การฉีดโบท็อกซ์คอคืออะไร ช่วยลดริ้วรอยหรือแก้อาการปวดคอ / บ่า / ไหล่ได้ยังไง?

จริง ๆ แล้วหากพูดถึงคำว่า ‘โบท็อกซ์คอ’ ก็จะสามารถแบ่งความหมายได้เป็น 2 แบบ แบบแรกคือการฉีดโบท็อกซ์เพื่อลดริ้วรอยที่คอ รวมถึงแก้ไขปัญหาคอเหี่ยวย่นและหย่อนยาน ซึ่งเป็นสัญญาณของอายุที่เพิ่มมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และแบบที่ 2 คือการฉีดโบท็อกซ์คอ / บ่า / ไหล่ เพื่อแก้อาการปวดเมื่อย รวมถึงบรรเทาอาการของโรคออฟฟิศซินโดรม
ปัญหาคอเหี่ยวย่นและคอหย่อนยานเกิดจากอะไร?
ปัญหาคอเหี่ยวย่นและคอหย่อนยาน เกิดจากการที่ผิวหนังและกล้ามเนื้อบริเวณลำคอเสื่อมสภาพจากปัจจัยต่าง ๆ ทำให้ผิวหนังขาดความกระชับและยืดหยุ่น จนเกิดเป็นริ้วรอย รอยพับ และเส้นที่คอตามมา ซึ่งปัจจัยต่าง ๆ ที่กล่าวมานี้ก็มีตัวอย่างเช่น
- อายุที่เพิ่มมากขึ้น: เมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น ร่างกายจะผลิตคอลลาเจนและอีลาสตินได้น้อยลง ทำให้ผิวขาดความเต่งตึงและยืดหยุ่น จนเกิดเป็นปัญหาคอเหี่ยวย่นและคอหย่อนยาน
- ความเครียด: เวลาที่เรารู้สึกเครียด ร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอล หรือฮอร์โมนแห่งความเครียดออกมา ซึ่งจะทำให้เกิดสารอนุมูลอิสระที่ทำให้ผิวเสื่อมสภาพ ลำคอจึงเกิดเป็นรอยเหี่ยวย่นได้ง่าย
- น้ำหนักลดลงอย่างรวดเร็ว: การลดน้ำหนักมาก ๆ ในเวลาสั้น ๆ จะทำให้ไขมันบริเวณเหนียงและคอหายไปอย่างรวดเร็ว จนผิวหนังหดตัวตามไม่ทัน ทำให้คอเหี่ยวย่นและหย่อนยาน
- พฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม: การทำพฤติกรรมบางอย่างเป็นประจำจะเป็นการทำร้ายผิว หรือทำให้ผิวเสื่อมสภาพได้เร็วขึ้น เช่น การตากแดดจัด ๆ เพราะในแสงแดดมีรังสี UV, การสูบบุหรี่ เพราะในบุหรี่มีสารพิษหลายชนิด, การไม่ทาครีมบำรุงบริเวณลำคอ เพราะครีมจะช่วยบำรุงให้ผิวบริเวณลำคอชุ่มชื้น จึงส่งผลให้ลำคอมีริ้วรอย เกิดเป็นเส้น และมีความเหี่ยวย่นตามมา
- กิจวัตรประจำวันที่ส่งผลเสีย: หลายคนมีกิจวัตรประจำวันที่ส่งผลเสียต่อลำคอโดยไม่รู้ตัว เช่น การก้มหน้าอ่านหนังสือ, ก้มหน้าเล่นเกม, ก้มหน้าเล่นโทรศัพท์ทั้งวัน ทำให้คอถูกพับนาน ๆ จนเกิดเป็นรอยพับ และทำให้กล้ามเนื้อคอทำงานหนักจนมีอาการปวดเมื่อย ซึ่งอาจทำให้เกิดเป็นโรค ‘Text Neck Syndrome’ ตามมา
โบท็อกซ์คอ (Neck Botox) คืออะไร และมีหลักการทำงานยังไง?
โบท็อกซ์คอ (Neck Botox) คือการฉีดสารโบทูลินั่ม ท็อกซิน เอ (Botulinum Toxin Type A) เข้าไปที่บริเวณลำคอ และอาจฉีดในบริเวณอื่น ๆ ที่ใกล้เคียงร่วมด้วย โดยมีจุดประสงค์และหลักการทำงานดังนี้
การฉีดโบท็อกซ์เพื่อลดริ้วรอยและความเหี่ยวย่นบริเวณลำคอ
ที่จริงแล้วการลดเลือนริ้วรอยและรอยเหี่ยวย่นที่คอ จะเป็นหนึ่งในผลลัพธ์ที่ได้จากการฉีด ‘โบท็อกซ์ลิฟต์กรอบหน้า’ ค่ะ เพราะการฉีดโบท็อกซ์ลิฟต์กรอบหน้า จะมีเทคนิคการฉีดหนึ่งที่เรียกว่า Nefertiti Lift เป็นการฉีดโบท็อกซ์เข้าที่กล้ามเนื้อ Platysma ซึ่งอยู่บริเวณลำคอ ทำให้กล้ามเนื้อที่ดึงลงคลายตัว ส่งผลให้กล้ามเนื้อที่ดึงขึ้นมีแรงมากกว่า จึงช่วยดึงใบหน้าให้ยกกระชับขึ้น ทำให้เห็นกรอบหน้าชัดขึ้น และทำให้ผิวบริเวณลำคอดูเรียบเนียนขึ้น ช่วยลดริ้วรอย, รอยพับ, รอยย่น รวมถึงเส้นที่คอได้ดี
การฉีดโบท็อกซ์คอ / บ่า / ไหล่ แก้ออฟฟิศซินโดรม
การฉีดโบท็อกซ์คอ / บ่า / ไหล่ คือการฉีดโบท็อกซ์เข้าไปที่บริเวณคอ / บ่า / ไหล่ เพื่อช่วยลดอาการปวด, เมื่อย, ตึง และบรรเทาอาการของโรคออฟฟิศซินโดรม (Office Syndrome)
หลักการทำงานคือ เมื่อเราฉีดโบท็อกซ์เข้าไปที่กล้ามเนื้อบริเวณดังกล่าวมานี้ โบท็อกซ์จะออกฤทธิ์ทำให้กล้ามเนื้อคลายตัวลง อ่อนแรงลง และนิ่มลงชั่วคราว เมื่อกล้ามเนื้อไม่ถูกใช้งานและไม่หดเกร็งซ้ำ ๆ อาการปวดเมื่อยเรื้อรังและความรู้สึกตึง ๆ หนัก ๆ ก็จะเบาบางลงค่ะ รวมถึงช่วยลดการหลั่งสารที่ทำให้เกิดการหดตัวของกล้ามเนื้อ ดังนั้น การฉีดโบท็อกซ์คอ / บ่า / ไหล่ จึงช่วยบรรเทาอาการของโรคออฟฟิศซินโดรม ที่เกิดจากการใช้งานกล้ามเนื้อมัดเดิมซ้ำ ๆ นาน ๆ จนกล้ามเนื้อหดเกร็งผิดปกติได้ค่ะ
นอกจากนี้ การฉีดโบท็อกซ์คอ / บ่า / ไหล่ยังช่วยลดการเกิด Trigger Point คือจุดปวดในกล้ามเนื้อ ซึ่งเกิดจากการที่กล้ามเนื้อหดเกร็งติดต่อกันสะสมมาเป็นเวลานาน จนเกิดเป็นก้อนขนาดเล็ก โดยจะเป็นจุดที่กดแล้วรู้สึกเจ็บมากกว่าปกติ และยังอาจทำให้รู้สึกปวดร้าวไปยังบริเวณใกล้เคียง
ประโยชน์อีกข้อหนึ่งของการฉีดโบท็อกซ์คอ / บ่า / ไหล่ คือช่วยทำให้ลำคอดูเรียวยาวขึ้น หรือที่เรียกกันว่า ‘คอระหง’ และยังช่วยลดความกว้างของบ่า ทำให้บ่าดูเล็กลง ดูบางลง จึงเป็นการปรับเปลี่ยนรูปร่างและเสริมบุคลิกภาพให้คนไข้มีความมั่นใจมากขึ้นด้วย
การฉีดโบท็อกซ์คอ (Neck Botox) กับคอ / บ่า / ไหล่ ช่วยเรื่องอะไรบ้าง?
นอกจากจะมีการฉีดโบท็อกซ์ลดริ้วรอยและแก้ไขความเหี่ยวย่นที่คอแล้ว ยังมีการฉีดโบท็อกซ์ที่คอ / บ่า / ไหล่ เพื่อช่วยแก้อาการปวด, เมื่อย, ตึง, หนัก ซึ่งเป็นอาการของโรคออฟฟิศซินโดรมด้วย ทั้งนี้ หากฉีดโบท็อกซ์ในบริเวณนี้อย่างต่อเนื่องตามคำแนะนำของแพทย์ ก็จะช่วยบรรเทาอาการปวดเรื้อรัง หรืออาการปวดร้าวไปบริเวณอื่น, ช่วยปรับช่วงลำคอให้ดูเรียวยาวขึ้น, ปรับให้บ่าเล็กลง และปรับให้ทรงไหล่สวยขึ้น ซึ่งเป็นผลลัพธ์ในระยะยาวที่เกิดจากกล้ามเนื้อบริเวณบ่าและไหล่มีขนาดเล็กลงค่ะ รูปร่างก็จะดูเพรียวบางตามไปด้วย
ข้อดีของการฉีดโบท็อกซ์คอ / บ่า / ไหล่คือ เจ็บตัวน้อย, ขั้นตอนการรักษาไม่ยุ่งยาก, ใช้เวลาทำไม่นาน, หลังทำไม่มีแผล, ไม่ต้องพักฟื้น, ช่วยแก้อาการปวดได้อย่างตรงจุดและรวดเร็ว รวมถึงบรรเทาอาการของโรคออฟฟิศซินโดรมได้ดีกว่าวิธีการอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นการกินยาแก้ปวด การนวดกดจุด หรือการนวดแผนไทย ซึ่งทำได้เพียงบรรเทาอาการชั่วคราวเท่านั้น ทั้งนี้ โบท็อกซ์เป็นตัวยาที่สามารถสลายได้เอง 100% โดยไม่ทิ้งสารตกค้าง และผ่านการรับรองจากอย.แล้ว จึงเป็นตัวยาที่มีความปลอดภัยค่ะ แต่ก็ต้องฉีดด้วยโบท็อกซ์แท้ ฉีดกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และฉีดในคลินิกที่ผ่านการรับรองมาตรฐานเท่านั้นนะคะ
โบท็อกซ์คอเหมาะกับใคร?
การฉีดโบท็อกซ์คอเพื่อลดริ้วรอย จะเหมาะกับผู้ที่มีปัญหาริ้วรอยและรอยเหี่ยวย่นที่คอ ร่วมกับปัญหาใบหน้าหย่อนคล้อยค่ะ เพราะจะสามารถแก้ไขไปได้พร้อม ๆ กันด้วยการฉีดโบท็อกซ์ลิฟต์กรอบหน้า ทั้งนี้ หากเป็นการฉีดโบท็อกซ์คอ / บ่า / ไหล่ ก็จะเหมาะกับคนในกลุ่มต่อไปนี้ค่ะ
- คนที่มีอาการปวดเมื่อยบริเวณคอ / บ่า / ไหล่ หรือเป็นโรคออฟฟิศซินโดรม
- คนที่ไม่อยากกินยาแก้ปวดติดต่อกันนาน ๆ เพราะกังวลเรื่องค่าตับและค่าไต รวมถึงไม่อยากใช้วิธีการบรรเทาอาการปวดชั่วคราวอย่างการนวด
- คนที่ต้องนั่งทำงานหน้าคอมพิวเตอร์ในท่าเดิมทุกวัน จนเกิดเป็นอาการปวดสะสมแบบเรื้อรัง รวมถึงคนที่ชอบนั่งหลังค่อม เพราะโบท็อกซ์จะช่วยคลายกล้ามเนื้อไหล่ที่แข็งให้นิ่มลง จึงทำให้ไหล่ตั้งและหลังตรงขึ้น
- คนที่ออกกำลังกายหรือเล่นกีฬาหนัก ๆ จนเห็นกล้ามเนื้อชัด แล้วต้องการลดขนาดกล้ามเนื้อนี้
- คนที่คอสั้น, ช่วงบ่าใหญ่, ไหล่กว้าง แล้วอยากปรับเปลี่ยนลักษณะของคอ / บ่า / ไหล่ ให้มีขนาดเล็กลง และดูเพรียวบางมากขึ้น ซึ่งจะช่วยให้บุคลิกภาพดูดีขึ้นตามไปด้วย
ถ้ายังไม่แน่ใจว่าการฉีดโบท็อกซ์คอจะเหมาะกับคุณหรือไม่? คุณสามารถจองรับคำปรึกษากับเราฟรี เพื่อรับแผนการรักษาจากการประเมินของแพทย์ ที่ออกแบบมาเพื่อคุณโดยเฉพาะ
ขั้นตอนการฉีดโบท็อกซ์คอ
การฉีดโบท็อกซ์เพื่อลดริ้วรอยที่คอ และการฉีดโบท็อกซ์คอ / บ่า / ไหล่ จะแตกต่างกันในเรื่องตำแหน่งของกล้ามเนื้อที่ฉีดลงไป รวมถึงเทคนิควิธีที่แพทย์เลือกใช้ในการฉีด เพราะต้องการผลลัพธ์ภายหลังการรักษาที่ช่วยแก้ปัญหาแตกต่างกัน แต่นอกนั้นก็จะมีวิธีการเตรียมตัวก่อนฉีดโบท็อกซ์ รวมถึงขั้นตอนหลัก ๆ ของการฉีดที่เหมือนกันค่ะ
ขั้นตอนการฉีดโบท็อกซ์จะเริ่มจากการให้คนไข้เข้าพบแพทย์ค่ะ เพื่อให้แพทย์วิเคราะห์ปัญหาและออกแบบแผนการรักษาที่เหมาะกับคนไข้ เช่น ควรใช้โบท็อกซ์ยี่ห้อไหน, ในปริมาณเท่าไหร่, ฉีดลงในตำแหน่งใด จากนั้นก็จะเข้าสู่ขั้นตอนการฉีด คือผู้ช่วยแพทย์ทำความสะอาดผิวบริเวณที่จะฉีดโบท็อกซ์ แล้วแปะยาชา จากนั้นแพทย์ก็จะแกะกล่องโบท็อกซ์พร้อมผสมน้ำเกลือให้คนไข้ดู ใช้เข็มดูดตัวยาที่ผสมแล้วออกมาจนหมดขวด เมื่อยาชาออกฤทธิ์ ก็จะเริ่มฉีดโบท็อกซ์ตามจุดที่กำหนดไว้จนเสร็จทั้งหมดค่ะ
ภายหลังจากที่ฉีดโบท็อกซ์คอเสร็จแล้ว คนไข้ก็สามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติค่ะ โดยไม่ต้องพักฟื้น ทั้งนี้ อาจมีผลข้างเคียงที่พบได้ทั่วไปเกิดขึ้นบ้างนะคะ เช่น รอยเข็ม หรืออาการบวมแดงเล็กน้อย ซึ่งจะหายไปเองเมื่อเวลาผ่านไป
วิธีการดูแลตัวเองหลังฉีดโบท็อกซ์คอ
หลังการฉีดโบท็อกซ์คอ คนไข้ก็ควรดูแลตัวเองตามวิธีการดังต่อไปนี้ค่ะ
- งดนอนราบหรือนอนคว่ำอย่างน้อย 3 – 4 ชม. พยายามอย่าให้ศีรษะอยู่ต่ำกว่าอก
- งดการออกกำลังกายหนัก ๆ และการทำกิจกรรมในที่ที่มีอากาศร้อน ๆ อย่างน้อย 48 ชม.
- หลีกเลี่ยงการกินอาหารหมักดองและอาหารรสจัด ประมาณ 2 สัปดาห์
- งดการยิงเลเซอร์ประมาณ 2 สัปดาห์
- หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์
ทั้งนี้ หากเป็นการฉีดโบท็อกซ์คอ / บ่า / ไหล่ ก็จะมีวิธีการดูแลตัวเองเพิ่มเติมดังนี้ค่ะ
- ควรปรับเปลี่ยนท่านั่งหรือท่ายืนให้ถูกสุขลักษณะ รวมถึงเปลี่ยนอิริยาบถบ่อย ๆ ไม่นั่งท่าเดิมค้างไว้นานเกิน 1 ชม.
- หลีกเลี่ยงการก้ม ๆ เงย ๆ, การสะพายกระเป๋าหนัก, การสะพายกระเป๋าข้างเดียว หรือการยกของหนักเป็นประจำ
ผลข้างเคียงของการฉีดโบท็อกซ์คอ
การฉีดโบท็อกซ์คอเพื่อลดริ้วรอย และการฉีดโบท็อกซ์คอ / บ่า / ไหล่ อาจมีผลข้างเคียงเล็กน้อยที่พบได้ทั่วไปเป็นปกติ เช่น รอยเข็ม, รอยช้ำ, อาการบวมแดง ซึ่งจะหายได้เองเมื่อเวลาผ่านไปประมาณ 2 – 3 วันค่ะ
ทั้งนี้ การฉีดโบท็อกซ์คอ / บ่า / ไหล่ อาจทำให้คนไข้รู้สึกปวดเมื่อยในบริเวณที่ฉีดได้ ซึ่งอาการปวดเมื่อยนี้จะหายไปเองในประมาณ 2 – 3 วัน แต่ถ้าคนไข้รู้สึกว่ามีความผิดปกติใด ๆ เกิดขึ้น เช่น บริเวณที่ฉีดมีอาการบวมมาก ๆ ไม่ยอมหาย หรือบวมขึ้นเรื่อย ๆ ก็แนะนำให้คนไข้กลับไปพบแพทย์เพื่อทำการตรวจดูอาการและเข้ารับการรักษานะคะ
แม้ว่าการฉีดโบท็อกซ์จะมีความปลอดภัย แต่ก็อาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายได้ เพราะหากคนไข้ฉีดโบท็อกซ์ที่เป็นของปลอม ก็มีความเสี่ยงที่จะแพ้โบท็อกซ์, หากฉีดกับบุคคลที่ไม่ใช่แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ก็มีความเสี่ยงที่จะฉีดไปโดนกล้ามเนื้อผิดมัดหรือฉีดโบท็อกซ์ไปโดนเส้นประสาท, และหากฉีดในสถานที่ที่ไม่สะอาดเพียงพอ ก็มีความเสี่ยงที่จะเกิดการอักเสบ – ติดเชื้อ ดังนั้น คนไข้ต้องเลือกฉีดโบท็อกซ์คอกับคลินิกที่ใช้โบท็อกซ์แท้ ฉีดโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และสถานที่มีความสะอาดเพียงพอเท่านั้นนะคะ
โบท็อกซ์คออยู่ได้นานแค่ไหน?
การฉีดโบท็อกซ์เพื่อลดริ้วรอยที่คอจะอยู่ได้นานประมาณ 3 – 4 เดือนค่ะ แต่หากเป็นการฉีดโบท็อกซ์คอ / บ่า / ไหล่ จะอยู่ได้นานประมาณ 4 – 6 เดือน ทั้งนี้ หากคนไข้ดูแลตัวเองตามคำแนะนำ เช่น ปรับเปลี่ยนอิริยาบถบ่อย ๆ หรือลดการใช้งานกล้ามเนื้อนั้น ๆ ก็จะช่วยให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานขึ้นค่ะ
ผลลัพธ์ของการฉีดโบท็อกซ์คอ / บ่า / ไหล่ จะอยู่ไม่ถาวรค่ะ แนะนำให้คนไข้กลับมาฉีดซ้ำทุก ๆ 3 – 4 เดือนนะคะ แต่ก็ไม่ควรมาฉีดบ่อยจนเกินไป เพราะจะทำให้ดื้อโบท็อกซ์ได้ค่ะ ทั้งนี้ คนไข้ไม่ควรเว้นระยะในการฉีดเกิน 5 – 6 เดือนค่ะ เพราะถ้าเว้นระยะห่างนานแล้วกลับมาฉีดใหม่ ก็อาจจะทำให้ต้องฉีดโบท็อกซ์ในปริมาณที่มากขึ้น
โบท็อกซ์คอราคาเท่าไหร่?
การฉีดโบท็อกซ์ลิฟต์กรอบหน้าเพื่อช่วยลดริ้วรอยที่คอ จะมีราคาเริ่มต้นที่ 6,000 บาทค่ะ แต่หากเป็นการฉีดโบท็อกซ์คอ / บ่า / ไหล่ จะมีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 10,000 บาทค่ะ ซึ่งราคาจะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นยี่ห้อหรือปริมาณของโบท็อกซ์ที่ใช้ โดยคนไข้จะทราบจำนวนค่าใช้จ่ายทั้งหมดได้จากการประเมินของแพทย์นะคะ
โปรแกรมการรักษาอื่น ๆ
นอกจากการฉีดโบท็อกซ์คอแล้ว ที่ KKC Clinic ก็ยังมีโปรแกรมการรักษาอื่น ๆ ที่จะช่วยลดริ้วรอยและแก้ปัญหาคอเหี่ยวย่นได้ค่ะ เช่น ฟิลเลอร์ (Filler), Thermage, Ultherapy หรือ Ultherapy Prime, HIFU
คำถามที่พบบ่อย
Botulinum Toxin Type A คืออะไร?
Botulinum Toxin Type A คือสารสกัดจากแบคทีเรียที่มีชื่อว่า คลอสตริเดียม โบทูลินั่ม (Clostridium Botulinum) ซึ่งจะออกฤทธิ์ต่อระบบประสาท ทำให้การทำงานของกล้ามเนื้อลดลงชั่วคราว จึงมีการนำมาใช้ในทางการแพทย์และการเสริมความงาม
การฉีดโบท็อกซ์ช่วยลดความหย่อนคล้อยที่คอได้หรือไม่?
นอกจากจะช่วยลดริ้วรอยที่คอแล้ว การฉีดโบท็อกซ์ยังช่วยลดความหย่อนคล้อยของคอได้ด้วยค่ะ
การฉีดโบท็อกซ์ทำให้คอเรียวยาวขึ้นหรือไม่?
การฉีดโบท็อกซ์คอ / บ่า / ไหล่ จะช่วยทำให้ลำคอดูเรียวยาวขึ้นค่ะ
การฉีดโบท็อกซ์ลดริ้วรอยที่คอใช้กี่ยูนิต?
การฉีดโบท็อกซ์ลดริ้วรอยที่คอจะใช้ประมาณ 20 – 50 ยูนิตค่ะ
การฉีดโบท็อกซ์คอ / บ่า / ไหล่ใช้กี่ยูนิต?
การฉีดโบท็อกซ์คอ / บ่า / ไหล่ จะเริ่มต้นที่ 50 – 100 ยูนิตค่ะ
หลังฉีดโบท็อกซ์คอควรจัดท่านอนยังไง?
งดนอนราบหรือนอนคว่ำภายหลังการฉีด ใน 3 – 4 ชม.แรกเป็นอย่างน้อยค่ะ
การฉีดโบท็อกซ์คอมีผลข้างเคียงหรือไม่?
การฉีดโบท็อกซ์คออาจทำให้เกิดอาการบวมแดงหรือรอยช้ำเล็กน้อย ซึ่งจะหายไปเองใน 2 – 3 วันค่ะ
ควรฉีดโบท็อกซ์คอบ่อยแค่ไหน?
การฉีดโบท็อกซ์คอควรทำซ้ำในทุก ๆ 3 – 4 เดือนค่ะ
ฉีดโบท็อกซ์คอที่ไหนดี?
หากคนไข้สนใจจะฉีดโบท็อกซ์คอ ก็ขอแนะนำให้มาฉีดที่ KKC Clinic ด้วยเหตุผลดังต่อไปนี้ค่ะ
- ทีมแพทย์ของเรามีความเชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ในการฉีดโบท็อกซ์ สามารถคำนวณปริมาณโบท็อกซ์ที่ต้องใช้ได้อย่างเหมาะสม และฉีดลงไปในตำแหน่งที่กำหนดไว้ได้อย่างแม่นยำ ทำให้ได้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติและอยู่ได้นาน
- KKC Clinic เลือกใช้แต่โบท็อกซ์ของแท้ที่ผ่านการรับรองมาตรฐาน และนำเข้าอย่างถูกต้อง คนไข้จึงสามารถมั่นใจได้ในเรื่องของคุณภาพและความปลอดภัย
- ทีมแพทย์ของเราจะออกแบบแผนการรักษาที่เหมาะสมกับคนไข้แต่ละคนโดยเฉพาะ เพราะเราเข้าใจว่าคนไข้ทุกคนมีปัญหาและความต้องการที่แตกต่างกัน
- ที่ KKC Clinic เรามีรีวิวการฉีดโบท็อกซ์จากคนไข้ผู้มาใช้บริการจริง ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ โดยได้รับคะแนน 5 ดาวจากคนไข้มากกว่า 800 คน ที่พึงพอใจในผลลัพธ์และการดูแลของเรา
- เรามีคลินิกกระจายอยู่ในกรุงเทพฯหลายสาขา ซึ่งตั้งอยู่ในตำแหน่งที่ง่ายต่อการเดินทาง ไม่ว่าจะเป็นด้วยรถส่วนตัวหรือขนส่งสาธารณะ
สามารถทำนัดหมายเพื่อรับคำปรึกษาในการฉีดโบท็อกซ์คอกับทีมแพทย์ของเราได้ตั้งแต่วันนี้ ฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่าย แล้วมาลดริ้วรอยพร้อมแก้ไขความเหี่ยวย่นของลำคอ หรือบรรเทาอาการออฟฟิศซินโดรมกับเรานะคะ