บอกลา “ใบหน้าไม่เท่ากัน” รวมวิธีแก้ไขจากคลินิกความงามที่คุณควรรู้!

ผู้หญิงสองคนเปรียบเทียบสัดส่วนใบหน้าที่สมดุลและไม่สมดุล มีเส้นแบ่งแนวตั้ง 1/5 และข้อความหัวข้อเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาใบหน้าไม่เท่ากัน

เคยส่องกระจก แล้วรู้สึกว่าหน้าตัวเองไม่เท่ากันไหมคะ? หลายๆ คนคงเคยเจอปัญหา อย่างเขียนคิ้ว ทำไมข้างนี้มันสูง ข้างนี้มันต่ำหรือบางคนแย่กว่านั้นหน่อย มีบางเคสโหนกแก้มไม่เท่ากัน แต่งหน้ายังไงมิติก็แปลก นั่นเพราะใบหน้าของคนเราเองแหละค่ะ ที่มันเกิดความไม่สมมาตร ไม่ใช่ว่าทุกคนที่จะมีใบหน้าเท่ากันทั้งสองด้านและส่วนใหญ่ด้วยที่ไม่เท่ากัน ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องที่ผิดปกติ แต่บางคนไม่เท่ากันอย่างเห็นได้ชัด ตรงนี้เราเลยต้องมาเช็คกันว่า เราทำอย่างไรได้บ้างและควรรักษาวิธีไหนดี ที่จะทำให้ใบหน้าของเราสมดุลกันมากที่สุด KKC Clinic เข้าใจทุกปัญหา เราจึงออกแบบหลากหลายหัตถการเพื่อมารักษา และจะรู้ได้อย่างไรว่าวิธีไหนเหมาะกับคุณ ลองไปอ่านกันดูค่ะ

Checklist 4 ข้อ! หน้าเราเท่ากันไหมหน๋อ?

เราทุกคนมักมีใบหน้าสองข้างไม่สมมาตรกัน ลองเช็คเล่นๆ กันดีกว่า ว่าหน้าคุณเป็นแบบไหน เผื่อถ้ามีปัญหาจะได้แก้ไขได้ถูกจุด และหาวิธีการรักษาใบหน้าให้สมดุลกันค่ะ เราแนะนำวิธีการง่ายๆ ดังนี้

  1. วิธีที่ง่ายที่สุด คือ การใช้กระจกหรือรูปถ่ายที่เห็นใบหน้าตรง อาจจะให้คนอื่นช่วยถ่ายก็ได้นะคะ มันจะได้ตรงกลางพอดิบพอดี  เน้นเส้นกึ่งกลางเพื่อใช้เปรียบเทียบหน้าทั้งสองข้างค่ะ
  2. ลองใช้วิธีการสังเกตความต่างของระดับของตา คิ้วทั้งสอง ปริมาตรแก้ม และแนวกรามดูไหมคะ อันนี้ก็เห็นความแตกต่างชัดเหมือนกันในกรณีที่ใบหน้าของคุณไม่เท่ากันเป็นอย่างมาก
  3. แอปมือถือ ช่วยได้! ซึ่งปัจจุบันมีแอพมากมายที่ใช้เปรียบเทียบความสมมาตรให้ได้ใช้งานกันอย่างแพร่หลาย แต่ผลลัพธ์อาจไม่แม่นยำ 100% นะคะ ต้องทำใจนิดนึง
  4. ข้อสุดท้าย เป็นข้อที่แนะนำที่สุด เพราะ เราแนะนำให้คุณพบแพทย์เฉพาะทางด้านการปรับโครงสร้างหน้า เพื่อแก้ปัญหาหน้าไม่เท่ากันค่ะ

ถ้ายังไม่แน่ใจว่าการ การรักษาหน้าไม่เท่ากัน เหมาะกับคุณหรือไม่? คุณสามารถจองรับคำปรึกษากับเราฟรี เพื่อรับแผนการรักษาจากการประเมินของแพทย์ ที่ออกแบบมาเพื่อคุณโดยเฉพาะ

สาเหตุของใบหน้าไม่เท่ากัน มีอะไรบ้าง?

ภาพใบหน้าผู้หญิงแบบใกล้ แบ่งครึ่งด้วยเส้นตรงกลาง มีเครื่องหมายคำถามทั้งสองด้าน เน้นความไม่สมดุลของใบหน้า

1. พันธุกรรมและโครงสร้างกระดูกของใบหน้า

ซึ่งข้อนี้เป็นข้อที่แก้ไขยากสุด เพราะ สิ่งที่เป็นมาตั้งแต่กำเนิดมักจะแก้ไขยากเสมอ แต่ก็สามารถปรับได้บ้าง การที่ได้รับพันธุกรรมที่ทำให้โครงสร้างของกระดูกใบหน้าไม่เท่ากัน มีได้หลายสาเหตุ เช่น เพดานโหว่ หรือ craniofacial microsomia มักสร้างความไม่สมดุลให้ใบหน้า มักจะเป็นตลอดชีวิตค่ะ

2. อายุที่มากขึ้นและการเปลี่ยนแปลงไขมันบนใบหน้า

เมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น ไขมันและโครงสร้างของใบหน้าคนเราจะเปลี่ยนแปลงไป การลดลงของคอลลาเจนใต้ผิวหนัง ทำให้รูปทรงหน้าเปลี่ยนแปลงได้หรือบางกรณีอาจจะถึงขั้นหน้าเบี้ยวก็มี และการเจริญเติบโตของกระดูกอ่อนบริเวณจมูกและหูก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่สามารถเปลี่ยนสัดส่วนใบหน้าได้เล็กน้อยเช่นเดียวกัน อายุมากขึ้นเป็นปัจจัยที่ส่งผลให้หน้าไม่เท่ากัน ที่น่ากลัวที่สุด เพราะไม่มีใครหลีกหนีได้ เฮ้อออออ

3. การใช้ชีวิตประจำวันและพฤติกรรมต่างๆ 

การทำพฤติกรรมบางอย่างเป็นประจำในชีวิตประจำวันโดยที่ไม่รู้ตัว เช่น ท่ายืน ท่านั่งหรือแม้แต่การชอบนั่งเท้าคาง ท่านอนก็เช่นกัน คนที่ชอบนอนตะแคงด้านใดด้านหนึ่งก็มีส่วน ละเลยไม่ได้เลยนะคะ! ไหนจะการเคี้ยวอาหารข้างหนึ่งมากกว่าอีกข้างก็มีส่วนทำให้หน้าเบี้ยวได้ อันนี้ต้องระวังอย่างมาก เพราะถือว่าเป็นความเคยชิน

4. ปัญหาทางทันตกรรมและข้อต่อขากรรไกร (TMJ)

ปัญหาทางช่องปากคงเป็นปัญหาที่หลีกเลี่ยงได้ยาก หากเกิดขึ้นแล้ว แต่ก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ใบหน้าเราไม่เท่ากันได้ เช่น การถอนฟัน หรือ แนวขากรรไกรไม่เท่ากัน หลายคนเห็นชัดเจนจนถึงขั้นต้องผ่าตัดศัลยกรรมก็มี เป็นปัญหาที่สุดวิสัยจริงๆ ค่ะ

5. การประสบอุบัติเหตุหรือบาดเจ็บ

ปัญหานี้เป็นปัญหาที่ไม่มีใครอยากให้เกิด เพราะอาจถึงขั้นทำให้เสียชีวิตได้หากไม่ระวัง แต่หากเป็นอุบัติเหตุเพียงเล็กน้อย ก็อาจทำให้เกิดอาการหน้าเบี้ยวได้เช่นกัน เช่น กระดูกใบหน้าแตก การประสบอุบัติเหตุตั้งแต่อายุยังน้อย ก็มีผลต่อพัฒนาการใบหน้าในระยะยาวได้ เพราะฉะนั้น อย่าประมาทกันนะคะ

6. ปัญหาสุขภาพบางประเภท

  • อัมพาตเบลล์ (Bell’s Palsy) หรือภาวะกล้ามเนื้อใบหน้าครึ่งซีกอ่อนแรงชั่วคราวจากเส้นประสาทบางชนิดอักเสบ
  • โรคหลอดเลือดสมอง (Stroke) ใบหน้าเบี้ยวร่วมกับอาการอื่น เป็นเหตุฉุกเฉินทางการแพทย์ที่หลีกเลี่ยงได้ค่อนข้างยาก ยิ่งในสภาวะอากาศแบบนี้ หรือสิ่งแวดล้อมก็มีผลทำให้เกิดอาการนี้ได้ง่ายขึ้นไปอีก
  • Congenital Torticollis กล้ามเนื้อคอตึงในทารก ส่งผลให้ศีรษะและใบหน้าเจริญเติบโตไม่เท่ากัน

7. มลภาวะและพฤติกรรมการสูบบุหรี่

อากาศบ้านเราเปลี่ยนแปลงแทบทุกวัน คงหลีกเลี่ยงได้ยากหากจะให้เลี่ยงแสงแดดเลย ซึ่งการโดนแดดเป็นประจำ ทำให้เกิดอาการหน้าเบี้ยวได้ด้วยนะคะ แนะนำให้ทาครีมกันแดดอย่างสม่ำเสมอ ทุกวัน ไม่ว่าจะอยู่ในที่ร่มหรือกลางแจ้ง และอีกปัจจัยที่หลายคนอาจจะไม่รู้ คือ การสูบบุหรี่ เป็นตัวที่ทำลายคอลลาเจนที่ดีเลย ทำให้หน้าไม่เท่ากันได้ในอนาคต เพราะฉะนั้น เลิกได้เลิกค่ะทุกคน

ทางเลือกในการรักษาหน้าไม่เท่ากัน

ผู้หญิงนอนบนเก้าอี้ทำทรีตเมนต์ สวมที่คาดผมและผ้าคลุมของ KKC กำลังส่องกระจกตรวจดูใบหน้าของตัวเอง

ปัญหา “ใบหน้าไม่เท่ากัน” หรือที่เรียกว่า Asymmetrical Face เป็นสิ่งที่พบได้บ่อยมากกว่าที่คิด และอาจทำให้หลายคนกังวลและขาดความมั่นใจไปเลยก็มี แต่ข่าวดีก็คือ ปัญหานี้มีทางออกที่สามารถรักษาได้หลายวิธีอยู่ ไปดูกันว่ามีอะไรบ้างที่ช่วยแก้ปัญหาใบหน้าไม่เท่ากันได้

1.ฟิลเลอร์ช่วยได้ (Dermal Fillers)

ฟิลเลอร์เป็นสารเติมเต็มที่ได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน ไม่แปลกที่จะเป็นอันดับแรกที่เราแนะนำ เพราะสามารถช่วยแก้ปัญหาใบหน้าไม่เท่ากันหรือเพิ่มปริมาตรของใบหน้าที่ลดลงได้เป็นอย่างดี เช่น บริเวณ แก้ม คาง แนวกราม ซึ่งสามารถช่วยปรับสมดุลให้ใบหน้ามีความใกล้เคียงกันมากที่สุด แต่ข้อสำคัญเลยคือ ต้องทำกับแพทย์ที่เข้าใจและมีประสบการณ์ด้านการแก้ไขรูปหน้าโดยเฉพาะ แต่ฟิลเลอร์ก็ยังมีข้อจำกัดอยู่ที่ อายุของผลลัพธ์จะอยู่ได้ประมาณ 6–18 เดือนแล้วแต่ยี่ห้อและชนิดของฟิลเลอร์ด้วยค่ะ

2. โบท็อกซ์ / สารคลายกล้ามเนื้อ

โบท็อกซ์ เป็นสารชนิดหนึ่งที่ช่วยลดการทำงานของกล้ามเนื้อ ที่อาจทำงานมากเกินไป เช่น กราม คิ้ว ริมฝีปาก ซึ่งเหมาะกับเคสที่มีใบหน้าไม่เท่ากัน ที่เกิดจากการเคลื่อนไหวหรือกรณีหลังอัมพาตเบลล์(ใบหน้าไม่รู้สึกครึ่งซีก) แต่ข้อจำกัดก็คือ เรื่องระยะเวลาของผลลัพธ์อยู่ได้นานประมาณ 3–6 เดือนเท่านั้น แต่หากทำอย่างต่อเนื่องและมีการนัดพบหมอเป็นประจำ ก็ทำให้อาจได้ผลลัพธ์ที่ดีถาวรได้ค่ะ

3. ฉีดสลายไขมัน

หรือที่รู้จักกันทั่วไปว่า “เมโสแฟต” (Meso Fat) เป็นหนึ่งในหัตถการยอดนิยมในคลินิกเสริมความงามสำหรับการลดไขมันเฉพาะจุดโดยไม่ต้องผ่าตัด พักฟื้นให้เสียเวลา สามารถช่วยได้ในบางกรณี เช่น แก้มที่ไม่เท่ากัน หรือปัญหาเหนียง คาง ค่ะ

4. ร้อยไหม (Thread Lift)

การร้อยไหมเป็นวิธีที่ดีวิธีหนึ่งเลย เป็นการปรับรูปหน้าโดยวิธีการใช้ไหมละลายและยังสามารถช่วยกระตุ้นคอลลาเจนใต้ผิวหนังได้ด้วย ซึ่งหลายคนใช้วิธีการร้อยไหมในการปรับรูปหน้าที่ไม่เท่ากัน ให้ดีขึ้น ผลลัพธ์ของการร้อยไหมอยู่ได้นาน 12–24 เดือน ขึ้นอยู่กับชนิดของไหมและเทคนิคของแพทย์แต่ละคนค่ะ

5. หัตถการที่ช่วยกระชับผิว

  • HIFU การใช้คลื่นอัลตราซาวด์ที่มีความเข้มสูงเพื่อยกกระชับผิว โดยสามารถปรับความลึกของพลังงานได้หลายระดับ ตั้งแต่ชั้นหนังแท้ ไปจนถึงชั้นลึกที่เรียกว่า SMAS (Superficial Muscular Aponeurotic System) ซึ่งเป็นชั้นเนื้อเยื่อที่เชื่อมต่อกับกล้ามเนื้อ และเป็นชั้นเดียวกับที่แพทย์ศัลยกรรมใช้ในการผ่าตัดดึงหน้า ซึ่งช่วยแก้ปัญหาใบหน้าไม่เท่ากันได้โดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องเสียเวลาพักฟื้นและยังมีส่วนช่วยในการกระตุ้นคอลลาเจนด้วย
  • Ultherapy ใช้พลังงานคลื่นเสียงอัลตราซาวด์แบบเฉพาะเจาะจง (Focused Ultrasound) ที่สามารถลงลึกถึงชั้นผิวหนังได้ในระดับที่แม่นยำ เจาะลึกลงชั้นใต้ผิวหนังล่างสุด เหมาะสำหรับ ยกคิ้ว ยกหางตา ใบหน้าส่วนล่างและแนวกราม 
  • Thermage ใช้คลื่นวิทยุความถี่สูง (Radiofrequency; RF) ชนิด Monopolar RF ซึ่งแตกต่างจาก Ultherapy หรือ HIFU ที่ใช้คลื่นเสียงอัลตราซาวด์ เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่และกระชับผิวให้เต่งตึงขึ้น โดยเป็นการยกผิวหน้าอีกวิธีหนึ่งที่กำลังได้รับความนิยม โดยสามารถแก้ปัญหาได้ตั้งแต่ หนังตาตก คิ้วตก หน้ากระชับไม่เท่ากัน

วิธีทั้งหมดที่กล่าวมา เหมาะกับผู้ที่มีความหย่อนคล้อยของผิวเล็กน้อยเท่านั้น ในส่วนที่ใบหน้าไม่สมมาตรกันเยอะๆ อาจจะต้องลองใช้วิธีอื่นในการรักษาแทนนะคะ

6. การรักษาโดยการผ่าตัด / ศัลยกรรมใบหน้า

ในกรณีที่มีความรุนแรงมากของใบหน้าที่ไม่เท่ากัน จนสร้างปัญหาหรือความไม่มั่นใจในการใช้ชีวิตประจำวัน  เช่น สำหรับเคสที่โครงสร้างกระดูกใบหน้าไม่เท่ากัน อาจต้องถึงขั้นผ่าตัดขากรรไกรแทน หรือเคสอย่างเสริมคาง เสริมจมูก ที่ต้องความเด่นชัดและสมดุลมากๆ อันนี้อาจต้องตัดสินใจเลือกรักษาโดยวิธีศัลยกรรมแทนค่ะ

คุณสามารถจองรับคำปรึกษากับเราฟรี เพื่อรับใบเสนอราคาที่จัดเตรียมมาให้เหมาะกับเป้าหมายและแผนการรักษาของคุณโดยเฉพาะ

แก้ใบหน้าไม่เท่ากัน ต้องเลือกทำที่ KKC Clinic

ผู้หญิงจับใบหน้าทั้งสองข้างด้วยสีหน้ากังวล พร้อมหมอกาญจน์ในชุดยูนิฟอร์ม KKC ยิ้มและชี้ขึ้น ข้างข้อความเกี่ยวกับการรักษาใบหน้าไม่เท่ากันที่ KKC Clinic

การปรับรูปหน้าที่ไม่สมมาตร ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ ที่ใครหรือคลินิกไหนจะทำได้ดีทุกที่ ต้องได้รับการตรวจวิเคราะห์อย่างละเอียด ด้วยเทคโนโลยีภาพขั้นสูงและการประเมินโดยผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น เพราะไม่อย่างนั้น จากที่จะแก้จะยิ่งเป็นเสียซะมากกว่า โดยที่ KKC Clinic มีความพร้อมด้านบุคลากรทางการแพทย์มากด้วยประสบการณ์ เข้าใจลึกซึ้งในโครงสร้างของใบหน้าและการแก้ไขความไม่เท่ากันได้และยังมีตัวเลือกที่หลากหลาย ซึ่งสามารถใช้รักษาทำให้หน้ากลับมาสมดุลกันและมีการออกแบบการรักษาเป็นรายบุคคล เพื่อให้สามารถแก้ปัญหาได้ตรงจุด ตามความต้องการของคุณ เพื่อให้คุณมั่นใจในตัวเองมากยิ่งขึ้น หากคุณสนใจ สามารถติดต่อสอบถามหรือนัดคิวแพทย์เพื่อประเมินได้นะคะ

โดยธรรมชาติแล้ว ใบหน้าของมนุษย์เราไม่ได้สมมาตรกัน 100% อยู่แล้ว ความไม่สมดุลเพียงเล็กน้อยนั้น เป็นเรื่องปกติที่พบได้ในทุกคน แต่หากความไม่เท่ากันนั้นชัดเจนจนเริ่มส่งผลกระทบต่อความมั่นใจในการใช้ชีวิตประจำวัน ปัจจุบันหัตถการด้านความงามได้ก้าวหน้าไปมาก ทำให้มี หลากหลายทางเลือกในการรักษาที่ปลอดภัยและให้ผลลัพธ์ที่ดี 

สิ่งสำคัญที่สุดคือการเข้ารับคำปรึกษาจากทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ที่มีประสบการณ์ เพื่อให้แพทย์ได้วินิจฉัยสาเหตุที่แท้จริงของใบหน้าที่ไม่เท่ากันของคุณ พร้อมแนะนำแนวทางการดูแลหรือเทคนิคการรักษาที่เหมาะสมที่สุด เพื่อให้คุณกลับมามีใบหน้าที่ดูสมดุล สวยงาม และมั่นใจในตัวเองอีกครั้งค่ะ

คืนความสมดุลและความมั่นใจให้ใบหน้าของคุณกันค่ะ