การฉีดเมโสหน้าใสคืออะไร แล้วต้องฉีดกี่ครั้งถึงจะเห็นผล?

“อยากหน้าใสต้องฉีดอะไรดี?” และ “โปรแกรมฉีดให้หน้าใสมีอะไรบ้าง?” คำตอบคือ ที่ KKC Clinic เรามีโปรแกรมฉีดเมโสหน้าใสค่ะ ซึ่งการฉีดเมโสหน้าใส คือการฉีดตัวยาที่ประกอบด้วยสารสกัดจากธรรมชาติที่ช่วยในการบำรุงผิว เข้าไปในผิวชั้นกลางของเรา หรือก็คือผิวชั้นหนังแท้นั่นเองค่ะ โดยการฉีดเมโสหน้าใสจะช่วยให้ผิวขาวสว่างกระจ่างใส เพิ่มความชุ่มชื้น ลดฝ้า กระ จุดด่างดำ ความหมองคล้ำ และยังทำให้ผิวแข็งแรงขึ้นอีกด้วยนะคะ ถ้าอยากรู้เรื่องของเมโสหน้าใสมากกว่านี้ ก็สามารถมาอ่านกันได้ในบทความนี้เลยค่ะ
เมโสหน้าใสคืออะไร?
การฉีดหรือทำเมโสหน้าใส (Mesotherapy) คือ วิธีการบำรุงผิวโดยการนำสารต่าง ๆ ที่มีประโยชน์ เช่น สารอาหารที่จำเป็น วิตามิน และแร่ธาตุ มาผสมกันเป็นตัวยาแล้วฉีดเข้าสู่ผิวหนังชั้นกลางโดยตรงค่ะ จึงทำให้ผิวมีคุณภาพดีขึ้นได้อย่างรวดเร็ว แตกต่างจากการทาครีมที่อาจใช้เวลาหลายเดือนกว่าจะเห็นผล เพราะสารบางอย่างในครีมจะดูดซึมได้ยาก และยังเป็นการบำรุงผิวแต่เพียงชั้นนอก โดยหลังทำเมโสหน้าใสจะเริ่มเห็นผลได้ในไม่กี่วัน
ทั้งนี้ ‘เมโสหน้าใส’ เป็นเพียงการทำเมโสประเภทหนึ่ง ซึ่งในแต่ละคลินิกจะมีตัวยาสูตรที่ใช้ฉีดหรือทำเมโสแตกต่างกันไป จึงทำให้มีชื่อเรียกแตกต่างกันตามไปด้วยค่ะ โดยข้อดีของการทำเมโสหน้าใสคือ เป็นการบำรุงผิวหน้าที่ล้ำลึก ตรงจุด เห็นผลไว และมีความปลอดภัย เพราะตัวยาที่ใช้เป็นสารสกัดจากธรรมชาติ จึงไม่ระคายเคืองผิว อีกทั้งยังผ่านการรับรองจากอย.อีกด้วยนะคะ
คำว่า ‘เมโส’ มีที่มาจากอะไร?
‘เมโส’ มาจากคำว่า ‘Meso’ ซึ่งแปลว่า ‘ตรงกลาง’ ดังนั้น การฉีดหรือการทำเมโส จึงทำลงในผิวหนังชั้นกลาง หรือที่เรียกกันว่าชั้นหนังแท้ค่ะ โดยผิวของคนเราจะประกอบไปด้วยชั้นหนังกำพร้า (Epidermis) ซึ่งอยู่ด้านนอกสุด, ชั้นหนังแท้ (Dermis) ซึ่งอยู่ตรงกลาง และชั้นไขมันซึ่งอยู่ด้านในค่ะ
ผิวชั้นหนังแท้เป็นชั้นที่สำคัญ ประกอบไปด้วยคอลลาเจน อีลาสติน และเนื้อเยื่ออื่น ๆ ที่ช่วยให้ผิวมีความชุ่มชื้น ตึงกระชับ ยืดหยุ่น แข็งแรง และอ่อนเยาว์ แต่เมื่อเราอายุมากขึ้น นอกจากโครงสร้างของใบหน้าอย่างกระดูกที่จะทรุด เส้นเอ็นที่จะหย่อน ก็จะมีการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินนี่แหละค่ะที่จะลดลงตามไปด้วย ทำให้ผิวเสื่อมสภาพลงและเกิดเป็นปัญหาผิวต่าง ๆ ตามมา ไม่ว่าจะเป็นผิวแห้ง ผิวหมองคล้ำ หรือผิวเหี่ยวย่น จนทำให้เรามีหน้าโทรมและหน้าแก่ก่อนวัย
ดังนั้น สำหรับคำถามที่ว่า “ฉีดเมโสหน้าใสดีไหม?” ก็ต้องตอบว่าเป็นวิธีการบำรุงผิวที่ดีค่ะ เพราะเป็นการฉีดตัวยาซึ่งรวมสารที่มีประโยชน์เข้าไปบำรุงผิวในชั้นโครงสร้างโดยตรง ทำให้เห็นได้ผลลัพธ์ที่ดี รวดเร็ว และช่วยฟื้นบำรุงให้ผิวกลับมามีคุณภาพดีอีกครั้ง แต่ผลลัพธ์ที่ได้ก็จะขึ้นอยู่กับสภาพผิว ปัญหา และวิธีการดูแลตัวเองของแต่ละคนด้วยนะคะ
เมโสหน้าใสช่วยเรื่องอะไรบ้าง?
การฉีดเมโสหน้าใสจะช่วยในเรื่องหลัก ๆ ดังต่อไปนี้ค่ะ
- เสริมสร้างคอลลาเจน ช่วยให้ผิวชุ่มชื้น อิ่มฟู เต่งตึง ยืดหยุ่น และเรียบเนียน
- ลดการเกิดเม็ดสีเมลานิน ทำให้ฝ้า กระ กับจุดด่างดำจางลง และช่วยลดรอยสิว
- ลดการอักเสบของผิว ขับสารพิษที่ตกค้าง จึงช่วยลดการเกิดสิวและผดผื่นต่าง ๆ
- ช่วยให้ผิวหน้าขาวกระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติ ลดความหมองคล้ำ สีผิวสม่ำเสมอมากขึ้น
- ช่วยกระชับรูขุมขนที่กว้างให้เล็กลง
- ช่วยให้ผิวแข็งแรงขึ้น ลดอาการผิวแพ้ง่าย
- ช่วยฟื้นฟูเซลล์ผิว ชะลอความเสื่อมของคอลลาเจน จึงช่วยให้ผิวหน้าอ่อนเยาว์ ทำให้หน้าเด็กลง และแก่ช้าลง
เมโสหน้าใสเหมาะกับใคร?
การฉีดเมโสหน้าใสจะเหมาะกับคนในกลุ่มต่อไปนี้ค่ะ
- คนที่มีปัญหาผิวต่าง ๆ เช่น ผิวแห้ง ผิวขาดความยืดหยุ่น ผิวคล้ำเสียจากแสงแดด สีผิวไม่สม่ำเสมอ รูขุมขนกว้าง รวมถึงมีรอยสิว ฝ้า กระ และจุดด่างดำ
- คนที่มีผิวแพ้ง่าย ผิวไม่แข็งแรง ผิวสุขภาพไม่ดี
- คนที่ขี้เกียจทาครีม หรือยุ่งจนไม่มีเวลาทาครีม
- คนที่ต้องการปรับคุณภาพผิวให้ดีขึ้น แล้วเห็นผลลัพธ์อย่างรวดเร็ว
เมโสหน้าใสมีกี่แบบ?
เมโสหน้าใสจะแบ่งหลัก ๆ ออกเป็น 3 แบบดังนี้ค่ะ
- ช่วยให้ผิวขาวสว่างกระจ่างใส: จะมีส่วนผสมของสารต่าง ๆ ที่ทำให้ผิวขาวกระจ่างใสค่ะ เช่น วิตามินเอ (Vitamin A), วิตามินบี (Vitamin B), วิตามินซี (Vitamin C), วิตามินอี (Vitamin E), ทรานซามิน (Transamin), กลูตาไธโอน (Glutathione)
- ช่วยให้ผิวชุ่มชื้นและอิ่มฟู: จะมีส่วนผสมของคอลลาเจนและโคเอนไซม์ (Coenzyme) เป็นหลักค่ะ ช่วยให้ผิวชุ่มชื้น เต่งตึง อิ่มฟู และช่วยกระชับรูขุมขนค่ะ
- ช่วยลดสิวและแก้ผดผื่น: จะช่วยลดการอักเสบของผิว ขับสารพิษที่ตกค้างและสะสมอยู่บนผิว รวมถึงลดการทำงานของต่อมไขมัน จึงช่วยลดการเกิดสิวและผดผื่น รวมถึงรักษาสิวด้วยค่ะ โดยยี่ห้อที่โดดเด่นคือ มาเด้ คอลลาเจน (Made Collagen)
ฉีดเมโสหน้าใสตัวไหน / ยี่ห้อไหนดี?
เมโสหน้าใสนั้นมีให้เลือกหลากหลายสูตรกับยี่ห้อเลยค่ะ ดังนั้น ก่อนการฉีดเมโสหน้าใส คนไข้จึงควรมาพบแพทย์เพื่อให้แพทย์ช่วยเลือกสูตรที่เหมาะกับสภาพผิวและปัญหาให้นะคะ โดยยี่ห้อเมโสหน้าใสที่ KKC Clinic ก็จะมีดังนี้ค่ะ
- Made Collagen (มาเด้ คอลลาเจน): ช่วยลดสิวและผดผื่น ลดการอักเสบของผิว ขับสารพิษ บำรุงผิวให้แข็งแรงขึ้น เหมาะสำหรับคนที่มีผิวแพ้ง่าย
- Dipwhite: ช่วยลดฝ้า กระ จุดด่างดำ ทำให้ผิวหน้าขาวกระจ่างใส เหมาะสำหรับคนที่มีผิวคล้ำเสียจากแสงแดด
- Skin Miracle: ช่วยผลัดเซลล์ผิว ลดฝ้า กระ จุดด่างดำ ปรับสีผิวให้มีความสม่ำเสมอ เหมาะกับคนที่มีผิวหมองคล้ำ
- Melasma away / Melano block: เน้นลดฝ้าโดยเฉพาะ
- Rejuran: ช่วยให้ผิวขาวกระจ่างใส และฉ่ำวาว ช่วยซ่อมแซมผิวที่เสื่อมสภาพ กระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ ทำให้ผิวแข็งแรงและสุขภาพดี
- Rejuwhite: ตัวยาสูตรพิเศษของ KKC Clinic เน้นช่วยแก้ปัญหาผิวคล้ำเสียจากแสงแดด ช่วยให้ผิวสว่างกระจ่างใส ลดความหมองคล้ำ และมีสุขภาพดี
วิธีฉีดหรือทำเมโสหน้าใส
เทคนิคการทำเมโสหน้าใสจะมี 2 วิธีค่ะ คือแบบสะกิดกับแบบฉีด โดยจะต่างกันดังนี้ค่ะ
การสะกิดเมโสหน้าใส
คือวิธีการทำเมโสหน้าใสโดยใช้เข็มสะกิดเพื่อฉีดตัวยาเป็นจุดเล็ก ๆ กระจายอยู่ในผิวชั้นตื้นทั่วหน้า ซึ่งข้อดีของการใช้เข็มจิ้มทั่วหน้าคือ ตัวยาจะถูกดูดซึมได้ดี และเป็นการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนด้วย แต่ข้อเสียคือ อาจทำให้เกิดรอยช้ำหรือรอยแผลทั่วทั้งใบหน้า เกิดผื่นแดงจากรอยเข็ม และถ้าอุปกรณ์หรือสถานที่ที่ใช้ในการฉีดไม่สะอาดพอ ก็จะทำให้เกิดการอักเสบหรือติดเชื้อได้ง่าย จึงเป็นเทคนิคที่ไม่ได้รับความนิยมแล้วในปัจจุบันค่ะ
การฉีดเมโสหน้าใส
คือวิธีการฉีดเมโสหน้าใสจำนวน 16 จุดบนใบหน้า ตามจุดที่ใช้ฝังเข็ม โดยจะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของน้ำเหลือง และกระตุ้นการทำงานของระบบต่าง ๆ ที่ส่งผลต่อผิวหน้า ช่วยให้ผิวหน้าแข็งแรงและสุขภาพดี
เทคนิคการฉีดเมโสหน้าใส 16 จุดมีข้อดีคือ เจ็บน้อยกว่า มีรอยเข็มหรือรอยช้ำน้อยกว่า เป็นแผลน้อยกว่า ตัวยาออกฤทธิ์ได้ดีกว่าและยาวนานกว่า จึงเห็นผลดีกว่า และผลลัพธ์อยู่ได้นานกว่า นับว่าเป็นเทคนิคที่มีความปลอดภัยมากกว่า จึงได้รับความนิยมในปัจจุบัน
ต้องฉีดเมโสหน้าใสกี่ครั้งถึงจะเห็นผล?
การฉีดเมโสหน้าใสจะเห็นความเปลี่ยนแปลงได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ฉีดค่ะ โดยจะแนะนำให้ฉีดสัปดาห์ละ 1 ครั้งในเดือนแรก หลังจากนั้นให้ฉีดทุก ๆ 2 – 3 สัปดาห์ ต่อเนื่องกัน 4 – 6 ครั้งค่ะ เพื่อให้เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนและคงผลลัพธ์ของการรักษาไว้
เมโสหน้าใสอยู่ได้นานแค่ไหน?
หากฉีดเมโสหน้าใสอย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่อง ผลลัพธ์ก็จะอยู่ได้ประมาณ 1 – 2 เดือนค่ะ ทั้งนี้ คนไข้ควรดูแลตัวเองตามวิธีที่แนะนำ และไม่ทำพฤติกรรมที่เป็นการทำร้ายผิว เพื่อให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานที่สุดค่ะ
ฉีดเมโสหน้าใสอันตรายไหม?
การฉีดเมโสหน้าใสไม่อันตรายค่ะ เพราะสารที่นำมาทำตัวยาเมโสหน้าใสจะสกัดมาจากธรรมชาติ เป็นพวกสารอาหารและวิตามินต่าง ๆ ที่ช่วยในการบำรุงผิวหน้า เมื่อเวลาผ่านไปก็จะสลายไปเองทั้งหมด โดยไม่ทิ้งสารตกค้าง แต่เพื่อความปลอดภัย คนไข้ก็ต้องเช็กให้ดีก่อนค่ะว่า คลินิกที่จะไปฉีดเมโสหน้าใสด้วยนั้น ใช้ตัวยาของแท้ที่ผ่านการรับรองจากอย. ฉีดโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และอุปกรณ์กับสถานที่มีความสะอาดเพียงพอ
หากคนไข้สั่งซื้อเมโสหน้าใสจากอินเทอร์เน็ตมาฉีดเอง ฉีดกับหมอกระเป๋าที่รับฉีดตามบ้าน หรือฉีดในคลินิกเถื่อน ก็จะได้เป็นตัวยาปลอม อาจมีอาการแพ้เมโสหน้าใส หลังฉีดเมโสหน้าใสแล้วสิวหรือผื่นขึ้น ฉีดแล้วผิวหนังอักเสบหรือติดเชื้อ ทำให้เกิดเป็นอันตรายได้ค่ะ
หลังฉีดเมโสหน้าใสห้ามทำหรือกินอะไรบ้าง?
หลังฉีดเมโสหน้าใส จะไม่มีสิ่งที่ห้ามทำหรือห้ามกินเป็นพิเศษค่ะ แต่มีวิธีการดูแลตัวเองที่คนไข้ควรปฏิบัติตามดังนี้
- หลีกเลี่ยงการกดหรือนวดหน้าทันทีหลังฉีด เพราะตัวยาสามารถดูดซึมและแพร่กระจายได้เอง
- งดล้างหน้าประมาณ 4 – 6 ชม.แรก หลังล้างหน้าแล้วสามารถแต่งหน้าได้ตามปกติ
- งดทาครีมบริเวณที่มีรอยเข็ม หลังฉีดเมโสหน้าใส 1 คืน
- หลีกเลี่ยงการโดนแดดแรง ๆ ประมาณ 48 ชม.
- หากมีรอยแดงหรือรอยช้ำ สามารถประคบเย็นได้ตามคำแนะนำของแพทย์ หรืออยู่ในที่เย็น ๆ เพื่อช่วยให้อาการบวมลดลง
- ทาครีมบำรุงและครีมกันแดดที่มี SPF 50+ เป็นประจำ
- ดื่มน้ำมาก ๆ พักผ่อนให้เพียงพอ และกินอาหารที่มีประโยชน์
- หลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่ทำร้ายผิว เช่น ตากแดดจัด ๆ, ไม่ทาครีมกันแดด, กินของหวาน / ของทอด / ของมัน, สูบบุหรี่, ดื่มแอลกอฮอล์, นอนดึกเป็นประจำ, อดนอน หรือนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ
ฉีดหรือทำเมโสหน้าใสราคาเท่าไหร่?
ราคาฉีดหรือทำเมโส (Meso) หน้าใสที่ KKC Clinic จะเริ่มต้นที่ 2,999 บาทค่ะ โดยราคาจะแตกต่างกันไปตามสูตรหรือยี่ห้อของเมโสหน้าใสที่เลือกใช้นะคะ
คำถามที่พบบ่อย
ฉีดเมโสหน้าใสเจ็บไหม?
ตามปกติแล้ว การฉีดเมโสหน้าใสจะแทงเข็มลงไปแค่ประมาณ 5 – 10 มม. รวมถึงใช้ปริมาณยาไม่มาก และใช้เวลาฉีดไม่นาน จึงไม่ทำให้รู้สึกเจ็บมากค่ะ แต่อาจจะรู้สึกแสบร้อนได้เล็กน้อย ทั้งนี้ หากคนไข้กลัวเจ็บก็สามารถแปะยาชาหรือประคบเย็นได้ค่ะ
ฉีดเมโสหน้าใส หน้าจะบวมกี่วัน?
ในคนไข้บางคน หลังฉีดเมโสหน้าใสแล้วอาจมีอาการบวมจากเข็มที่จิ้มลงไป ซึ่งจะค่อย ๆ ยุบลงในไม่กี่ชั่วโมง และหายไปเองใน 1 – 3 วันค่ะ
ฉีดเมโสหน้าใส กี่วันเห็นผล?
การฉีดเมโสหน้าใสจะเริ่มเห็นผลใน 3 วันค่ะ โดยจะเห็นผลเต็มที่ใน 7 – 14 วัน
หลังฉีดเมโสหน้าใส รอยเข็มบนหน้าใช้เวลากี่วันหาย?
หลังฉีดเมโสหน้าใส อาจพบรอยเข็มฉีดยาบนหน้าได้เป็นปกติค่ะ ซึ่งจะหายไปเองใน 1 – 3 วัน
หลังฉีดเมโสหน้าใสจะล้างหน้าได้ไหม?
หลังฉีดเมโสหน้าใส ควรเว้นประมาณ 4 – 6 ชม. แล้วค่อยล้างหน้าค่ะ โดยแนะนำให้ล้างด้วยน้ำเปล่าอุณหภูมิปกติ หรือใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าอ่อน ๆ นะคะ
หลังฉีดเมโสหน้าใสจะแต่งหน้าได้ไหม?
หลังฉีดเมโสหน้าใส สามารถแต่งหน้าได้หลังจากล้างหน้า หรือหลังจากที่รูเข็มปิดสนิทแล้วค่ะ เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดอาการระคายเคือง หรือเกิดแผลอักเสบ – ติดเชื้อค่ะ
ฉีดเมโสหน้าใสที่ไหนดี?
หากคนไข้ท่านไหนสนใจที่จะฉีดเมโสหน้าใส (Mesotherapy) ก็แนะนำให้มาฉีดที่ KKC Clinic นะคะ เพราะเรามีตัวยาเมโสหน้าใสให้เลือกหลายสูตร หลายยี่ห้อ ช่วยให้แพทย์เลือกใช้ได้อย่างตอบโจทย์กับปัญหาและความต้องการของคนไข้ รวมถึงเราใช้แต่ตัวยาเมโสหน้าใสของแท้ที่ผ่านการรับรองจากอย. และนำเข้ามาอย่างถูกต้องโดยบริษัทยาค่ะ
KKC Clinic ยังเป็นคลินิกที่ทำการรักษาโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มากประสบการณ์ และคลินิกได้จัดตั้งอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ผ่านการรับรองมาตรฐาน เป็นคลินิกที่มีชื่อเสียง มีคนไข้ที่พึงพอใจมาใช้บริการจำนวนมาก เห็นได้จากรีวิวบน Google ที่มีคนไข้ให้คะแนน 5 ดาวมากกว่า 700 คน ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติค่ะ ดังนั้น ถ้าคนไข้สนใจจะฉีดเมโสหน้าใส ก็สามารถเข้ามารับคำปรึกษาจากแพทย์ของเราได้ในทุกสาขานะคะ