเรื่องของน้ำหนักมากนัก
ผลลัพธ์จากการดูดไขมันต้นแขนจะอยู่ได้นานแค่ไหน?
การดูดไขมันต้นแขนจะช่วยกำจัดเซลล์ไขมันส่วนเกินบริเวณรอบ ๆ แขนออกไปได้อย่างถาวร ทั้งนี้ เพื่อให้ผลลัพธ์คงอยู่ได้ยาวนานขึ้น คนไข้จึงควรเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ รวมถึงควบคุมน้ำหนักตัวให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม เพื่อไม่ให้เซลล์ไขมันที่เหลืออยู่ขยายตัวใหญ่ขึ้นหรือมีการสร้างเซลล์ไขมันให้กลับมาสะสมใหม่อีกครั้ง
สรุปเรื่องการดูดไขมันต้นแขน
การดูดไขมันต้นแขน เป็นการดูดไขมันบริเวณรอบ ๆ แขนออกมา ด้วยวิธี VASER ซึ่งจะช่วยแก้ปัญหาในคนไข้ที่มีแขนใหญ่ แขนย้วย ให้กลับมามีแขนที่เรียวกระชับอีกครั้ง โดยจะเห็นผลลัพธ์ได้อย่างชัดเจนทันทีในบริเวณท้องแขนที่มีไขมันสะสมอยู่เป็นจำนวนมาก ทั้งนี้ ในคนไข้บางราย หากศัลยแพทย์ประเมินแล้วว่ามีความเหมาะสม ก็จะแนะนำให้ดูดไขมันต้นแขนไปพร้อมกับการดูดไขมันนมน้อยและปีกหลัง ซึ่งจะช่วยให้ลำตัวช่วงบนดูสมส่วนกันมากขึ้น โดยการดูดไขมันต้นแขนที่ KKC Clinic จะทำโดยศัลยแพทย์ผู้มีความชำนาญและทำในคลินิกที่มีมาตรฐานผ่านการรับรองเท่านั้น