การฉีดฟิลเลอร์ยกหน้า เพื่อแก้ปัญหาใบหน้าหย่อนคล้อยจากอายุที่เพิ่มมากขึ้น

เมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น ก็เป็นธรรมดาที่ใบหน้าของเราจะหย่อนคล้อย สาเหตุมาจากหลายปัจจัยของโครงสร้างใบหน้าที่เสื่อมลง ไม่ว่าจะเป็นกระดูกกร่อนและยุบตัว กล้ามเนื้อและเส้นเอ็นหย่อน ไขมันเด็กค่อย ๆ หายไป รวมถึงการสร้างคอลลาเจนของผิวที่ลดลง ซึ่งในปัจจุบันก็มีหัตถการยกกระชับมากมาย ทำให้หลายคนเกิดคำถามว่า “การฉีดฟิลเลอร์สามารถยกหน้าได้ไหม?” และคำตอบก็คือ ได้ค่ะ เพราะฟิลเลอร์ไม่ได้ช่วยแค่เรื่องของการเติมเต็มเท่านั้น แต่การฉีดฟิลเลอร์ลงในจุดที่ถูกต้องด้วยเทคนิคที่เหมาะสม ก็จะสามารถช่วยยกหน้าได้ ทั้งนี้ ที่ KKC Clinic เรามีเทคนิคการฉีดฟิลเลอร์ที่ช่วยยกกระชับและปรับรูปหน้า ซึ่งมีชื่อเรียกว่า ‘Asian MD Codes’ อันเป็นหนึ่งในวิธีการยกกระชับใบหน้าโดยไม่ต้องผ่าตัดที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากทั้งในหมู่คนไทยและชาวต่างชาติ
ผลลัพธ์ที่ได้อาจขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล
การฉีดฟิลเลอร์ยกหน้าคืออะไร?
ฟิลเลอร์ (Filler) คือสารเติมเต็มที่เป็นกรดไฮยาลูรอนิก (Hyaluronic Acid – HA) ที่นิยมนำมาใช้ฉีดเพื่อแก้ปัญหาต่าง ๆ บนใบหน้า ซึ่งนอกจากประโยชน์ในเรื่องของการช่วยเติมเต็มริ้วรอยและร่องลึกแล้ว การฉีดฟิลเลอร์ยังสามารถช่วยยกกระชับและปรับรูปหน้าได้อีกด้วย
หลักการทำงานของการฉีดฟิลเลอร์ยกหน้าคือ เราจะใช้ฟิลเลอร์ฉีดเพื่อเติมเต็มโครงสร้างใบหน้า เช่น ในส่วนของกระดูกที่กร่อนและยุบตัว หรือในส่วนของไขมันชั้นลึกที่หายไป เมื่อโครงสร้างผิวหน้าถูกเติมให้เต็มมากขึ้นด้วยการฉีดฟิลเลอร์ ก็จะทำให้ใบหน้าดูยกกระชับและเต่งตึงขึ้นนั่นเอง
นอกจากนี้ เรายังสามารถใช้การฉีดฟิลเลอร์ยกหน้าได้ โดยการฉีดฟิลเลอร์เข้าไปยกชั้นกล้ามเนื้อและพยุงเส้นเอ็นที่หย่อนลงมา เมื่อเส้นเอ็นถูกยึดให้กลับมาอยู่ที่เดิม ก็จะไปดึงให้กล้ามเนื้อและผิวหนังยกขึ้นเหมือนเดิมด้วยเช่นกัน
ข้อดีของการฉีดฟิลเลอร์ยกหน้าคือ เป็นหัตถการที่ช่วยยกกระชับใบหน้า แก้ปัญหาผิวหน้าตกได้โดยไม่ต้องใช้การผ่าตัด นอกจากจะเจ็บตัวน้อยกว่าและมีค่าใช้จ่ายที่น้อยกว่าแล้ว ยังไม่ต้องใช้เวลาพักฟื้น ที่สำคัญคือเห็นผลลัพธ์ได้ในทันที ทั้งนี้ การฉีดฟิลเลอร์ยังช่วยให้ผิวชุ่มชื้น เต่งตึง อิ่มฟู และมีความยืดหยุ่นมากขึ้น เมื่อผิวมีคุณภาพดีขึ้นแล้ว ก็จะส่งผลให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ได้ในระยะยาว
ทำไม Asian MD Codes ถึงเป็นเทคนิคการฉีดฟิลเลอร์ที่เหมาะสำหรับยกหน้า?
Asian MD Codes เป็นชื่อเรียกเทคนิคการฉีดฟิลเลอร์เพื่อยกกระชับและปรับรูปหน้าที่ KKC Clinic โดย Asian MD Codes เกิดจากการผสานเทคนิคการฉีดฟิลเลอร์แบบ MD Codes ซึ่งถูกคิดค้นโดย Dr. Mauricio de Maio ให้เข้ากับโครงหน้าและความต้องการของคนเอเชีย จนได้ออกมาเป็นเทคนิคการฉีดฟิลเลอร์เพื่อยกกระชับและปรับรูปหน้าซึ่งให้ผลลัพธ์ที่เป็นมาตรฐานและน่าพึงพอใจ
ทั้งนี้ เทคนิคการฉีดฟิลเลอร์แบบ Asian MD Codes เป็นเทคนิคที่ช่วยในการยกใบหน้าให้มีความตึงกระชับขึ้นได้จริง ช่วยแก้ปัญหาในคนไข้ที่ใบหน้าตกหรือใบหน้าหย่อนคล้อย โดยจะใช้วิธีการฉีดฟิลเลอร์เข้าไปตามจุดต่าง ๆ เพื่อแก้ไขโครงสร้างของใบหน้า ทั้งในส่วนของการเติมเต็มกระดูกที่กร่อนหรือยุบตัว รวมถึงพยุงเส้นเอ็นที่หย่อนคล้อย อันเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ใบหน้าของคนเราตกลงเมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น เป็นต้น
ทีมแพทย์ของ KKC Clinic มีความเข้าใจในโครงสร้างใบหน้าของคนเอเชียอย่างลึกซึ้ง สามารถวิเคราะห์และประเมินใบหน้าของคนไข้ เพื่อถอดออกมาเป็น code ในการฉีดฟิลเลอร์ต่าง ๆ ได้อย่างแม่นยำ และเลือกใช้วิธีการฉีดได้อย่างเหมาะสม รวมถึงมีการเลือกใช้ตัวยาและสารอื่น ๆ เช่น โบทูลินั่ม ท็อกซิน เพื่อช่วยในการฉีดดึงหน้าให้ได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ ทีมแพทย์ทุกท่านยังได้รับการฝึกอบรมเทคนิคการฉีดฟิลเลอร์แบบ Asian MD Codes อย่างเป็นมาตรฐานเดียวกัน ดังนั้น ไม่ว่าจะฉีดฟิลเลอร์เพื่อยกกระชับและปรับรูปหน้ากับแพทย์ท่านไหน ที่สาขาใด คนไข้ก็สามารถมั่นใจได้ว่า แพทย์ของเราจะสามารถแก้ปัญหาที่คนไข้กังวล และได้ผลลัพธ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของคนไข้อย่างน่าพึงพอใจ
จุดที่ใช้ในการฉีดฟิลเลอร์ยกหน้าเทคนิค Asian MD Codes
จุดที่ใช้ในการฉีดฟิลเลอร์ยกหน้าเทคนิค Asian MD Codes สามารถแบ่งกระจายตามบริเวณหลัก ๆ ของใบหน้าได้ดังนี้
- ขมับ: แก้ปัญหาขมับตอบ และช่วยยกกระชับใบหน้าช่วงบน โดยจะเน้นไปที่การยกหางคิ้วและหางตาที่ตกลง
- โหนกแก้ม: ช่วยยกโหนกแก้มและพยุงผิวบริเวณหน้าแก้มให้ยกกระชับขึ้น อีกทั้งยังช่วยให้แนวโหนกแก้มเป็นทรงสวยขึ้น
- แก้ม: ได้แก่ บริเวณหน้าแก้ม (แก้มส้ม) และบริเวณแก้มตอบ ซึ่งจะช่วยเติมให้ใบหน้าดูเต็มอิ่มขึ้น แก้ปัญหาแก้มตอบ ร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก ยกใบหน้าไม่ให้หย่อนคล้อย รวมถึงยกกระเปาะแก้มขึ้นไป เพื่อให้ใบหน้าดูเรียวและได้รูปมากขึ้น
- กรอบหน้า: หรือแนวกราม ฉีดเพื่อเสริมแนวกระดูกที่เป็นฐานคอยพยุงกระเปาะแก้ม ทำให้กรอบหน้าและกระเปาะแก้มที่หย่อนคล้อยยกกระชับขึ้น อีกทั้งยังช่วยให้เหนียงยกกระชับขึ้นได้อีกด้วย
- มุมปาก: หรือร่องน้ำหมาก จะฉีดเพื่อช่วยให้มุมปากยกขึ้น ร่องน้ำหมากดูตื้นขึ้น
- คาง: เป็นการฉีดที่ล้อมาตามแนวกรอบหน้า จะช่วยให้ใบหน้ายกขึ้นและดูเรียวขึ้น รวมถึงช่วยยกกระชับเหนียงได้อีกด้วย
ทั้งนี้ การฉีดฟิลเลอร์ยกหน้าไม่จำเป็นต้องฉีดทุกบริเวณที่กล่าวมานี้ หรืออาจฉีดในบริเวณอื่น ๆ นอกเหนือจากนี้เพิ่มเติม ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของแพทย์ว่าควรฉีดจุดไหนในบริเวณใดบ้าง เพราะการฉีดฟิลเลอร์ในจุดที่ถูกต้องแค่เพียงบางจุดก็สามารถช่วยยกหน้าได้แล้ว หรือหากต้องฉีดหลายจุดในหลายบริเวณ ก็สามารถแบ่งฉีดหลายครั้งได้ ไม่จำเป็นต้องฉีดพร้อมกันทั้งหมดในครั้งเดียว
ใครบ้างที่ควรฉีดฟิลเลอร์ยกหน้า?
ผู้ที่เหมาะกับการฉีดฟิลเลอร์ยกหน้า ได้แก่
- ผู้ที่อายุเพิ่มมากขึ้นแล้วกระดูกเริ่มยุบตัว เส้นเอ็นหย่อน ไขมันหายไป ส่งผลให้เกิดปัญหา เช่น ใบหน้าหย่อนคล้อย หน้าตก หน้าตอบ ขมับยุบ มีริ้วรอยและร่องลึกบริเวณรอบดวงตา ร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก
- ผู้ที่ต้องการมีใบหน้าที่ยกกระชับ ได้สัดส่วน มีมิติ และแลดูอ่อนเยาว์
- ผู้ที่ต้องการเห็นผลลัพธ์ในเรื่องของใบหน้าที่ยกขึ้นทันที
- ผู้ที่ต้องการยกหน้าโดยไม่ต้องผ่าตัด
ทั้งนี้ การฉีดฟิลเลอร์ยกหน้าไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีใบหน้าหย่อนคล้อยมาก ๆ ดังนั้น ก่อนการฉีดฟิลเลอร์ยกหน้า จึงควรเข้ารับคำปรึกษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนทุกครั้ง
ขั้นตอนการฉีดฟิลเลอร์ยกหน้า
การฉีดฟิลเลอร์ยกหน้าที่ KKC Clinic มีขั้นตอนดังนี้
- เข้ารับคำปรึกษาจากแพทย์ โดยแพทย์จะทำการวิเคราะห์และประเมินใบหน้าของคนไข้ เพื่อดูว่าคนไข้มีปัญหาอะไรบ้าง? และควรแก้ไขอย่างไร? เช่น ต้องฉีดฟิลเลอร์จุดไหน? จำนวนเท่าไหร่?
- คนไข้แจ้งข้อมูลสุขภาพของท่านกับแพทย์ เช่น โรคประจำตัว ยาที่แพ้ หรือยาที่รับประทานเป็นประจำ
- คนไข้เตรียมตัวก่อนเข้ารับการฉีดฟิลเลอร์ยกหน้า ด้วยการล้างหน้าให้สะอาดและงดการแต่งหน้า
- แพทย์แสดงกล่องและบรรจุภัณฑ์ของฟิลเลอร์ เพื่อให้คนไข้สามารถมั่นใจได้ว่าที่ KKC Clinic ใช้ฟิลเลอร์ของแท้เท่านั้น
- เริ่มฉีดฟิลเลอร์ โดยผู้ช่วยแพทย์จะทำการแปะยาชาหรือประคบเย็นให้ก่อนเพื่อลดความเจ็บปวดขณะฉีด จากนั้นแพทย์จึงจะทำการฉีดฟิลเลอร์ยกหน้าด้วยเทคนิค Asian MD Codes ตามแนวทางที่วางไว้ โดยขั้นตอนการฉีดฟิลเลอร์นี้จะใช้เวลาประมาณ 30 – 60 นาที ขึ้นอยู่กับจำนวนของบริเวณที่ทำการฉีดฟิลเลอร์และปริมาณฟิลเลอร์ที่ใช้
- ภายหลังจากการฉีดฟิลเลอร์ยกหน้าแล้ว คนไข้สามารถกลับบ้านได้ทันทีหากไม่มีอาการผิดปกติใด ๆ ทั้งนี้ คนไข้ควรปฏิบัติตัวตามวิธีการดูแลตัวเองภายหลังการฉีดฟิลเลอร์ยกหน้า ดังนี้
- หลีกเลี่ยงการสัมผัส กด หรือนวดบริเวณที่ถูกฉีดทันที
- หลีกเลี่ยงการแต่งหน้าใน 24 ชม.แรก
- งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่อย่างน้อย 48 ชม.
- หลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมหรือการออกกำลังกายหนัก ๆ อย่างน้อย 48 ชม.
- หลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับแสงแดดจัดหรืออยู่ในที่ที่มีอากาศร้อนจัด เป็นเวลาอย่างน้อย 2 สัปดาห์
- สามารถใช้การประคบเย็นเพื่อลดอาการบวมได้
- นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอโดยยกศีรษะให้สูง และดื่มน้ำเปล่ามาก ๆ
ผลลัพธ์ภายหลังจากการฉีดฟิลเลอร์ยกหน้า
การฉีดฟิลเลอร์เพื่อยกกระชับและปรับรูปหน้าด้วยเทคนิค Asian MD Codes ที่ KKC Clinic จะสามารถเห็นผลลัพธ์ในเรื่องของใบหน้าที่ยกกระชับขึ้นได้ทันทีภายหลังจากที่ฉีดเสร็จ ทั้งนี้ คนไข้จะสามารถเห็นผลลัพธ์ได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้นเมื่ออาการบวมยุบลงภายใน 2 – 3 วัน และเห็นผลลัพธ์ได้อย่างเต็มที่ภายใน 14 วัน
โดยทั่วไปแล้ว ผลลัพธ์ของการฉีดฟิลเลอร์ยกหน้าจะสามารถคงอยู่ได้ตั้งแต่ประมาณ 6 – 18 เดือน ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นยี่ห้อของฟิลเลอร์ เทคนิคการฉีดของแพทย์แต่ละท่าน รวมถึงวิธีการดูแลตนเองของคนไข้ภายหลังจากที่ฉีดฟิลเลอร์เข้าไปแล้วเป็นสำคัญ
ยี่ห้อของฟิลเลอร์ที่ใช้สำหรับการยกหน้า
ที่ KKC Clinic เราเลือกใช้แต่ฟิลเลอร์ของแท้ที่เป็นกรดไฮยาลูรอนิก (Hyaluronic Acid – HA) ซึ่งผ่านการรับรองจากอย.เท่านั้น โดยฟิลเลอร์ที่เราเลือกใช้ ได้แก่
Juvederm
Juvederm (จูวีเดิม) คือฟิลเลอร์จากประเทศสหรัฐอเมริกา (USA) ที่ถูกผลิตโดยบริษัท Allergan และนำเข้าโดยบริษัท Allergan Thailand ซึ่งเป็นฟิลเลอร์คุณภาพสูงที่ผ่านการรับรองจากทั้งอย.ของประเทศไทยและอย.ของประเทศสหรัฐอเมริกา
ฟิลเลอร์ Juvederm มีจุดเด่นอยู่ที่เทคโนโลยีในการผลิตแบบ Hylacross ทำให้ฟิลเลอร์มีคุณสมบัติในการอุ้มน้ำได้ดี มีความยืดหยุ่นสูง ทนต่อการขยับ รวมถึงเทคโนโลยีในการผลิตแบบ Vycross ทำให้มีคุณสมบัติในการยกกระชับได้ดี มีความคงตัวสูง ฉีดแล้วไม่ไหล และมีอัตราการบวมน้ำน้อย ทำให้ภายหลังจากฉีดฟิลเลอร์ Juvederm แล้ว ผิวจะดูเรียบเนียนอย่างเป็นธรรมชาติ
ฟิลเลอร์ของ Juvederm มีหลากหลายรุ่น แตกต่างกันทั้งจากเทคโนโลยีในการผลิตและความเหมาะสมในการใช้งาน โดยฟิลเลอร์ของ Juvederm แบ่งเป็นรุ่นดังนี้
- ผลิตโดยเทคโนโลยี Hylacross: Juvederm Ultra XC (เนื้อนิ่ม) และ Juvederm Ultra Plus XC (เนื้อนิ่มและฟูมาก)
- ผลิตโดยเทคโนโลยี Vycross: Juvederm Volux (เนื้อแข็งที่สุด), Juvederm Voluma (เนื้อแข็งและฟูปานกลาง), Juvederm Volift (เนื้อนิ่มปานกลาง), Juvederm Volbella (เนื้อนิ่มที่สุด)
Belotero
Belotero (เบโลเทโร่) คือฟิลเลอร์จากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ นำเข้าโดยบริษัท Merz Aesthetics Thailand ซึ่งเป็นฟิลเลอร์ที่ผ่านการรับรองจากทั้งอย.ของประเทศไทย และอย.ของประเทศสหรัฐอเมริกา รวมถึงได้รับ CE Marking
ฟิลเลอร์ Belotero มีจุดเด่นอยู่ที่เทคโนโลยีในการผลิต Cohesive Polydensified Matrix (CPM) ซึ่งเป็นสิทธิบัตรของแบรนด์ ทำให้เนื้อฟิลเลอร์มีความเรียบเนียน กลืนไปกับผิวได้ดี ให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ
ฟิลเลอร์ของ Belotero มีหลากหลายรุ่น ซึ่งสามารถแบ่งรุ่นได้จากสีกล่อง โดยแต่ละรุ่นก็จะมีคุณสมบัติที่แตกต่างกันไป จึงเหมาะกับการใช้แก้ปัญหาที่แตกต่างกันไปเช่นกัน โดยฟิลเลอร์ของ Belotero แบ่งเป็นรุ่นดังนี้ Belotero Soft (กล่องสีเหลือง : เนื้อนิ่ม), Belotero Balance (กล่องสีส้ม : เนื้อนิ่มปานกลาง), Belotero Intense (กล่องสีชมพู : เนื้อมีความยืดหยุ่นและคงตัวสูง ขึ้นทรงได้สวย), Belotero Volume (กล่องสีม่วง : เนื้อมีความยืดหยุ่นและคงตัวสูง เหมาะสำหรับเพิ่มมิติและเติมเต็ม), Belotero Revive (กล่องสีเขียว : ช่วยในเรื่องของความชุ่มชื้นและอิ่มฟู), Belotero Lips (สำหรับฉีดปากโดยเฉพาะ)
Restylane
Restylane (เรสเทอเลน) คือฟิลเลอร์จากประเทศสวีเดน ที่ถูกผลิตโดยบริษัท Galderma ซึ่งเป็นฟิลเลอร์ที่ผ่านการรับรองจากทั้งอย.ของประเทศไทย อย.ของประเทศสหรัฐอเมริกา และอย.ของประเทศเกาหลีใต้ รวมถึงได้รับ EDQM
ฟิลเลอร์ Restylane มีจุดเด่นอยู่ที่เทคโนโลยีในการผลิตแบบ Non-Animal Stabilized Hyaluronic Acid (NASHA) ทำให้ฟิลเลอร์มีความคงตัวสูง ขึ้นทรงได้ดี ไม่ไหลไปในบริเวณอื่น ๆ และไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้ จึงมีความปลอดภัยสูง อีกทั้งยังมีเทคโนโลยีในการผลิตแบบ Optimal Balance Technology (OBT) ทำให้ฟิลเลอร์มีความอ่อนนุ่ม ยืดหยุ่น ปรับทรงได้หลากหลาย และกลืนไปกับผิวได้ดี ให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ
ฟิลเลอร์ของ Restylane มีหลากหลายรุ่น แตกต่างกันทั้งจากเทคโนโลยีในการผลิตและความเหมาะสมในการใช้งาน โดยฟิลเลอร์ของ Restylane แบ่งเป็นรุ่นดังนี้
- ผลิตโดยเทคโนโลยี NASHA: Restylane Vital Light (เนื้อนิ่มและละเอียด), Restylane Vital (เนื้อนิ่มและละเอียด), Restylane Classic (เนื้อแข็งปานกลาง), Restylane Lyft (เนื้อแข็งที่สุด)
- ผลิตโดยเทคโนโลยี OBT: Restylane Refyne (มีความยืดหยุ่นสูง), Restylane Volyme (เนื้อแข็งปานกลาง), Restylane Defyne (เนื้อนิ่มปานกลาง), Restylane Kysse (เนื้อนิ่มและละเอียด)
การฉีดฟิลเลอร์ยกหน้าต้องใช้กี่ cc?
ที่จริงแล้ว ปริมาณฟิลเลอร์ที่ใช้ฉีดเพื่อยกหน้าจะแตกต่างกันไปในคนไข้แต่ละคน เพราะโครงสร้างของใบหน้า ปัญหาที่คนไข้มี รวมถึงสไตล์ความชอบของคนไข้ย่อมไม่เหมือนกัน แต่โดยเฉลี่ยก็จะใช้อยู่ที่ 2 – 5 cc ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของแพทย์
วิธีการยกหน้าอื่น ๆ โดยที่ไม่ต้องผ่าตัด
นอกจากการฉีดฟิลเลอร์ยกหน้าแล้ว ยังมีวิธีการยกหน้าอื่น ๆ โดยที่ไม่ต้องผ่าตัด เช่น Thermage FLX, Ulthera SPT, Emface และร้อยไหม ซึ่งมีข้อแตกต่างกัน ดังนี้
อ่านบทความโปรแกรมยกกระชับกรอบหน้าเพิ่มเติม: กรอบหน้า คมชัด สวยเป๊ะ ให้หันมุมไหนก็มั่นใจ ทำอย่างไรดี
ทำไมต้องฉีดฟิลเลอร์ยกหน้าที่ KKC Clinic?
การฉีดฟิลเลอร์ยกหน้า จำเป็นต้องใช้ฟิลเลอร์แท้ที่มีอย.รับรอง ฉีดกับแพทย์ผู้มีความเชี่ยวชาญและมากประสบการณ์ มีเทคนิคในการฉีดที่สอดรับกับปัญหาและความต้องการของคนไข้ รวมถึงฉีดในคลินิกที่ผ่านการรับรองมาตรฐานเท่านั้น เพราะนอกจากจะทำให้ได้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจแล้ว คนไข้ยังจะได้รับความปลอดภัยอีกด้วย
ที่ KKC Clinic เราใช้ฟิลเลอร์แท้ที่ผ่านการรับรองจากอย.ทั้งในไทยและในต่างประเทศ รวมถึงเป็นฟิลเลอร์แบรนด์ดังที่ได้รับความนิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย อีกทั้ง KKC Clinic ยังเป็นคลินิกที่ได้รับการจัดตั้งอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ผ่านการรับรองมาตรฐานและมีความปลอดภัย
ที่สำคัญคือ KKC Clinic มีเทคนิคการฉีดฟิลเลอร์ที่เรียกว่า Asian MD Codes ซึ่งเป็นเทคนิคที่เกิดจากการผสานเทคนิคการฉีดฟิลเลอร์แบบ MD Codes ให้เข้ากับโครงสร้างใบหน้าและความต้องการของคนเอเชีย โดยทีมแพทย์เทรนเนอร์ของเราได้รับการฝึกอบรมเทคนิคการฉีดนี้จาก Dr. Mauricio de Maio โดยตรง ก่อนจะเอามาพัฒนาให้เป็น Asian MD Codes อันเป็นเทคนิคการฉีดฟิลเลอร์ที่จะช่วยยกกระชับและปรับรูปหน้าในแบบที่เหมาะกับคนเอเชีย ก่อนจะถ่ายทอดสู่ทีมแพทย์ของเราทุกคน
ดังนั้น การฉีดฟิลเลอร์ยกหน้ากับเรา จะให้ผลลัพธ์เป็นมาตรฐานเดียวกันไม่ว่าจะฉีดกับแพทย์ท่านไหน ที่สาขาใด คนไข้จึงสามารถมั่นใจได้ว่า หากฉีดฟิลเลอร์ยกหน้าที่ KKC Clinic แล้ว จะได้รับการแก้ไขปัญหาอย่างตรงจุด และได้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจ
คำถามที่พบบ่อย
หลังจากฉีดฟิลเลอร์ยกหน้าแล้ว อาการบวมจะยุบลงภายในกี่วัน?
ภายหลังจากการฉีดฟิลเลอร์ยกหน้า อาการบวมจะดีขึ้นภายใน 2 – 3 วัน และจะยุบบวมจนเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนภายใน 14 วัน
หลังจากฉีดฟิลเลอร์ยกหน้าแล้ว ต้องใช้เวลากี่วันจึงจะเห็นผล?
ภายหลังจากการฉีดฟิลเลอร์ยกหน้า จะสามารถเห็นผลลัพธ์ได้ในทันที แต่จะเห็นผลลัพธ์ชัดเจนเต็มที่ภายใน 14 วัน
หลังจากฉีดฟิลเลอร์ยกหน้าแล้ว สามารถนอนตะแคงได้หรือไม่?
ภายหลังจากฉีดฟิลเลอร์ยกหน้า ควรหลีกเลี่ยงการนอนตะแคงใน 2 – 3 คืนแรก และควรนอนในลักษณะที่ยกศีรษะให้สูงขึ้น โดยอาจจะเลือกใช้หมอนที่มีความสูงกว่าปกติเล็กน้อย หรือใช้หมอนซ้อนกัน 2 ใบแทน
หลังจากฉีดฟิลเลอร์ยกหน้าแล้ว สามารถทาครีมได้หรือไม่?
ภายหลังจากฉีดฟิลเลอร์ยกหน้าประมาณ 2 ชม. คนไข้สามารถทาครีมได้ตามปกติ
สามารถฉีดฟิลเลอร์ยกหน้าซ้ำได้หรือไม่?
ตามปกติแล้ว การฉีดฟิลเลอร์ยกหน้าสามารถฉีดซ้ำได้ แต่ควรเว้นระยะการฉีดให้ห่างกันอย่างน้อย 2 สัปดาห์ หรือตามคำแนะนำของแพทย์
ฉีดฟิลเลอร์ยกหน้าที่ไหนดี?
การฉีดฟิลเลอร์ยกหน้า ควรฉีดกับแพทย์ผู้มีความเชี่ยวชาญ มีประสบการณ์ และมีเทคนิคการฉีดที่เหมาะสม ในคลินิกที่ใช้ฟิลเลอร์แท้และผ่านการรับรองมาตรฐาน อย่างที่ KKC Clinic ที่มีเทคนิคการฉีดฟิลเลอร์แบบ Asian MD Codes รวมถึงมีการเลือกใช้ยาและสารอื่น ๆ ในการฉีดเพื่อดึงหน้าร่วมด้วย ทำให้ผลลัพธ์ในการฉีดออกมาดีที่สุดและเป็นมาตรฐานเดียวกัน ที่สำคัญคือเรายังเป็นคลินิกที่ผ่านการรับรองมาตรฐานด้านความปลอดภัย
ค่าใช้จ่ายในการฉีดฟิลเลอร์ยกหน้าที่ KKC Clinic
การฉีดฟิลเลอร์ยกหน้าที่ KKC Clinic มีราคาเริ่มต้นที่ 15,000 บาท โดยจะขึ้นอยู่กับปัจจัยต่าง ๆ เช่น ยี่ห้อของฟิลเลอร์ ปริมาณที่ใช้ บริเวณที่จะฉีด โดยจะทราบได้จากการประเมินและการพิจารณาตามความเหมาะสมของแพทย์
สรุปเรื่องการฉีดฟิลเลอร์ยกหน้า
การฉีดฟิลเลอร์ยกหน้า คือหัตถการที่ใช้การฉีดสารเติมเต็ม (HA) เพื่อช่วยยกกระชับใบหน้า โดยฟิลเลอร์ที่ใช้ฉีดเพื่อยกหน้าก็มีให้เลือกใช้หลากหลายยี่ห้อแตกต่างกันไป ทั้งนี้ ที่ KKC Clinic เรามีเทคนิคการฉีดฟิลเลอร์ที่เรียกว่า Asian MD Codes ซึ่งเป็นเทคนิคการฉีดฟิลเลอร์ที่ถูกพัฒนาให้มีความเหมาะสมกับคนเอเชีย นอกจากจะช่วยในการยกกระชับและปรับรูปหน้าแล้ว ยังทำให้ใบหน้าของคนไข้มีความละมุน สวยหวาน และแลดูอ่อนเยาว์ อีกทั้งยังแก้ปัญหาที่คนไข้กังวลได้อย่างตรงจุด ให้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจ