ฉีดผิวขาว ดีจริงไหม แล้วเราควรฉีดหรือเปล่า ทำไมต้องที่ KKC Clinic?

ผู้หญิงกำลังรับบริการฉีดวิตามินผิวขาวในคลินิก ยิ้มและชี้ไปที่แขนซึ่งมีสายน้ำเกลืออยู่

เพราะเราไม่สามารถหลีกหนีมลภาวะต่างๆ ได้ ทั้งผู้คนที่อาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ หรือต่างจังหวัด ต่างต้องเจอกับฝุ่นควัน มลพิษหรือแม้แต่ PM2.5 แล้วไหนจะแสงแดดที่ทำลายผิวเราในทุกๆ วันอีก ไม่แปลกที่คนบ้านเราจะมีสีผิวที่ไม่สม่ำเสมอและมีจุดด่างดำให้รำคาญใจ หลายคนก็หาทางออกสำหรับผิวที่ดีขึ้นกันทั้งนั้นและหนึ่งสิ่งที่ช่วยบำรุงผิวที่หมองคล้ำให้ดีขึ้นได้ซึ่งเป็นที่นิยมกันมาก คือ การฉีดผิวขาวและ IV Drip (การดริปวิตามินเข้าร่างกาย) เพื่อช่วยให้ผิวกระจ่างใสขึ้น แต่มันดีจริงไหมและมีประสิทธิภาพที่คู่ควรที่จะฉีดหรือเปล่า? อันนี้คงต้องมาดูกันว่า มีข้อดี-ข้อเสียยังไงบ้างกับการฉีดผิวขาวและการทำ IV Drip เป็นทางออกสำหรับสุขภาพผิวที่ดีขึ้น

กลูต้าไธโอนคืออะไรและทำงานยังไงถึงช่วยให้ผิวขาวขึ้น?

กลูตาไธโอน คือ สารที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระซึ่งร่างกายผลิตขึ้นเองได้ตามธรรมชาติในตับ เป็นส่วนที่ช่วยในการล้างสารพิษต่างๆ ในร่างกาย เสริมสร้างภูมิคุ้มกันและยังช่วยปกป้องเซลล์สำคัญในร่ายกายที่อาจเกิดการเสียหายจากอนุมูลอิสระ เมื่อเราอายุเพิ่มขึ้นระดับของกลูตาไธโอนจะลดลงเรื่อยๆ รวมถึงปัจจัยอื่นที่ส่งผลอีก เช่น ความเครียด รับประทานสารอาหารที่ไม่ครบถ้วนและมลภาวะที่เป็นส่วนสำคัญในการทำลายผิวนำไปสู่ผิวสีไม่สม่ำเสมอและมีจุดด่างดำ ฝ้า กระมากเพิ่มขึ้น ทำให้เราต้องฉีดวิตามินที่ช่วยทำให้ผิวสุขภาพดีเพิ่มให้แก่ผิวโดยการฉีดวิตามินผิวขาวใสเข้าสู่ร่างกาย เพื่อช่วยให้ผิวสุขภาพดี ขาวใส ผิวแข็งแรงมากกว่าเดิม

การฉีดผิวขาว ช่วยให้ผิวกระจ่างใสได้อย่างไร?

  • ลดการผลิตเมลานินเพื่อผิวที่สว่างขึ้น – ช่วยยับยั้งเอนไซม์ไทโรซิเนสซึ่งเป็นตัวกระตุ้นการผลิตเม็ดสีเมลานินและยังมีส่วนช่วยให้เม็ดสีผิวจางลงและทำให้ผิวกระจ่างใสขึ้น
  • ช่วยชะลอวัยได้ดี – การเติมวิตามินผิวขาวมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยลดความเสียหายจากออกซิเดชัน ซึ่งเป็นปัจจัยที่ก่อให้เกิดริ้วรอยและความหมองคล้ำของผิว ทำให้แลดูอ่อนเยาว์มากขึ้น
  • ล้างสารพิษเพื่อผิวสุขภาพดี – ช่วยกำจัดสารพิษในร่างกาย ทำให้ผิวสะอาด กระจ่างใส และดูมีชีวิตชีวาขึ้น
  • ปกป้องคอลลาเจนและโครงสร้างผิว – ช่วยป้องกันการทำลายคอลลาเจนจากอนุมูลอิสระ ส่งผลให้ผิวยังคงความยืดหยุ่นและดูอ่อนเยาว์อยู่เสมอ

ฉีดผิวขาว vs. การรับประทานอาหารเสริมเพิ่มความขาว อะไรดีกว่ากัน?

เปรียบเทียบภาพแบบแยกหน้าจอ ด้านหนึ่งเป็นแขนของผู้หญิงที่กำลังรับน้ำเกลือ อีกด้านเป็นมือที่ถือแคปซูลวิตามินสีเหลืองสองเม็ด

การฉีดผิวขาว (โดยมีสารอาหารสำหรับผิวต่างๆ ) กับการทานอาหารเสริมอันไหนดีกว่ากัน หลายคนคงเคยสงสัยว่าทำแบบไหนผลลัพธ์ที่ได้ถึงจะเห็นผลเร็วกว่ากัน จริงๆ KKC Clinic แนะนำให้ฉีดวิตามินผิวขาวเพราะ เป็นการนำวิตามินที่ดีต่อผิวเข้าสู่ร่างกายโดยตรงทางหลอดเลือดดำ ทำให้ร่างกายดูดซึมวิตามินที่ดีต่อผิวได้อย่างเต็มที่ มากกว่าการซื้ออาหารเสริมที่ช่วยเรื่องความขาวมาทานเอง เพราะว่าจะเห็นผลช้ากว่ามาก ซึ่งต้องผ่านกระบวนการย่อยอาหารและดูดซึมของร่างกาย ขับออกมาจนแทบไม่เหลืออะไร สรุปคือ การฉีดวิตามินผิวขาว ช่วยให้ผิวกระจ่างใส เนียนนุ่ม เห็นผลลัพธ์ที่รวดเร็วกว่าการทานอาหารเสริมเพิ่มความขาวค่ะ

ฉันเหมาะไหม ที่จะฉีดผิวขาว?

  • ฉันเป็นคนที่สีผิวไม่สม่ำเสมอเอาซะเลย ดูหมองคล้ำ มีจุดด่างดำเต็มไปหมด
  • ฉันต้องเผชิญแสงแดดเป็นประจำอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ รวมถึงอยู่ในยุคที่มลภาวะเยอะมากๆ
  • ฉันต้องการมีออร่ามากขึ้น เห็นตัวเองแล้วรู้สึกผิวกระจ่างใส สัมผัสผิวดีเรียบเนียนมากกว่าเคย
  • ฉันที่ต้องการดริปวิตามินผิวขาว แล้วเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน ผิวสุขภาพดีขึ้นแบบเร่งด่วน
  • ฉันคือคนที่ไม่ชอบทานวิตามินเลย แต่อยากผิวขาวขึ้น มีออร่าและสุขภาพผิวดี

ถ้ายังไม่แน่ใจว่า โปรแกรมฉีดผิวขาว เหมาะกับคุณหรือไม่? คุณสามารถจองรับคำปรึกษากับเราฟรี เพื่อรับแผนการรักษาจากการประเมินของแพทย์ ที่ออกแบบมาเพื่อคุณโดยเฉพาะ

การฉีดผิวขาวและการทำ IV Drip ที่มีใน KKC Clinic

ที่ KKC Clinic เราเข้าใจทุกปัญหาผิวของคุณเป็นอย่างดี เรารู้ว่าในปัจจุบัน อากาศร้อนขึ้น แสงแดดแรงขึ้นรวมถึงมลพิษที่ทำลายผิวมีมากเพิ่มขึ้นทุกวัน ไม่แปลกเลยที่ผู้คนจำนวนไม่น้อยหันมาดูแลเรื่องผิวกันมากกว่าแต่ก่อน เพราะอย่างนี้ KKC Clinic จึงมีโปรแกรมการฉีดผิวขาว เพื่อแก้ปัญหาสีผิวไม่สม่ำเสมอ ความหมองคล้ำหรือจุดด่างดำเฉพาะจุดและทั่วร่างกาย โดยแบ่งเป็นโปรแกรมการฉีด Rejuwhite เพื่อฟื้นฟูเฉพาะจุดและ IV Drip สำหรับผิวกระจ่างใสทั่วร่างกาย ให้ได้เลือกตามปัญหาที่แต่ละคนต้องเจอหรือใครจะฉีดควบคู่กัน ก็ไม่เป็นอันตรายนะคะ

การฉีด Rejuwhite สูตรฉีดผิวขาวกระจ่างใส เฉพาะจุดจาก KKC

หลอดฉีดยา Rejuwhite ที่เตรียมไว้ 3 หลอดวางบนถาดสแตนเลส พร้อมกล่อง Rejuwhite สีชมพูไล่เฉดที่คลินิก KKC

การให้วิตามินผิวโดยใช้ Rejuwhite เป็นสูตรเฉพาะของทาง KKC Clinic เท่านั้น ที่ออกแบบมาเพื่อคนเอเชียโดยเฉพาะ เน้นลดจุดด่างดำ ฝ้า กระต่างๆ บนใบหน้าและยังช่วยลดความหมองคล้ำของผิว เหมาะสำหรับคนที่ต้องการปรับสีผิวที่ไม่สม่ำเสมอแบบเฉพาะจุด เพื่อให้เห็นผลลัพธ์ที่เร็วที่สุด ซึ่งแตกต่างจากการดริปผิวขาว (IV Drip) ที่เป็นการฉีดและส่งไปทั่วร่างกาย ไม่เฉพาะเจาะจงส่วนใดส่วนหนึ่งเหมือนการเติมวิตามินที่ดีต่อร่างกายนั่นแหละ

ส่วนผสมสำคัญใน Rejuwhite ของ KKC Clinic

  • วิตามินซีในปริมาณเข้มข้น เพื่อช่วยลดเม็ดสีและทำให้ผิวสว่างขึ้นชัดเจนอย่างเป็นธรรมชาติ
  • ไนอาซินาไมด์และกรดโคจิก ช่วยลดฝ้า กระ และจุดด่างดำส่วนเกิน ลดความหมองคล้ำของผิวที่เสื่อมโทรมจากแสงแดดและมลภาวะที่มีในอากาศ ช่วยให้ผิวแข็งแรงขึ้น
  • กรดไฮยาลูโรนิก ช่วยเติมความชุ่มชื้นและเพิ่มความยืดหยุ่นให้ผิวสุขภาพดี น่าสัมผัส ไม่แก่ก่อนวัย

ฉีด Rejuwhite เห็นผลลัพธ์เมื่อไหร่?

  • เห็นผลภายใน 3–7 วัน หลังฉีดครั้งแรก
  • ผลลัพธ์เที่ดีที่สุดอยู่ในช่วง 7–14 วัน ขึ้นอยู่กับสภาพผิว สีผิวแรกเริ่มและกระบวนการเผาผลาญของร่างกาย ซึ่งแต่ละคนมีแตกต่างกันแต่คุณจะเห็นถึงการเปลี่ยนแปลง ความนุ่มลื่นของผิว ออร่ามากยิ่งขึ้นอย่างแน่นอน

ควรฉีด Rejuwhite บ่อยแค่ไหนถึงกำลังดี?

  • ช่วงที่ต้องการเห็นผลลัพธ์แบบเร่งด่วน แนะนำให้ฉีดผิวขาวด้วย Rejuwhite สัปดาห์ละ 1 ครั้ง เป็นเวลา 1 เดือน จะเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน
  • ฉีดทุก 2–3 สัปดาห์ ช่วงระยะเวลาปกติ เป็นการบำรุงผิวและเพิ่มวิตามินตามปกติ ลดเรือนฝ้า กระ จุดด่างดำบนใบหน้าได้ดี

IV Drip อีกตัวหนึ่งที่อยากแนะนำ ช่วยให้ผิวกระจ่างใส เนียนนุ่มขึ้น

หญิงสาวกำลังพักผ่อนหลังทำทรีตเมนต์ฉีดวิตามินที่คลินิก KKC โดยมีพลาสเตอร์แปะที่แขนและเสายาน้ำข้างตัว

การทำ IV Drip เป็นการเติมวิตามินที่สำคัญต่อผิวแบบเข้มข้นผ่านสายน้ำเกลือ เข้าทางหลอดเลือดดำ ซึ่งเป็นการช่วยให้ผิวขาวกระจ่างใสทั่วเรือนร่างและยังมีส่วนช่วยในเรื่องการล้างสารพิษและชะลอวัยด้วย เป็นอีกตัวที่ช่วยในเรื่องการฉีดผิวขาวที่นิยมกันมากๆ ในปัจจุบัน ไม่เพียงเท่านั้น ใครที่ต้องการให้สุขภาพแข็งแรงก็สามารถให้ได้เช่นกัน เพราะมีส่วนผสมที่เป็นตัววิตามินเข้มข้นจากธรรมชาติต่างๆ รวมอยู่ด้วย

KKC Clinic มี IV Drip เพื่อผิวขาวด้วยกัน 3 สูตร ดังนี้

  1. Skin Bright: สร้างผิวไบร์ท เติมออร่าให้ผิวขาว อมชมพู
    เป็นการดริปวิตามินที่มีส่วนประกอบโดดเด่น คือ Vitamin C และ Acetin เป็นสารต้านอนุมูลอิสระซึ่งเป็นสารตั้งต้นที่ช่วยให้ร่างกายสามารถสร้างกลูต้าไธโอนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ผิวมีความกระจ่างใส ขาว อมชมพูมากกว่าเคย และวิตามินซีเข้มข้นยังช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกายและช่วยให้ผิวสุขภาพแข็งแรงอีกด้วย
  2. Skin Collagen: เพื่อผิวอิ่มฟู เนียนนุ่ม น่าสัมผัส
    การดริปวิตามินสูตร Skin Collagen มีส่วนประกอบที่โดดเด่นเลย คือ คอลลาเจนนั่นเอง ซึ่งเจ้าตัว Skin Collagen นี้ มีส่วนช่วยเสริมคอลลาเจนให้มีมากยิ่งขึ้น ช่วยให้ผิวคงความยืดหยุ่นไว้มากที่สุด ไม่หยาบกระด้าง อีกทั้งยังช่วยเรื่องความแข็งแรงของผิว ชวนให้ผิวน่าสัมผัสมากยิ่งขึ้น และยังทำให้ ฟัน กระดูก เส้นผม มีความแข็งแรงอีกด้วยนะจ๊ะ
  3. Skin Anti-Aging: ฟื้นฟูผิว ให้ดีดเด้ง ไม่หย่อนยาน
    โดยการดริปวิตามินผิวชนิดนี้ มีส่วนประกอบสำคัญอย่าง ALA (Alpha-Lipoic Acid-ALA) เป็นกรดไขมันที่ช่วยสร้างสารต้านอนุมูลอิสระในร่างกาย ช่วยให้ร่างกายที่เสื่อมสภาพลงตามอายุ ความเครียดหรือมลพิษต่างๆ กลับมาดูอ่อนเยาว์มากขึ้นและยังช่วยชะลอวัย รวมถึงช่วยให้ผิวเด้งดึ๋งมากกว่าเคย นอกจากนี้ยังมีส่วนช่วยลดการอักเสบของผิว ผิวแข็งแรง จึงมีส่วนทำให้ลดเลือนริ้วรอยเล็กๆ น้อยๆ ได้ด้วย

เปรียบเทียบ การฉีด Rejuwhite และการ ดริปวิตามินผิวขาว ควรเลือกแบบไหน?

คุณสมบัติ

Rejuwhite

IV Drip

วิธีออกฤทธิ์

ฉีดเข้าสู่ผิวโดยตรง

ดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือด

ความเร็วในการดูดซึม

เร็วกว่า ให้ผลลัพธ์เฉพาะจุด

ช้ากว่า ให้ผลลัพธ์ทั่วร่างกาย

เหมาะสำหรับ

รักษาจุดด่างดำ ฝ้า สีผิวไม่สม่ำเสมอ

ปรับผิวกระจ่างใสทั่วร่างกายและล้างสารพิษ

ความถี่ในการฉีด

ทุกสัปดาห์หรือทุก 2 สัปดาห์

ทุกสัปดาห์หรือทุกเดือน

ควรเลือกฉีด Rejuwhite หรือ IV Drip มากกว่ากัน?

จริงๆ ต้องบอกว่า สองอย่างนี้มีความเหมือนเรื่องช่วยด้านความขาวใสและสร้างความแข็งแรงให้แก่ผิว ช่วยให้สีผิวสม่ำเสมอเหมือนๆ กัน แต่ก็มีความแตกต่างกันโดยสิ้นเชิงบางอย่าง ในส่วนของ Rejuwhite เป็นการฉีดเฉพาะจุดเท่านั้น โดยแก้ปัญหาเป็นจุดๆ ไป อย่างเช่น ปัญหารอยดำ ฝ้า กระ จุดด่างดำต่างๆ บนใบหน้า ส่วนการดริปวิตามินผิว (IV Drip) จะเป็นการเสริมสร้างกลูต้าไธโอนซึ่งเป็นสารที่ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระที่มีส่วนทำให้ผิวเราแก่ก่อนวัย หย่อนคล้อย และไม่แข็งแรง ซึ่งการดริปวิตามินผิวจะมีผลทั่วร่างกายและยังช่วยให้ร่างกายได้รับวิตามินที่ดีเข้าไปทำให้ร่างกายแข็งแรงขึ้น ผลพลอยได้คือความขาวกระจ่างใสนั่นเอง

การฉีดผิวขาวปลอดภัยหรือไม่ มีอันตรายไหม?

การฉีดผิวขาวมีความปลอดภัย เมื่อได้รับการฉีดหรือดริปผิวโดยผู้เชี่ยวชาญ คุณจะไม่ต้องกังวลเลยเรื่องความปลอดภัยถ้ามาหาเราที่ KKC Clinic ซึ่งเรามีทีมผู้เชี่ยวชาญด้านผิวพรรณ มากประสบการณ์ให้บริการแก่คุณ โดยผลข้างเคียงเมื่อฉีดซึ่งเป็นเคสที่พบได้ยากก็มีบ้าง เช่น อาจมีอาการฟกช้ำเล็กน้อยจากการใช้เข็ม หรืออาการคลื่นไส้ ระคายเคืองผิว ซึ่งนั่นไม่ใช่เรื่องที่น่าตกใจ จะมีผู้เชี่ยวชาญช่วยแนะนำการปฎิบัติตัวให้หลังการดริปผิวขาวอย่างแน่นอนแต่หากใครเคยมีอาการแพ้กลูต้ามาก่อน แนะนำให้แจ้งแพทย์ทุกครั้ง

ผู้ที่ไม่ควรฉีดผิวขาว เป็นใครบ้างนะ?

  • ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคไต โรคตับ โรคเบาหวาน ความดันโลหิตหรือต้องรักษาด้วยยาเป็นประจำ
  • ผู้ที่มีประวัติเป็นโรคหลอดเลือดต่างๆ 
  • ผู้หญิงที่กำลังตั้งครรภ์หรือให้นมบุตรอยู่
  • ผู้ที่เคยมีประวัติแพ้ยาหรือแพ้กลูต้าไธโอนหรือวิตามินบางชนิด ต้องแจ้งแพทย์ทุกครั้ง

คุณสามารถจองรับคำปรึกษากับเราฟรี เพื่อรับใบเสนอราคาที่จัดเตรียมมาให้เหมาะกับเป้าหมายและแผนการรักษาของคุณโดยเฉพาะ

ทำไมต้องเลือก KKC Clinic ในการฉีดผิวขาว?

ผู้หญิงถือถุงคลุมสายน้ำเกลือสองอันพร้อมรอยยิ้มที่คลินิก KKC โปรโมตโปรแกรมฉีดผิวขาว โดยมีภาพแขนที่เสียบสายน้ำเกลือด้านขวาของภาพ

หากยังเลือกไม่ได้ว่าจะฉีดผิวขาวที่ไหนดี เราแนะนำ KKC Clinic ซึ่งมีผู้เชี่ยวชาญด้านผิวพรรณ การปรับสีผิวที่ไม่สม่ำเสมอให้คำแนะนำแก่คุณทุกเคส โดยที่คุณไม่ต้องทำศัลยกรรมและไม่ต้องพักฟื้นนานโดยไม่จำเป็น อีกทั้งตัวยาฉีดผิวขาวอย่าง Rejuwhite ก็ถูกพัฒนาขึ้นสำหรับผิวของคนเอเชียโดยเฉพาะ เพื่อตอบโจทย์ปัญหาของคนบ้านเรา ซึ่งได้รับการรับรองมาตรฐานจากทางการแพทย์และมีความปลอดภัยสูง รวมถึง KKC Clinic ยังเป็นคลินิกที่เดินทางสะดวกที่สุด มีหลายสาขาทั่วกรุงเทพฯ ให้ได้เลือกใช้บริการ อย่างนี้จะไม่ฉีดผิวขาวกันจริงหรอ? รีบเลยตอนนี้ ทักแชทมาได้เลย

นัดหมายตอนนี้เพื่อผิวกระจ่างใสและเปล่งประกายของคุณ!