การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาช่วยแก้ปัญหาตาลึกโหลและใต้ตาดำคล้ำ

ผู้หญิงผิวเรียบเนียนสวยกำลังโพสต์ท่าอย่างมั่นใจ มีภาพเล็กแทรกที่แสดงให้เห็นแพทย์กำลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาให้กับผู้หญิงอีกคนที่ KKC Clinic

ใต้ตาคล้ำ ตาลึก ตาโหล ตาโบ๋ ถุงใต้ตา ไม่น่าเชื่อเลยนะคะว่า สารพัดปัญหาที่ทำให้ทั้งหน้าโทรม หน้าดูมีอายุ และหน้าแก่ก่อนวัยนี้ จะสามารถแก้ไขได้โดยไม่ต้องผ่าตัด แต่ใช้การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแทนค่ะ ซึ่งปัญหาที่กล่าวมานี้ อาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นกรรมพันธุ์ อายุที่เพิ่มมากขึ้น ภูมิแพ้ หรือพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันของเรา ซึ่งการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาจะช่วยลดความดำคล้ำ ลดเลือนริ้วรอยและร่องใต้ตา ยกกระชับและเติมใต้ตาให้ดูเต็มขึ้น จึงช่วยแก้ปัญหาถุงใต้ตาได้ด้วยค่ะ ถ้าอยากรู้แล้วว่า “ฟิลเลอร์ใต้ตาตัวไหนดี?” “ฟิลเลอร์ใต้ตาอยู่ได้นานแค่ไหน?” หรือ “ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาราคาประมาณกี่บาท?” ก็ต้องรีบมาอ่านบทความนี้แล้วนะคะ

ผลลัพธ์ที่ได้อาจขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล

ฟิลเลอร์ใต้ตาคืออะไร?

การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา (Under-Eye Filler) คือการฉีดสารเติมเต็มประเภทกรดไฮยาลูรอนิก (Hyaluronic Acid – HA) เข้าไปบริเวณใต้ดวงตาค่ะ เพื่อเติมหรือเสริมใต้ตาที่ลึกโหลให้เต็มขึ้น ซึ่งการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาจะช่วยรักษาปัญหาใต้ตาได้อย่างหลากหลาย ตรงจุด และเห็นผลไว ช่วยให้ใต้ตากลับมาสดใสขึ้นได้ทันที และมีความปลอดภัยสูง จึงได้รับความนิยมมากในปัจจุบันค่ะ

นอกจากนี้ ฟิลเลอร์ใต้ตายังมีข้อดีคือ ไม่ใช่การผ่าตัด จึงไม่ต้องดมยาสลบ ใช้เวลารักษาน้อยกว่า เจ็บน้อยกว่า ไม่ทิ้งรอยแผลเป็น หลังทำไม่ต้องพักฟื้น และเห็นผลลัพธ์ได้ทันที จึงเหมาะสำหรับคนที่ต้องการใช้ใบหน้าเลยหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเสร็จค่ะ ทั้งนี้ ฟิลเลอร์จะสามารถสลายได้เอง 100% ไม่ทิ้งสารตกค้าง หรือหากต้องการแก้ไข ก็สามารถฉีดสาร Hyaluronidase สลายได้ จึงมีความปลอดภัยมาก และเมื่อฟิลเลอร์สลายแล้ว ก็สามารถกลับมาเติมใหม่ได้เรื่อย ๆ โดยไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกายค่ะ

ฟิลเลอร์ใต้ตาช่วยเรื่องอะไร?

เมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น กระดูกเบ้าตาของเราก็จะทรุดก่อนส่วนอื่นค่ะ ทำให้ตาทั้งลึกและโหล จนทำให้หน้าดูแก่ ดูโทรม ดังนั้น ในคนไข้ที่เริ่มมีอายุ ก็จะแนะนำให้ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นอันดับแรกค่ะ โดยการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาจะช่วยในเรื่องต่าง ๆ ดังต่อไปนี้

  • เติมใต้ตาให้เต็มและตื้นขึ้น แก้ปัญหาตาลึก ตาโหล ตาโบ๋ และร่องน้ำตาลึก
  • ลดเลือนริ้วรอยและร่องใต้ตา ทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์
  • ลดความดำคล้ำของขอบตาและใต้ตา ทำให้ใต้ตาดูสว่างและสดใสขึ้น
  • ยกกระชับถุงใต้ตาและผิวใต้ตาที่หย่อนคล้อย
  • กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ช่วยให้ผิวบริเวณใต้ตาชุ่มชื้น เต่งตึง ยืดหยุ่น และเรียบเนียนสม่ำเสมอ ชะลอการเกิดริ้วรอยต่าง ๆ ในอนาคต

ฟิลเลอร์ใต้ตาเหมาะกับใคร?

การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาจะไม่เหมาะกับคนที่มีปัญหาถุงใต้ตาเทียม รวมถึงคนบางกลุ่มค่ะ เช่น คุณแม่ที่อยู่ในระหว่างการตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร, ผู้ที่แพ้ HA หรือยาชา, ผู้ที่มีผื่นแพ้ผิวหนังหรือผิวหนังบริเวณใต้ตาติดเชื้อค่ะ โดยฟิลเลอร์ใต้ตาจะเหมาะกับคนในกลุ่มต่อไปนี้

  • คนที่มีปัญหาใต้ตาต่าง ๆ เช่น ตาลึก ตาโหล ตาโบ๋
  • คนที่มีริ้วรอยและร่องใต้ตา
  • คนที่มีขอบตาดำและใต้ตาคล้ำ
  • คนที่มีปัญหาถุงใต้ตาแท้ มีผิวใต้ตาหย่อนคล้อย เหี่ยวย่น
  • คนที่อยากแก้ปัญหาใต้ตาต่าง ๆ โดยไม่ต้องผ่าตัด หรือเป็นคนที่ไม่เหมาะกับการผ่าตัด
  • คนที่ต้องการผลลัพธ์หลังการรักษาที่รวดเร็ว ต้องการใช้ใบหน้าทันที ไม่อยากเจ็บตัวเยอะ และไม่ต้องการพักฟื้น

ขั้นตอนการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

ผู้หญิงกำลังนอนสวมหมวกป้องกัน และได้รับการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาจากแพทย์ที่สวมถุงมือที่ KKC Clinic

ก่อนฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา คนไข้ก็จะต้องเข้าพบแพทย์เพื่อรับคำปรึกษาก่อนค่ะ เพื่อให้แพทย์ทราบว่าคนไข้กังวลใจเรื่องอะไร และเพื่อให้แพทย์วิเคราะห์โครงสร้างใบหน้ากับปัญหาที่คนไข้มี เมื่อแพทย์ทราบถึงปัญหาของคนไข้ ก็จะสามารถเลือกวิธีการรักษาซึ่งช่วยแก้ไขปัญหาที่สาเหตุ และเลือกรุ่นกับยี่ห้อของฟิลเลอร์ที่ต้องใช้ รวมถึงคำนวณปริมาณของฟิลเลอร์ที่ต้องใช้ได้อย่างเหมาะสมค่ะ

จากนั้นก็จะเข้าสู่ขั้นตอนการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาค่ะ เริ่มจากผู้ช่วยแพทย์ทำความสะอาดผิวและแปะยาชา เมื่อเสร็จแล้วแพทย์ก็จะแกะกล่องฟิลเลอร์ที่ใช้ให้คนไข้ดูค่ะ เพื่อให้คนไข้มั่นใจว่าฟิลเลอร์ที่ใช้เป็นฟิลเลอร์ของแท้ ผ่านการรับรองจากอย. และสามารถตรวจสอบได้ เมื่อยาชาออกฤทธิ์ ก็จะเริ่มฉีดฟิลเลอร์ได้ค่ะ ซึ่งระหว่างฉีดจะมีการประคบเย็นเพื่อลดความเจ็บปวดไปด้วยนะคะ

การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาจะแบ่งเป็นเทคนิคการฉีดชั้นลึกกับชั้นตื้น ซึ่งเทคนิคการฉีดชั้นลึกจะเป็นการฉีดเพื่อเสริมกระดูกที่ทรุด พยุงเส้นเอ็นที่หย่อน และเติมไขมันใต้ตาชั้นลึกค่ะ ในขณะที่การฉีดชั้นตื้นจะเป็นการฉีดเพื่อเก็บรายละเอียดเล็ก ๆ ที่ผิวชั้นบนค่ะ ทั้งนี้ หากเป็นคนไข้ที่มีโครงสร้างใบหน้าแข็งแรงดีอยู่แล้ว ก็อาจจะฉีดแค่ในชั้นตื้นพอค่ะ ซึ่งระยะเวลาที่ใช้จะอยู่ที่ประมาณ 20 – 40 นาทีค่ะ ขึ้นอยู่กับจำนวนจุดที่จะฉีด เทคนิค และปริมาณฟิลเลอร์ที่ใช้ค่ะ

การเตรียมตัวก่อนฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

วิธีการเตรียมตัวก่อนฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาก็จะมีดังนี้ค่ะ

  • ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาโดยละเอียด โดยเฉพาะข้อมูลที่จะช่วยในการเลือกคลินิกฉีดฟิลเลอร์
  • เตรียมข้อมูลสุขภาพไปแจ้งกับแพทย์ เช่น โรคประจำตัว ยาที่แพ้ หรือยาที่กินเป็นประจำ
  • งดกินยาและวิตามินบางอย่าง เช่น แอสไพริน, NSAIDs, วิตามิน St. John’s Wort, Ginkgo Biloba และวิตามิน E
  • งดดื่มแอลกอฮอล์และงดทำกิจกรรมที่ทำให้เลือดสูบฉีดแรง
  • งดทายาหรือครีมผลัดเซลล์ผิวในบริเวณที่จะฉีด

ข้อปฏิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์ (Filler) ใต้ตา

วิธีการดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ (Filler) ใต้ตา ก็จะมีดังนี้ค่ะ

  • งดจับ กด นวด แกะ เกา ในบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ 
  • หลีกเลี่ยงการแต่งหน้าใน 24 ชม.แรก
  • งดสูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ และออกกำลังกายหรือเล่นกีฬาหนัก ๆ 
  • งดกินอาหารดิบ อาหารหมักดอง อาหารรสจัด และอาหารที่ต้องอยู่หน้าเตาร้อน ๆ
  • งดทำหัตถการที่ใช้ความร้อน เช่น Thermage และ Ultherapy ประมาณ 1 เดือน
  • ควรอยู่ในที่เย็น ๆ หลีกเลี่ยงการโดนแดดหรืออยู่ในที่ที่มีอากาศร้อน ๆ เช่น ซาวน่า ออนเซ็น ร้านหมูกระทะ
  • ดื่มน้ำเยอะ ๆ อย่างน้อยวันละ 1.5 – 2 ลิตร
  • นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ โดยแนะนำให้นอนหมอนสูง ให้ศีรษะอยู่สูงกว่าหน้าอก และไม่ควรนอนตะแคงในช่วงแรก
  • กินยาและปฏิบัติตัวตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด รวมถึงรีบกลับมาพบแพทย์หากมีอาการผิดปกติเกิดขึ้น เช่น ใต้ตาปวด บวม แดงมาก ๆ หรือมีอาการคัน มีผื่นแดง

ฟิลเลอร์ใต้ตาอยู่ได้นานไหม หรืออยู่ได้กี่เดือน?

ผู้หญิงยิ้มใส่ที่คาดผมและผ้ากันเปื้อน KKC Clinic นั่งอยู่บนเก้าอี้ทรีตเมนต์ โดยมี พญ.ของขวัญ ฟูจิตนิรันดร์ ยืนอยู่ข้างๆ ในชุดเสื้อกาวน์สีขาว ยิ้มให้ที่ KKC Clinic

การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาจะอยู่ได้ประมาณ 6 – 18 เดือนค่ะ ขึ้นอยู่กับปริมาณและยี่ห้อกับรุ่นของฟิลเลอร์ที่ใช้ เทคนิคการฉีดของแพทย์ รวมถึงการดูแลตัวเองของคนไข้

การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาอันตรายไหม?

การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาไม่อันตรายค่ะ แต่อาจมีอาการหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่เกิดขึ้นได้เป็นปกติ เช่น อาการบวมหรือรอยเขียวช้ำ ซึ่งจะหายได้เองใน 7 – 14 วันค่ะ

ทั้งนี้ ใต้ตาเป็นบริเวณที่ผิวบาง และอยู่ใกล้กับอวัยวะที่สำคัญอย่างดวงตา ดังนั้น การเลือกแพทย์และคลินิกที่จะฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาด้วยจึงมีความสำคัญมาก ๆ ค่ะ เพื่อความปลอดภัย ก่อนฉีดก็จะต้องมั่นใจว่าคลินิกนั้นใช้ฟิลเลอร์แท้ และฉีดโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น เพื่อป้องกันไม่ให้ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้วเป็นก้อน หรือใช้ฟิลเลอร์ปลอมมาฉีดแล้วทำให้ตาบอดค่ะ

ฟิลเลอร์ (Filler) ใต้ตายี่ห้อไหนดี?

ยี่ห้อของฟิลเลอร์ใต้ตาที่ KKC Clinic เลือกใช้ ก็จะมี Juvederm, Restylane และ Belotero ค่ะ โดยจะใช้ทั้งฟิลเลอร์เนื้อละเอียดในการฉีดชั้นตื้น และฟิลเลอร์ที่มีความคงตัวสูงเพื่อฉีดเสริมกระดูกในชั้นลึก ซึ่งรุ่นที่ได้รับความนิยมก็จะมีดังนี้ค่ะ

กล่องผลิตภัณฑ์ Juvederm จัดวางบนโต๊ะหินอ่อน ประกอบด้วย Volux, Volbella, Volift, Voluma และ Volite ที่ KKC Clinic
  • Juvederm Volux: ฟิลเลอร์เนื้อแข็ง คงตัวสูง ใช้ฉีดเพื่อเสริมกระดูกในชั้นลึก อยู่ได้นาน 18 – 24 เดือน
  • Juvederm Voluma: ฟิลเลอร์เนื้อแข็ง ฟูปานกลาง ยืดหยุ่นสูง อุ้มน้ำได้ดี ให้ความเป็นธรรมชาติ อยู่ได้นาน 18 เดือน
  • Juvederm Volift: ฟิลเลอร์เนื้อนิ่มปานกลาง ละเอียด ฉีดแล้วเรียบเนียน ให้ความเป็นธรรมชาติ อยู่ได้นาน 12 เดือน
  • Juvederm Volbella: ฟิลเลอร์เนื้อนิ่มและละเอียด ให้ผลลัพธ์ที่เรียบเนียนและเป็นธรรมชาติ อยู่ได้นาน 12 เดือน
  • Juvederm Volite: ฟิลเลอร์เนื้อละเอียด ใช้ฉีดเพื่อเติมเต็มในชั้นตื้น เหมาะสำหรับคนผิวบางแต่ไม่มาก อยู่ได้นาน 8 – 12 เดือน
กล่องผลิตภัณฑ์ Restylane สามกล่องวางซ้อนกันบนโต๊ะหินอ่อน ประกอบด้วย Restylane Lidocaine, Restylane Skinboosters Vital Light Lidocaine และ Restylane Lyft Lidocaine ที่ KKC Clinic
  • Restylane Vital Light: ฟิลเลอร์เนื้อละเอียดมากที่สุด ใช้เก็บรายละเอียดในผิวชั้นตื้น เหมาะสำหรับคนผิวบาง และนิยมใช้ฉีดใต้ตาโดยเฉพาะ อยู่ได้นาน 6 – 12 เดือน
  • Restylane Classic ฟิลเลอร์เนื้อแข็ง ใช้เก็บรายละเอียดในผิวชั้นลึก เหมาะสำหรับคนผิวบาง อยู่ได้นาน 12 เดือน
  • Restylane Perlane Lyft: ฟิลเลอร์เนื้อแข็ง ไม่ฟู แต่มีความคงตัวสูง สามารถคงรูปได้ดีที่สุด อยู่ได้นาน 12 เดือน
  • Restylane Volyme: ฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม เหมาะสำหรับการฉีดเพื่อเติมเต็ม อยู่ได้นาน 18 เดือน
กล่องผลิตภัณฑ์ Belotero วางซ้อนกันบนโต๊ะหินอ่อน ประกอบด้วย Belotero Balance, Belotero Revive และ Belotero Volume Lidocaine ที่ KKC Clinic
  • Belotero Soft: ฟิลเลอร์เนื้อละเอียด ใช้เก็บรายละเอียดในผิวชั้นตื้น เหมาะสำหรับการฉีดใต้ตาโดยเฉพาะ อยู่ได้นาน 6 – 12 เดือน 
  • Belotero Volume: ฟิลเลอร์เนื้อแข็ง มีความยืดหยุ่นและคงตัว ใช้ฉีดเพื่อเสริมกระดูกในชั้นลึก อยู่ได้นาน 18 เดือน
  • Belotero Revive: ฟิลเลอร์เนื้อละเอียด มีกลีเซอรอล (Glycerol) ช่วยเรื่องความชุ่มชื้น เหมาะสำหรับการฉีดใต้ตาและฉีดเพื่อปรับสภาพผิวให้ดีขึ้น อยู่ได้นาน 6 – 9 เดือน

การฉีดฟิลเลอร์ (Filler) ใต้ตาราคาเท่าไหร่?

ราคาฉีดฟิลเลอร์ (Filler) ยี่ห้อ Juvederm, Restylane, Belotero บริเวณใต้ตาที่ KKC Clinic เริ่มต้นที่ 15,000 บาทค่ะ โดยราคาทั้งหมดจะขึ้นอยู่กับปัจจัย เช่น รุ่น ยี่ห้อ และปริมาณของฟิลเลอร์ที่ใช้ ซึ่งจะทราบได้จากการประเมินของแพทย์นะคะ

คำถามที่พบบ่อย

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเจ็บไหม?

เนื่องจากใต้ตาเป็นบริเวณที่มีผิวบาง การฉีดฟิลเลอร์เข้าไปที่ใต้ตาจึงอาจทำให้รู้สึกตึง ๆ หน่วง ๆ หรือเจ็บบ้างเล็กน้อยค่ะ แต่ก็จะมีการแปะยาชาและประคบเย็นเพื่อช่วยลดความเจ็บปวดให้กับคนไข้นะคะ ทั้งนี้ ในฟิลเลอร์บางรุ่นก็จะมียาชาเป็นส่วนประกอบด้วยค่ะ

ฉีดฟิลเลอร์ (Filler) ใต้ตาบวมกี่วัน?

โดยทั่วไป หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้วจะบวมประมาณ 3 – 7 วันค่ะ โดยอาการบวมนี้จะค่อย ๆ ดีขึ้นและหายไปเองใน 7 – 14 วัน

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตากี่วันถึงจะเห็นผลและกี่วันเข้าที่?

หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้วจะเห็นผลทันทีค่ะ โดยจะเห็นผลเต็มที่หลังอาการบวมยุบลง และฟิลเลอร์เข้าที่แล้ว ใน 1 – 2 สัปดาห์ค่ะ

ฉีดฟิลเลอร์ (Filler) ใต้ตาใช้กี่ cc?

ส่วนใหญ่แล้ว การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาจะใช้ที่ข้างละประมาณ 1 – 2 cc ค่ะ แต่ถ้าแพทย์วิเคราะห์แล้วว่าคนไข้มีปัญหา เช่น ใต้ตาลึกมาก ๆ ก็อาจจะต้องใช้ข้างละประมาณ 2 – 3 cc ค่ะ

หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตามีข้อห้ามอะไรบ้าง?

หลัก ๆ แล้วข้อห้ามหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ก็จะเป็นการงดจับ กด นวด แกะ เกา ในบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์เข้าไปค่ะ เพราะอาจทำให้เกิดอาการบวมมากขึ้นหรือติดเชื้อได้ค่ะ

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้วจะทำให้ตาบอดไหม?

การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาไม่ทำให้ตาบอดค่ะ หากฉีดด้วยฟิลเลอร์แท้ และฉีดกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่สามารถฉีดด้วยความละเอียดแม่นยำ รวมถึงใช้เทคนิคที่ถูกต้องเหมาะสมค่ะ

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่ไหนดี?

จากที่ได้กล่าวมาในข้างต้น ใต้ตาเป็นบริเวณที่มีผิวบาง และอยู่ใกล้กับอวัยวะที่สำคัญอย่างดวงตาค่ะ ดังนั้น ถ้าหากฉีดฟิลเลอร์เยอะเกินไป ใช้รุ่นและยี่ห้อที่ไม่เหมาะสม หรือฉีดด้วยเทคนิคที่ไม่ถูกต้อง ก็อาจทำให้เกิดผลข้างเคียงเช่น ใต้ตาเป็นก้อน มีสีเขียวคล้ำ ซึ่งจะเห็นได้ชัดเวลายิ้ม เรียกกันว่า Tyndall Effect ค่ะ หรือหากฉีดในคลินิกที่ใช้ฟิลเลอร์ปลอม ก็อาจเป็นอันตรายถึงขั้นทำให้ตาบอดได้ค่ะ

ที่ KKC Clinic เราเลือกใช้แต่ฟิลเลอร์แท้ยี่ห้อที่ได้รับความนิยม ผ่านการรับรองจากอย. และนำเข้ามาอย่างถูกต้อง จึงเป็นฟิลเลอร์คุณภาพดีที่มีความปลอดภัยสูง นอกจากนี้ แพทย์ผู้ทำการรักษาของเรายังเป็นแพทย์ที่มีความเข้าใจในโครงสร้างใบหน้าเป็นอย่างดี มีความชำนาญและมีประสบการณ์ในการฉีดฟิลเลอร์มาอย่างยาวนาน สามารถแนะแนวทางการรักษาที่แก้ปัญหาให้กับคนไข้ได้อย่างตรงจุด สามารถเลือกรุ่นและยี่ห้อของฟิลเลอร์ รวมถึงคำนวณปริมาณฟิลเลอร์ที่ต้องใช้ได้อย่างเหมาะสม การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตากับเราจึงให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติและน่าพึงพอใจค่ะ

KKC Clinic เป็นคลินิกที่จัดตั้งอย่างถูกต้องตามกฎหมายและผ่านการรับรองมาตรฐาน มีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับ รวมถึงเป็นที่ไว้วางใจของคนไข้ทั้งชาวไทยและต่างชาติ เห็นได้จากรีวิวของคนไข้ผู้มาใช้บริการจริง ดังนั้น ถ้าคนไข้สนใจจะฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ก็แนะนำให้เข้ามารับคำปรึกษาที่ KKC Clinic นะคะ