9 ข้อ Checklist! เจาะทุกข้อสงสัยเกี่ยวกับฟิลเลอร์ใต้ตา

คำถามยอดฮิต “ฟิลเลอร์ใต้ตาอยู่ได้นานไหม?” เป็นคำถามที่มักถูกถามทั้งที่คลินิกหรือบางคนถึงขั้นไปตั้งกระทู้ Pantip ก็มากมาย ถือเป็นคำถามที่มีหลายคนสงสัยมากมาย ไม่ต้องห่วงค่ะ วันนี้เราเอาเช็คลิสต์สำหรับการการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา รวมถึงตอบคำถามว่าฟิลเลอร์ใต้ตาจะอยู่ได้นานแค่ไหน KKC Clinic จะมาตอบคำถามนี้ให้อย่างละเอียดเลยค่ะ งั้นเราเริ่มกันเลย
1. ฟิลเลอร์ใต้ตาคืออะไร?
ฟิลเลอร์ คือ สารเติมเต็มประเภทไฮยาลูโรนิกแอซิด (Hyaluronic Acid – HA) ซึ่งเป็นสารที่มีความคล้ายกับเซลล์ในร่างกายของมนุษย์มากที่สุด คนเรามักใช้ฉีดใต้ตา เพื่อลดร่องลึก แก้ไขใต้ตาหมองคล้ำ ทำให้ใบหน้าดูสดใสขึ้นทันที แลดูอ่อนเยาว์มากขึ้นอีกด้วย ถุงใต้ตาหรือใต้ตาคล้ำสามารถเกิดขึ้นได้หลายสาเหตุเลยค่ะ ทั้งนอนดึก ไม่ดูแลตัวเอง ถุงใต้ตาเยอะตั้งแต่กำเนิด หรือแม้แต่ภูมิแพ้ก็ตาม ทำให้ใต้ตาคล้ำได้หมดค่ะ วิธีการแก้ก็มีหลายวิธี แต่ที่ฮอตฮิตสุดๆ คือ การฉีดฟิลเลอร์ถุงใต้ตานั่นเองค่ะ
2. ฟิลเลอร์ใต้ตาอยู่ได้นานแค่ไหนเอ่ย?
โดยปกติ การฉีดฟิลเลอร์ 1 ครั่งจะอยู่ได้เฉลี่ย 6 – 18 เดือน ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น
- ประเภทของฟิลเลอร์ แต่ละรุ่นและยี่ห้อ จะมีความสามารถพิเศษที่แตกต่างกัน มีเนื้อฟิลเลอร์ที่แตกต่างกันด้วย ผลลัพธ์ที่ได้ก็ต่างกัน ทำให้เราจำเป็นต้องปรึกษาแพทย์เฉพาะทางเพื่อประเมินว่าเราควรใช้ฟิลเลอร์ตัวไหนดี มากกว่ามานั่งจิ้มเองค่ะ
- ตำแหน่งและเทคนิคการฉีดฟิลเลอร์ก็มีผลเป็นอย่างมาก บางตำแหน่งเป็นส่วยที่มีการเคลื่อนไหมสูงก็อาจทำให้ฟิลเลอร์สลายได้เร็วกว่าบริเวณที่ไม่มีการเคลื่อนไหวเท่าไหร่ อันนี้ต้องระวังนะคะ แต่ส่วนใต้ตาฟิลเลอร์มักจะอยู่ได้นานค่ะ หากเราดูแลตัวเองเป็นอย่างดี
- พฤติกรรมการใช้ชีวิตของแต่ละคนซึ่งมีความแตกต่างกัน กรณีที่ไม่แนะนำ เลี่ยงได้เลี่ยง คือการ สูบบุหรี่และดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ เพราะสิ่งเหล่านี้จะทำให้ผิวหนังแห้ง ขาดน้ำและฟิลเลอร์ทำงานได้ไม่ดีเท่าที่ควร ส่งผลให้ฟิลเลอร์สลายเร็วขึ้นด้วยค่ะ
3. ปัจจัยที่มีผลต่ออายุของฟิลเลอร์ใต้ตา มีอะไรบ้าง?
- ชนิดของฟิลเลอร์ ฟิลเลอร์เนื้อละเอียดส่วนใหญ่มักจะสลายช้ากว่าฟิลเลอร์เนื้อบางเบานะคะ
- สภาพผิวและระบบเผาผลาญของแต่ละบุคคล มีส่วนเป็นอย่างมาก คนไหนที่มีการเผาพลาญของร่างกายดี ฟิลเลอร์ก็จะสลายไวค่ะ เนื่องจากอุณหภูมิที่มีในร่างกายจะช่วยให้ฟิลเลอร์สลายเร็วขึ้น
- ตำแหน่งการฉีดก็มีผลอย่างที่กล่าวในหัวข้อด้านบน บริเวณใต้ตาสลายช้ากว่าส่วนอื่น เช่น ริมฝีปากหรือร่องแก้ม เพราะใต้ตาเป็นบริเวณที่การขยับได้น้อยกว่าบริเวณอื่น ไม่นับรวมถึงการขยี้ตาแรงๆ หรือกดนะคะ อันนั้นอาจจะทำให้ฟิลเลอร์สลายเร็วได้เหมือนกัน
- การดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ เช่น การเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอลล์ การสูบบุหรี่ก็ช่วยได้มากค่ะ
- ติดตามผลสม่ำเสมอ พบแพทย์เพื่อฉีดซ้ำในระยะเวลาที่เหมาะสม ช่วยให้ผลอยู่ได้นานยิ่งขึ้น
4. จะรู้ได้อย่างไรว่าฟิลเลอร์ใต้ตาเริ่มสลายแล้ว?
เมื่อเรารู้สึกว่า บริเวณที่เคยตึงใต้ตามีความหย่อนลงมามากวก่าเดิม ส่องกระจกแล้วใต้ตาเริ่มกลับมามีร่องหรือความลึกมากขึ้น เมื่อใต้ตาโทรมใบหน้าก็จะดูอ่อนล้าและเศร้าไปเองโดยธรรมชาติ ซึ่งคุณจะรู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงนั้นเอง แนะนำให้พบแพทย์ตามนัดเป็นประจำ เพื่อให้แพทย์ประเมินด้วยเทคนิคที่เหมาะสมค่ะ
5. ทำอย่างไรให้ฟิลเลอร์ใต้ตาอยู่ได้นานขึ้นบ้าง?
- คุณต้องเลือกคลินิกและแพทย์ที่มีประสบการณ์ เพื่อให้การประเมินการรักษาเป็นไปอย่างถูกต้อง และการฉีดมีความแม่นยำ เฉพาะจุดมากขึ้น ทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้นค่ะ
- คุณต้องหลีกเลี่ยงการนวดหรือกดแรงๆ บริเวณใต้ตาที่ถูกฉีดฟิลเลอร์มา อันนี้หลายคนละเลย จึงทำให้ฟิลเลอร์อยู่ได้ไม่นาน
- คุณต้องหลีกเลี่ยงความร้อนจัด เช่น ซาวน่า เลเซอร์บางชนิดที่มีความร้อนเป็นส่วนหนึ่ง แนะนำให้แจ้งแพทย์เฉพาะทาง ก่อนทำหัตถการอื่นๆ ค่ะ
- คุณต้องพักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มน้ำมากๆ ตัวช่วยชั้นดีทำให้ฟิลเลอร์อยู่ได้นานขึ้นค่ะ
- คุณต้องงดการสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์ เพราะสองอย่างนี้ คือตัวทำลายฟิลเลอร์ชั้นดีเลย
ถ้ายังไม่แน่ใจว่าการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เหมาะกับคุณหรือไม่? คุณสามารถจองรับคำปรึกษากับเราฟรี เพื่อรับแผนการรักษาจากการประเมินของแพทย์ ที่ออกแบบมาเพื่อคุณโดยเฉพาะ
6. เราควรฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ซ้ำเมื่อไหร่ดี?
ส่วนใหญ่แพทย์ประจำเคส มักแนะนำให้เติมใหม่ทุก 9-12 เดือน ตามอายุของฟิลเลอร์แต่ละชนิดนั่นแหละค่ะ บางกรณีอาจสั้นกว่าหรือยาวกว่านี้ ขึ้นกับการตอบสนองของร่างกายแต่ละคนและ KKC Clinic แนะนำให้พบแพทย์ตามที่แพทย์ต้องการติดตามผล เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีอย่างสม่ำเสมอ
7. อันตรายไหมถ้าฟิลเลอร์สลายแล้ว?
ฟิลเลอร์ที่นิยมใช้ฉีดใต้ตาแก้ปัญหา ใต้ตาแพนด้าหรือถุงใต้ตา ส่วนใหญ่เป็นฟิลเลอร์ HA สามารถสลายได้เองตามธรรมชาติเลยค่ะ ซึ่งจะไม่ก่อให้เกิดพังผืดหากใช้ของแท้และฉีดโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และหากมีอาการผิดปกติ เช่น บวมแดงนาน หรือเป็นก้อน ควรปรึกษาแพทย์ทันที เพื่อแก้ไขค่ะ แต่ไม่เป็นอันตรายแน่นอนนะคะ เน้นของแท้เท่านั้นน้า
8. ความแตกต่างระหว่างฟิลเลอร์ใต้ตากับการผ่าตัดถุงใต้ตา
ทำไมการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ถึงได้รัยความนิยม? เพราะว่าการฉีดฟิลเลอร์ เป็นนวัฒกรรมที่กรรมลังเป็นที่นิยม เนื่องจาก เป็นการรักษาภาวะใต้ตาคล้ำ ถุงใต้ตาไม่เท่ากันหรือปัญหาใต้ตาอื่นๆ ได้โดยที่ไม่ต้องผ่าตัดให้เสียเวลา จึงเหมาะกับคนที่กลัวการผ่าตัด และแทบไม่ต้องใช้เวลาพักฟื้น อย่างเต็มที่ก็แค่วันสองวันเท่านั้น แต่โดยส่วนใหญ่ จะสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ปกติเลยหลังจากฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา จึงทำให้คนนิยมมากกว่าการผ่าตัด งั้นมาเปรียบเทียบให้เห็นภาพกันเลยดีกว่า ว่าแต่ละหัตถการมีข้อดีข้อเสียอย่างไร
รายการ | ฟิลเลอร์ใต้ตา | ผ่าตัดถุงใต้ตา |
วิธีทำ | ฉีดสารเติมเต็ม | ผ่าตัดดึงถุงไขมัน |
ระยะเวลาพักฟื้น | แทบไม่มี | 1-2 สัปดาห์ |
ผลลัพธ์ที่ได้ | 6-18 เดือน | ถาวรในระดับหนึ่ง |
ความเสี่ยงที่เกิดขึ้น | น้อย | ปานกลางถึงสูง |
ราคา | ถูกกว่า | แพงกว่า |
คุณสามารถจองรับคำปรึกษากับเราฟรี เพื่อรับใบเสนอราคาที่จัดเตรียมมาให้เหมาะกับเป้าหมายและแผนการรักษาของคุณโดยเฉพาะ
9. คำแนะนำก่อนและหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเพื่อให้อยู่ได้นานขึ้น
การเตรียมตัวก่อนฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
วิธีการเตรียมตัวก่อนฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาก็จะมีดังนี้ค่ะ
- ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาโดยละเอียด โดยเฉพาะข้อมูลที่จะช่วยในการเลือกคลินิกฉีดฟิลเลอร์
- เตรียมข้อมูลสุขภาพไปแจ้งกับแพทย์ เช่น โรคประจำตัว ยาที่แพ้ หรือยาที่กินเป็นประจำ
- งดกินยาและวิตามินบางอย่าง เช่น แอสไพริน, NSAIDs, วิตามิน St. John’s Wort, Ginkgo Biloba และวิตามิน E
- งดดื่มแอลกอฮอล์และงดทำกิจกรรมที่ทำให้เลือดสูบฉีดแรง
- งดทายาหรือครีมผลัดเซลล์ผิวในบริเวณที่จะฉีด
ข้อปฏิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์ (Filler) ใต้ตา
วิธีการดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ (Filler) ใต้ตา ก็จะมีดังนี้ค่ะ
- งดจับ กด นวด แกะ เกา ในบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์
- หลีกเลี่ยงการแต่งหน้าใน 24 ชม.แรก
- งดสูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ และออกกำลังกายหรือเล่นกีฬาหนัก ๆ
- งดกินอาหารดิบ อาหารหมักดอง อาหารรสจัด และอาหารที่ต้องอยู่หน้าเตาร้อน ๆ
- งดทำหัตถการที่ใช้ความร้อน เช่น Thermage และ Ultherapy ประมาณ 1 เดือน
- ควรอยู่ในที่เย็น ๆ หลีกเลี่ยงการโดนแดดหรืออยู่ในที่ที่มีอากาศร้อน ๆ เช่น ซาวน่า ออนเซ็น
- ดื่มน้ำเยอะ ๆ อย่างน้อยวันละ 1.5 – 2 ลิตร
- นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ โดยแนะนำให้นอนหมอนสูง ให้ศีรษะอยู่สูงกว่าหน้าอก และไม่ควรนอนตะแคงในช่วงแรก
- กินยาและปฏิบัติตัวตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด รวมถึงรีบกลับมาพบแพทย์หากมีอาการผิดปกติเกิดขึ้น เช่น ใต้ตาปวด บวม แดงมาก ๆ หรือมีอาการคัน มีผื่นแดง
ราคาฉีดฟิลเลอร์ของแท้ที่ KKC Clinic
*ราคาเริ่มต้นของการฉีดฟิลเลอร์ของแท้ เริ่มต้นที่ 15,000 บาทต่อ CC*
แต่ละบริเวณจะใช้ CC ที่แตกต่างกัน แล้วแต่ว่าจุดนั้นๆ มีปัญหามากน้อยแค่ไหน
อยากให้คุณนัดหมายเข้ามาพบแพทย์ เพื่อให้แพทย์ที่เชี่ยวชาญประเมินอีกครั้ง ฟรี!
ทำไมต้อง KKC Clinic สำหรับการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
ที่ KKC Clinic เราให้ความสำคัญกับความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่ดีที่สุดของคุณ ด้วย ฟิลเลอร์ของแท้ 100% ที่สามารถตรวจสอบได้ทุกกล่อง คุณจึงมั่นใจในคุณภาพที่เราเลือกสรรมาเพื่อคุณได้เลย นอกจากนี้ คลินิกของเรายังได้รับการรับรองมาตรฐานระดับสากล พร้อมทีม แพทย์ผู้เฉพาะทางที่เปี่ยมด้วยประสบการณ์สูง ในด้านการออกแบบและปรับแต่งโครงสร้างใบหน้าโดยเฉพาะ เพื่อให้ทุกหัตถการเป็นไปอย่างแม่นยำและได้ผลลัพธ์ที่ตรงใจที่สุด แก้ปัญหาที่คุณต้องเจอได้ ให้คุณสามารถมั่นใจได้ว่าเราใส่ใจทุกเคส และเพื่อความสะดวกสบายของคุณ เรามี หลายสาขาให้บริการทั่วกรุงเทพฯ ให้คุณเลือกใช้บริการได้อย่างใกล้บ้านอีกด้วยค่ะ
นัดหมายปรึกษาฟรีเกี่ยวกับฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาให้อยู่นาน
พร้อมหรือยัง? บอกลาแพนด้าใต้ตา ที่อยู่กับคุณมานาน เพื่อให้ใต้ตาของคุณเปล่งประกาย วิบๆ วับๆ มากขึ้น