การฉีดฟิลเลอร์คางช่วยให้หน้าเรียวได้ยังไง?

ผู้หญิงผิวเรียบเนียนไร้ที่ติที่แสดงผลลัพธ์จากการฉีดฟิลเลอร์คาง

“อยากเสริมคางให้ดูยาวขึ้น แต่ก็ไม่อยากผ่าตัด จะทำยังไงดี?” ก็ต้องมาฉีดฟิลเลอร์คางของแท้ที่ KKC Clinic สิคะ เพราะการฉีดฟิลเลอร์คางจะช่วยเสริมให้คางยาวขึ้น หน้าเรียวลง ทำให้หน้าดูมีมิติและได้สัดส่วน แก้ปัญหาคางสั้น คางตัด คางบุ๋ม หรือคางไม่เท่ากันได้อย่างรวดเร็วทันใจ แถมยังไม่ต้องใช้เวลาพักฟื้นและไม่ทิ้งรอยแผลเป็นไว้อีกด้วยค่ะ แต่สำหรับใครที่ยังมีข้อสงสัยในเรื่องต่าง ๆ เกี่ยวกับฟิลเลอร์คาง ก็สามารถมาหาคำตอบได้ในบทความนี้ค่ะ

ผลลัพธ์ที่ได้อาจขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล

ฟิลเลอร์คางคืออะไร?

การฉีดฟิลเลอร์คาง (Chin Filler) คือวิธีการเสริมคางโดยไม่ต้องผ่าตัด โดยจะใช้การฉีดสารเติมเต็มประเภทกรดไฮยาลูรอนิก (Hyaluronic Acid – HA) เข้าไปในบริเวณคาง ช่วยให้ความยาวของคางเพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะเห็นการเปลี่ยนแปลงได้ทันทีหลังทำ ที่สำคัญคือใช้เวลาทำไม่นาน ไม่มีรอยแผล ไม่ต้องใช้เวลาพักฟื้น ผลลัพธ์อยู่ได้นาน และมีความปลอดภัย

การฉีดฟิลเลอร์คางจะช่วยปรับรูปหน้าให้ดูเรียวสวยแบบ V-Shape มากขึ้น แก้ปัญหาคางสั้น คางตัด คางบุ๋ม คางไม่เท่ากัน โดย HA เป็นสารที่สามารถกลืนเข้ากับผิวของคนเราได้ดี ทำให้ผลลัพธ์ที่ได้ดูเป็นธรรมชาติ อีกทั้งยังช่วยให้ใบหน้าดูมีมิติและได้สัดส่วนมากยิ่งขึ้น รวมถึงเป็นอีกวิธีที่ดีในการปรับโหงวเฮ้งของใบหน้า

ฟิลเลอร์คางช่วยแก้ปัญหาอะไรบ้าง?

การฉีดฟิลเลอร์คางช่วยแก้ปัญหาของใบหน้าได้หลายอย่างเลยค่ะ โดยตัวอย่างปัญหาก็ได้แก่

  • คางสั้น ทำให้หน้าดูสั้น ดูอ้วนกลม
  • คางตัด ทำให้หน้าดูกลมหรือเหลี่ยมมากเกินไป
  • คางบุ๋ม คางถอย คือเกิดเป็นร่องตรงกลางหรือคางตรงกลางเว้าเข้าไป
  • คางเบี้ยว คางไม่เท่ากัน ทำให้ใบหน้าไม่สมมาตร ไม่ได้สัดส่วน ซึ่งอาจเกิดจากแนวฐานกระดูกกรามเบี้ยว
  • คางไม่เป็นทรง

ใครบ้างที่ควรฉีดฟิลเลอร์คาง?

ผู้หญิงผมสีแดงสวมผ้าคาดผม KKC Clinic แสดงให้เห็นรูปคางที่ได้รับการปรับปรุงหลังจากการฉีดฟิลเลอร์คาง

ที่จริงแล้วใคร ๆ ก็สามารถฉีดฟิลเลอร์คางได้ค่ะ ขึ้นอยู่กับว่าเรามีปัญหาอะไร หรืออยากได้รูปทรงคางแบบไหน โดยคนที่เหมาะกับการฉีดคางก็จะมีดังนี้ค่ะ

  • คนที่มีคางสั้น แต่ไม่สั้นมาก
  • คนที่มีคางตัด คางบุ๋ม คางถอย คางเบี้ยว คางไม่เท่ากัน หรือคางไม่เป็นทรง
  • คนที่มีหน้าสั้น หน้ากลมหรือเหลี่ยมมากเกินไป 
  • คนที่มีใบหน้าไม่สมมาตร หรือใบหน้าไม่ได้สัดส่วนกัน
  • คนที่อยากปั้นรูปทรงคางให้เข้ากับใบหน้า หรือต้องการปรับโหงวเฮ้ง
  • คนที่อยากเพิ่มความยาวคาง เพื่อให้หน้าเรียวสวยหรือหวานละมุนอย่างเป็นธรรมชาติ
  • คนที่อยากเสริมคางแต่ไม่อยากผ่าตัด เช่น ไม่อยากเจ็บตัวเยอะ ไม่อยากมีแผล ไม่อยากใช้เวลาพักฟื้น
  • คนที่ไม่เหมาะกับการผ่าตัดเสริมคาง เช่น มีโรคประจำตัวและอาการยังไม่คงที่
  • คนที่ต้องการเห็นผลหลังทำหัตถการทันที หรือต้องการใช้ใบหน้าเลย
  • คนที่อยากเสริมคางด้วยวิธีการที่ปลอดภัย

ฉีดฟิลเลอร์คางกับผ่าตัดเสริมคางอันไหนดีกว่า?

ต้องขอบอกก่อนเลยค่ะว่า ทั้งการฉีดฟิลเลอร์และการผ่าตัดเสริมคาง ต่างก็เป็นวิธีที่จะช่วยเพิ่มความยาวคางเหมือนกัน เพียงแต่แต่ละวิธีก็จะมีข้อดี – ข้อเสียที่ต่างกันไป ทำให้เหมาะกับคนที่มีปัญหาหรือความต้องการแตกต่างกัน จึงบอกไม่ได้ค่ะว่าวิธีไหนจะดีกว่า แต่ก็สามารถเทียบความต่างกันได้ดังนี้

  • คนที่เหมาะสม: การฉีดคางจะไม่เหมาะกับคนที่มีคางสั้นมาก ๆ เพราะปกติเราจะฉีดคางไม่ให้ยาวออกมาเกิน 1 ซม. ไม่อย่างนั้นก็อาจจะทำให้คางดูเป็นก้อนและผิดรูป ดังนั้น ถ้าเป็นคนที่มีคางสั้นมาก ๆ หรืออยากเสริมคางให้ยาวมากกว่า 1 ซม. ก็จะเหมาะกับการผ่าตัดใส่ซิลิโคนที่สามารถกำหนดความยาวได้มากกว่า
  • วิธีการ: การฉีดคางจะใช้วิธีการฉีดฟิลเลอร์เข้าไปใต้เยื่อหุ้มกระดูก แต่การผ่าตัดเสริมคางจะเป็นการผ่าตัดเพื่อใส่ซิลิโคนเข้าไปใต้เยื่อหุ้มกระดูกบริเวณปลายคาง ดังนั้น การฉีดคางจะใช้เวลาทำหัตถการน้อยกว่า
  • ผลลัพธ์: ในปัจจุบันผลลัพธ์ที่ได้จากการฉีดคางกับการผ่าตัดเสริมคางแทบไม่ต่างกันเลยค่ะ แต่การฉีดคางจะให้ผลลัพธ์นานประมาณ 1 – 2 ปี ในขณะที่การใส่ซิลิโคนจะให้ผลลัพธ์ถาวร ข้อดีคือถ้าทำครั้งเดียวแล้วสวยก็จบเลย แต่ข้อเสียคือถ้าไม่ชอบผลลัพธ์แล้วต้องการแก้ไข ก็ต้องใช้วิธีการผ่าตัดอีกครั้งเพื่อเอาซิลิโคนออก แตกต่างจากฟิลเลอร์ที่สามารถใช้การฉีดสลายหรือปล่อยให้สลายไปเองได้
  • การพักฟื้น: การฉีดคางไม่ต้องใช้เวลาพักฟื้น แต่การผ่าตัดเสริมคางต้องใช้เวลาพักฟื้นประมาณ 7 – 10 วัน
  • ระยะเวลาเห็นผล: การฉีดคางจะเห็นผลทันที ในขณะที่การผ่าตัดเสริมคางจะต้องรอทรงคางเข้าที่ในประมาณ 1 – 3 เดือน ถึงจะเห็นผลลัพธ์ชัดเจน
  • ความเป็นธรรมชาติ: การฉีดคางจะให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติมากกว่า เมื่อฟิลเลอร์กลืนไปกับผิวพอจับแล้วจะรู้สึกได้ว่าคางนิ่ม ๆ ในขณะที่การใส่ซิลิโคนพอจับแล้วจะรู้สึกแข็ง ๆ ไม่ค่อยเป็นธรรมชาติ
  • ผลข้างเคียง: อาจมีอาการบวมช้ำเล็กน้อยหลังฉีดฟิลเลอร์คาง แต่จะไม่มีแผล ในขณะที่การผ่าตัดจะทำให้เกิดการบวมช้ำมากกว่า อาจทิ้งเป็นรอยแผลไว้ และต้องดูแลแผลดีมาก ๆ เพื่อป้องกันไม่ให้แผลอักเสบหรือติดเชื้อ นอกจากนี้ เมื่อเวลาผ่านไปนาน ๆ บางคนอาจเจอปัญหาซิลิโคนถ่วงจนทำให้คางห้อยย้อยเป็นคางแม่มด หรืออาจเสี่ยงต่อการเกิดคางทะลุได้

ขั้นตอนการฉีดฟิลเลอร์คาง

ผู้หญิงกำลังนอนรับการฉีดฟิลเลอร์คางจากผู้เชี่ยวชาญที่สวมถุงมือที่ KKC Clinic โดยมีผ้าคาดผมรองรับศีรษะของเธอ

ก่อนการฉีดฟิลเลอร์คาง คนไข้จะต้องเข้ารับคำปรึกษาจากแพทย์ก่อน เพื่อให้แพทย์ดูว่าต้องฉีดฟิลเลอร์ตรงจุดไหนและในปริมาณเท่าไหร่ จากนั้นจึงเข้าสู่ขั้นตอนการฉีด โดยจะเริ่มจากผู้ช่วยแพทย์ทำความสะอาดผิว แล้วจึงแปะยาชา จากนั้นแพทย์จึงจะทำการฉีดฟิลเลอร์ตามจุดต่าง ๆ ที่กำหนดไว้ ซึ่งจะมีการประคบเย็นไปด้วย หากไม่รวมระยะเวลาที่รอยาชาออกฤทธิ์ ก็จะใช้เวลาประมาณ 30 – 45 นาที ทั้งนี้ ผลลัพธ์หลังการฉีดจะสามารถเห็นได้ทันที หลังฉีดคนไข้สามารถกลับบ้านได้เลย และไม่ต้องใช้เวลาพักฟื้นค่ะ

ฉีดฟิลเลอร์คางอันตรายไหม

การฉีดฟิลเลอร์คางไม่อันตรายค่ะ หากฉีดด้วยฟิลเลอร์แท้ที่ผ่านการรับรองจากอย.และฉีดกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในคลินิกที่ผ่านการรับรองมาตรฐาน อย่างที่ KKC Clinic เพราะฟิลเลอร์แท้ที่เป็น HA จะสามารถสลายได้เอง 100% จึงไม่ทิ้งสารตกค้าง และหลังจากสลายไปแล้วก็สามารถกลับมาฉีดเพื่อเติมฟิลเลอร์คางเข้าไปใหม่ได้เรื่อย ๆ ค่ะ

หากฉีดคางกับแพทย์ที่ขาดความเชี่ยวชาญ ก็อาจจะฉีดในชั้นที่ตื้นเกินไปหรือใช้ปริมาณมากเกินไป ก็จะทำให้คางเป็นก้อน เบี้ยว ผิดรูป หรือยาวแหลมแบบคางแม่มดได้ นอกจากนี้ การฉีดฟิลเลอร์กับคลินิกที่ไม่ผ่านการรับรองมาตรฐาน อาจมีความสะอาดไม่เพียงพอ จนเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ค่ะ

การเตรียมตัวก่อนฉีดฟิลเลอร์คาง

วิธีการเตรียมตัวก่อนการฉีดฟิลเลอร์คางมีดังนี้ค่ะ

  • ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์คางโดยละเอียด โดยเฉพาะข้อมูลที่จะช่วยในการเลือกคลินิกฉีดฟิลเลอร์
  • เตรียมข้อมูลสุขภาพไปแจ้งกับแพทย์ เช่น โรคประจำตัว ยาที่แพ้ หรือยาที่กินเป็นประจำ
  • งดกินยาและวิตามินบางอย่าง เช่น แอสไพริน, NSAIDs, วิตามิน St. John’s Wort, Ginkgo Biloba และวิตามิน E
  • งดดื่มแอลกอฮอล์และงดทำกิจกรรมที่ทำให้เลือดสูบฉีดแรง
  • งดทายาหรือครีมผลัดเซลล์ผิวในบริเวณที่จะฉีด รวมถึงการถอนหรือโกนขนในบริเวณที่จะฉีด

หลังฉีดฟิลเลอร์คางควรทำอย่างไร?

ผู้หญิงผมสีแดงกำลังผ่อนคลายระหว่างการฉีดฟิลเลอร์คางที่ KKC Clinic โดยผู้เชี่ยวชาญกำลังประคบเย็นบริเวณคางของเธอ

นอกจากสิ่งที่ควรทำและไม่ควรทำแล้ว ก็ยังมีข้อห้ามหลังการฉีดฟิลเลอร์ (Filler) คางเล็กน้อย ซึ่งจะขอกล่าวรวมกันไว้ในหัวข้อนี้ค่ะ

  • งดจับ กด นวด แกะ เกา ในบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์
  • งดการทำอะไรที่จะทำให้คางถูกกดทับ เช่น เท้าคาง นอนคว่ำ นอนตะแคง ใส่หมวกกันน็อคที่รัดแน่น ๆ เพราะอาจทำให้ฟิลเลอร์เคลื่อนที่หรือผิดรูป
  • งดสูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ และออกกำลังกายหรือเล่นกีฬาหนัก ๆ 
  • งดกินอาหารดิบ อาหารหมักดอง อาหารรสจัด
  • งดทำหัตถการที่ใช้ความร้อน เช่น เลเซอร์กำจัดขน หรือ Thermage และ Ultherapy ประมาณ 1 เดือน
  • ควรอยู่ในที่เย็น ๆ หลีกเลี่ยงการโดนแดดหรืออยู่ในที่ที่มีอากาศร้อน ๆ เช่น ซาวน่า ออนเซ็น ร้านหมูกระทะ
  • ดื่มน้ำเยอะ ๆ และนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
  • กินยาและปฏิบัติตัวตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด รวมถึงรีบกลับมาพบแพทย์หากมีอาการผิดปกติเกิดขึ้น

ฉีดฟิลเลอร์คางต้องใช้กี่ cc?

ตามปกติแล้ว การฉีดฟิลเลอร์คาง 1 cc ก็เพียงพอที่จะเห็นความเปลี่ยนแปลงแล้วค่ะ เพราะเราจะไม่เติมคางให้ยาวออกมาเกิน 1 ซม. ทั้งนี้ ในคนไข้บางคนก็อาจจะต้องใช้ 2 cc หรือมากกว่านั้น ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของแพทย์ เพราะถ้าฉีดมากเกินไปก็จะทำให้เป็นก้อน แต่ถ้าน้อยเกินไปก็จะไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงค่ะ

ฉีดฟิลเลอร์คางอยู่ได้นานไหม?

การฉีดคางจะอยู่ได้ประมาณ 1 – 2 ปี ขึ้นอยู่กับยี่ห้อและรุ่นของฟิลเลอร์ เทคนิคการฉีดของแพทย์ รวมถึงการดูแลตัวเองหลังฉีดของคนไข้

ฉีดฟิลเลอร์คางราคาเท่าไหร่?

การฉีดฟิลเลอร์คาง (Chin Filler) ที่ KKC Clinic 1 cc มีราคาเริ่มต้นที่ 9,900 บาท โดยค่าใช้จ่ายทั้งหมดจะขึ้นอยู่กับปัจจัย เช่น ยี่ห้อและจำนวนของฟิลเลอร์ที่ใช้ ซึ่งจะทราบได้จากการประเมินของแพทย์ค่ะ

ฟิลเลอร์คางยี่ห้อไหนดี?

กล่องฟิลเลอร์หลายยี่ห้อรวมถึง Juvederm Voluma, Juvederm Volux, Restylane Lyft และ Belotero Intense วางอยู่บนโต๊ะหินอ่อนสีขาวที่ KKC Clinic

การฉีดฟิลเลอร์คางเป็นการฉีดเพื่อเสริมกระดูก จึงต้องใช้ฟิลเลอร์เนื้อแข็ง คงตัวสูง ไม่ฟู เพื่อให้ปั้นทรงได้สวยและอยู่ได้นาน โดยฟิลเลอร์ที่นิยมใช้ได้แก่

  • Juvederm Voluma: ฟิลเลอร์เนื้อแข็ง ฟูปานกลาง ยืดหยุ่นสูง อุ้มน้ำได้ดี อยู่ได้นาน 18 เดือน
  • Juvederm Volux: ฟิลเลอร์เนื้อแข็ง คงตัวสูง ขึ้นรูปง่าย ปั้นทรงสวย ช่วยปรับโครงสร้างหน้าได้ดีที่สุด อยู่ได้นาน 18 – 24 เดือน
  • Restylane Perlane Lyft: ฟิลเลอร์เนื้อแข็ง คงตัวสูง ไม่ฟู ฉีดเสริมทดแทนกระดูกได้ดีที่สุด อยู่ได้นาน 12 เดือน
  • Belotero Intense: ฟิลเลอร์เนื้อแข็ง ยืดหยุ่นสูง โดดเด่นด้านการแก้ปัญหาร่องลึกมาก ๆ อยู่ได้นาน 18 เดือน

ฉีดฟิลเลอร์คางที่ไหนดี?

การฉีดฟิลเลอร์คาง ควรฉีดกับคลินิกที่ใช้ฟิลเลอร์แท้ซึ่งสามารถเช็กได้ ฉีดโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มากประสบการณ์ และฉีดในคลินิกที่ผ่านการรับรองมาตรฐานอย่างที่ KKC Clinic เท่านั้น เพื่อให้ได้คางที่สวยถูกใจ เกิดผลข้างเคียงน้อย และไม่เกิดภาวะแทรกซ้อนที่เป็นอันตราย

คำถามที่พบบ่อย

ฉีดฟิลเลอร์คางดีไหม?

การฉีดฟิลเลอร์คางเป็นวิธีการเพิ่มความยาวคางและปรับรูปหน้าเรียวที่ดีค่ะ เพราะมีความปลอดภัยสูง และไม่ใช่การผ่าตัด จึงไม่ทิ้งรอยแผล ไม่ต้องใช้เวลาพักฟื้น อีกทั้งยังสามารถเห็นผลลัพธ์ได้ทันที

ฉีดฟิลเลอร์คางเจ็บไหม?

ขณะฉีดฟิลเลอร์คางอาจจะรู้สึกเจ็บเล็กน้อย แต่ก็จะมีการแปะยาชาและประคบเย็นเพื่อช่วยลดความเจ็บปวดให้ก่อน ทั้งนี้ ในฟิลเลอร์ทั้ง 4 รุ่นที่นิยมใช้สำหรับการฉีดคาง จะมีส่วนผสมของยาชาอยู่ด้วยค่ะ

ฉีดฟิลเลอร์คางแล้วหน้าจะเรียวลงไหม?

การฉีดฟิลเลอร์คางจะทำให้คางยาวขึ้น และปรับรูปหน้าให้เรียวลงค่ะ

ฉีดฟิลเลอร์คางแล้วรอยยิ้มจะแปลก ๆ ไหม?

การฉีดฟิลเลอร์ในปริมาณที่พอดีจะไม่ทำให้รอยยิ้มเปลี่ยนหรือดูแปลกไปค่ะ แต่ถ้าฉีดเสริมคางออกมายาวเกิน 1 ซม. ก็อาจจะทำให้เวลาพูดหรือยิ้มแล้วเห็นเป็นคางย้อยผิดรูปได้

หลังฉีดฟิลเลอร์คางจะบวมกี่วัน?

การฉีดฟิลเลอร์คางอาจทำให้มีอาการบวมเล็กน้อยในช่วงแรก ซึ่งจะหายไปเองใน 3 – 7 วัน

ฉีดฟิลเลอร์คางกี่วันเข้าที่?

ฉีดฟิลเลอร์คางแล้วจะเข้าที่ใน 7 – 14 วัน

ฉีดฟิลเลอร์คางแล้วนอนตะแคงได้ไหม?

หลังจากฉีดฟิลเลอร์คางแล้ว ยังไม่ควรนอนตะแคงค่ะ เพราะจะทำให้คางถูกกดทับและอาจเสียรูปทรงได้

หลังฉีดฟิลเลอร์คางมีข้อห้ามอะไรบ้าง?

หลัก ๆ แล้วก็จะห้ามเท้าคาง นอนคว่ำ นอนตะแคง หรือทำอะไรที่ทำให้คางถูกกดทับค่ะ ซึ่งรายละเอียดอื่น ๆ ได้กล่าวไว้แล้วในหัวข้อด้านบน

ผ่าตัดเสริมคางแล้วฉีดฟิลเลอร์ได้ไหม?

ถ้าผ่าตัดเสริมคางแล้วจะไม่แนะนำให้ฉีดฟิลเลอร์ซ้ำ เพราะมีโอกาสสูงที่จะเกิดอันตราย เช่น ฟิลเลอร์เข้ากระแสเลือด แนะนำให้ใช้วิธีผ่าตัดแก้ไขแทน

ฟิลเลอร์สามารถละลายได้หรือไม่?

ฟิลเลอร์สามารถละลายได้ค่ะ ถ้าได้รับความร้อนที่สูงมากพอ ซึ่งจะไม่ใช่ความร้อนที่เราพบเจอในชีวิตประจำวัน แต่หากฉีดฟิลเลอร์แล้วไปเจอความร้อนจากเครื่องยกกระชับ ก็จะเป็นการเร่งให้ฟิลเลอร์สลายไปไวขึ้นค่ะ

สรุปเรื่องฟิลเลอร์คาง

การฉีดฟิลเลอร์คางจะเป็นการฉีด HA เข้าไปที่คาง ซึ่งจะช่วยเสริมความยาวคางและปรับรูปหน้าให้เรียวได้โดยไม่ต้องผ่าตัด ทั้งนี้ การฉีดฟิลเลอร์คางเป็นวิธีที่มีความปลอดภัย ไม่ทิ้งรอยแผล ไม่ต้องใช้เวลาพักฟื้น จึงได้รับความนิยมในปัจจุบัน แต่การฉีดฟิลเลอร์คางต้องเลือกฉีดกับคลินิกที่ใช้ฟิลเลอร์แท้และฉีดโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้นนะคะ เพื่อป้องกันไม่ให้คางเป็นก้อนหรือผิดรูปค่ะ