Profhilo คืออะไร ทำไมถึงเรียกว่า Bio-Remodeling?

Profhilo เป็นตัวยาที่ช่วยในการฟื้นบำรุงผิวและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ที่แม้ว่าจะเพิ่งเข้ามาในประเทศไทยได้ไม่นาน แต่กลับมีการใช้กันอย่างแพร่หลายมากว่าสิบปีในต่างประเทศ และได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ซึ่ง Profhilo จะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและความยืดหยุ่นให้กับผิว รวมถึงกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในระยะยาว จึงเหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย และมีริ้วรอยร่องตื้นต่าง ๆ ทั้งนี้ มีผลการศึกษาในต่างประเทศมากมายที่แสดงให้เห็นถึงผลลัพธ์อันยอดเยี่ยมของการฉีด Profhilo และ KKC Clinic ก็ได้นำ Profhilo มาพร้อมให้บริการแก่คนไข้ของเราแล้ววันนี้
ผลลัพธ์ที่ได้อาจขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล
Profhilo คืออะไร?
Profhilo (โปรไฟโล) เป็นตัวยาที่มีส่วนประกอบคือ Hyaluronic Acid (HA) บริสุทธิ์เข้มข้น ที่จัดอยู่ในกลุ่ม Non-Crosslinked HA เพราะไม่มีการใช้องค์ประกอบทางเคมีอย่าง BDDE ในการเชื่อมพันธะ แต่ใช้การเชื่อมพันธะด้วยกระบวนการของเทคโนโลยี NAHYCO ซึ่งเป็นเทคโนโลยีสิทธิบัตรของ IBSA อันเป็นบริษัทผู้ผลิต Profhilo จากประเทศสวิตเซอร์แลนด์
เทคโนโลยี NAHYCO คือการนำ HA ที่มีขนาดแตกต่างกัน 2 ตัว ได้แก่ HA ตัวใหญ่ หรือ High molecular weight (32 mg of HA : 1,100 – 1,400 kDa) กับ HA ตัวเล็ก หรือ Low molecular weight (32 mg of HA : 80 – 100 kDa) มาผ่านกระบวนการเพิ่มและลดอุณหภูมิแบบจำเพาะ ทำให้ HA ทั้ง 2 ตัวนี้เกิดการเชื่อมพันธะและจับตัวเข้าด้วยกันใหม่ กลายเป็น HA ที่มีโครงสร้างแบบพิเศษ เรียกว่า Hybrid Cooperative Complexes (HCC) ซึ่งถือเป็นส่วนประกอบหลักของ Profhilo โดยมีงานวิจัยรับรองว่า HCC สามารถกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้มากกว่า HA ธรรมดาทั่วไป จึงนับว่าเป็นความพิเศษของ Profhilo
ความพิเศษอีกอย่างหนึ่งของ Profhilo คือเนื่องจากใช้การเชื่อมพันธะด้วยเทคโนโลยี NAHYCO จึงทำให้เป็นการเชื่อมพันธะแบบหลวม ๆ ดังนั้น แม้ว่าใน Profhilo จะมี HA มากถึง 64 มก. / 2 มล. (มากที่สุดในท้องตลาด) แต่ก็ยังมีลักษณะเป็นของเหลว ความหนืดต่ำ เมื่อฉีดแล้วจึงกระจายตัวได้ดี
ที่จริงแล้ว Profhilo จะเป็นตัวยาที่อยู่ตรงกลางระหว่าง Skin Booster กับ Collagen Biostimulator เพราะให้ผลลัพธ์ทั้งในเรื่องของการช่วยให้ผิวมีคุณภาพดีขึ้นได้อย่างรวดเร็วแบบ Skin Booster และก็ยังช่วยกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนในระยะยาวแบบ Collagen Biostimulator ดังนั้น จึงมีการให้นิยามใหม่กับ Profhilo ว่าเป็น Bio-Remodeling เพราะ Profhilo จะช่วยฟื้นฟูและซ่อมแซมเซลล์ผิวได้ในทุก ๆ ชั้น ไม่ว่าจะเป็น Keratinocytes, Fibroblast หรือ Adipocytes จึงช่วยปรับปรุงโครงสร้างของผิว ทำให้ผิวมีคุณภาพดีขึ้นและแข็งแรงขึ้น
Profhilo ทำงานยังไง?
Profhilo มีเทคนิคการฉีดที่เรียกว่า Bio Aesthetic Points (BAP) คือการฉีดยาลงไปในจุดที่กำหนด โดยใบหน้าจะมีข้างละ 5 จุด ในขณะที่ลำคอจะมี 10 จุด โดยจุดหนึ่งจะฉีดเป็นปริมาณ 0.2 มล. ดังนั้น หากฉีด 10 จุดก็จะใช้ทั้งหมด 2 มล. หรือก็คือ 1 ไซริงค์พอดี
เนื่องจาก Profhilo เป็นตัวยาที่สามารถกระจายตัวได้ดี เมื่อฉีดเข้าไปแล้วยาจะกระจายออกเป็นวงกว้าง ครอบคลุมหลายบริเวณที่ต้องการทำการรักษาอย่างทั่วถึง จึงไม่จำเป็นต้องฉีดหลาย ๆ จุด ทำให้ Profhilo เป็นโปรแกรมการรักษาที่เหมาะสำหรับคนไข้ที่กลัวเจ็บ
Profhilo จะช่วยในการฟื้นบำรุงผิวทุก ๆ ชั้น โดยจะช่วยขจัดเซลล์เก่าที่ตายแล้ว และสร้างเซลล์ใหม่ขึ้นมาทดแทน เผยให้เห็นเซลล์ที่แข็งแรงกว่า อีกทั้งยังช่วยกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนประเภทที่ 1, 3, 4, 7 และอีลาสติน รวมถึงเพิ่มการไหลเวียนของเลือดในบริเวณที่มีการปรับโครงสร้างผิว จึงช่วยให้ผิวมีสุขภาพดีขึ้น แข็งแรงขึ้น และมีคุณภาพดีขึ้น ทั้งนี้ เนื่องจาก Profhilo ยังคงมี HA เป็นส่วนประกอบ จึงช่วยในเรื่องของการเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวด้วยเช่นกัน
Profhilo ช่วยเรื่องอะไร?
Profhilo จะช่วยในเรื่องดังต่อไปนี้ค่ะ
- ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน จึงทำให้ผิวอิ่มฟู, เต่งตึง, ยืดหยุ่น และเรียบเนียน
- ช่วยให้ผิวกระชับขึ้น แก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อย
- ช่วยลดเลือนริ้วรอยร่องตื้นและแก้ไขปัญหาความเหี่ยวย่น
- ช่วยลดริ้วรอยและเส้นที่คอได้ดี
- ช่วยลดริ้วรอยและความหมองคล้ำใต้ตา
- ช่วยปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ
- ช่วยรักษาหลุมสิวและรอยแผลเป็น
- ช่วยฟื้นบำรุงผิวให้แข็งแรงและมีสุขภาพดี
- ช่วยปรับปรุงคุณภาพผิวให้ดีขึ้น ทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์
Profhilo ฉีดตรงไหนได้บ้าง?
Profhilo จะนิยมฉีดบริเวณใบหน้ากับลำคอค่ะ แต่ก็สามารถใช้ฉีดกับลำตัวได้เช่นกัน โดยจุดที่นิยมฉีดได้แก่
- ใบหน้า เช่น หน้าผาก, ใต้ตา, โหนกแก้ม, หน้าแก้ม, ร่องแก้ม, ข้างจมูก, รอบปาก, มุมปาก, แนวกราม
- ลำคอ
- ลำตัว เช่น หลังมือ, เนินอก, ท้องแขน, หน้าท้อง, หัวเข่า
- รอยแผลเป็นและหลุมสิว
Profhilo เหมาะกับใคร?
Profhilo จะเหมาะกับคนในกลุ่มต่อไปนี้ค่ะ
- ผู้ที่มีผิวหย่อนคล้อย ขาดความเต่งตึง, กระชับ, ยืดหยุ่น
- ผู้ที่มีผิวแห้ง หยาบกร้าน และต้องการเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว
- ผู้ที่มีริ้วรอยและรอยเหี่ยวย่นบนใบหน้าหรือลำคอ รวมถึงมีเส้นที่คอ
- ผู้ที่มีปัญหาสีผิวไม่สม่ำเสมอ มีรูขุมขนกว้าง
- ผู้ที่มีหลุมสิว ผิวหน้าไม่เรียบเนียน รวมถึงมีรอยแผลเป็น
- ผู้ที่ต้องการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในระยะยาว
- ผู้ที่ต้องฟื้นบำรุงผิวจากภายใน เพื่อให้ผิวแข็งแรงและมีสุขภาพดี
- ผู้ที่มีอายุมากขึ้น แล้วมีปัญหาผิวเสื่อมสภาพ ทำให้หน้าโทรม
- ผู้ที่มีปัญหาหน้าแก่ก่อนวัย แล้วต้องการให้ใบหน้ากลับมาสดใส และดูอ่อนเยาว์
- ผู้ที่กลัวเจ็บ เพราะมีจำนวนจุดฉีดน้อย และตัวยาฉีดแล้วไม่แสบ ไม่จำเป็นต้องแปะยาชา
ถ้ายังไม่แน่ใจว่า Profhilo จะเหมาะกับคุณหรือไม่? คุณสามารถจองรับคำปรึกษากับเราฟรี เพื่อรับแผนการรักษาจากการประเมินของแพทย์ ที่ออกแบบมาเพื่อคุณโดยเฉพาะ
ขั้นตอนการฉีด Profhilo
Profhilo จะมีเทคนิคการฉีดที่เรียกว่า BAP ค่ะ ตามที่ได้กล่าวไปในข้างต้น แต่ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องฉีดตามเทคนิคนี้เสมอไป เพราะ Profhilo สามารถใช้ฉีดในบริเวณอื่น เพื่อแก้ปัญหาของบริเวณนั้นโดยเฉพาะได้ ขึ้นอยู่กับการพิจารณาตามความเหมาะสมของแพทย์
หากเป็นการฉีดตามเทคนิค BAP ก็จะใช้เวลาเพียงแค่ประมาณ 10 – 15 นาทีค่ะ แต่หากคนไข้กลัวเจ็บ และเลือกที่จะแปะยาชา ก็จะต้องรวมระยะเวลาที่รอยาชาออกฤทธิ์ด้วย หรือหากมีการฉีดในบริเวณอื่นเพิ่มเติม / ฉีดในปริมาณที่มากกว่า 1 ไซริงค์ ก็จะใช้เวลานานขึ้นค่ะ
เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ภายหลังการรักษาที่ชัดเจนและมีประสิทธิภาพ แนะนำให้คนไข้มาฉีด Profhilo อย่างน้อย 2 ครั้งค่ะ โดยเว้นระยะห่างระหว่างเข็มแรกกับเข็มที่ 2 เป็นเวลา 30 วัน จากนั้นหากต้องการคงสภาพผลลัพธ์ภายหลังการรักษา ก็แนะนำให้กลับมาฉีดซ้ำในทุก ๆ 6 เดือน แต่หากเป็นคนไข้ที่มีปัญหา เช่น มีหลุมสิวเยอะ และต้องการรักษาหลุมสิวโดยเฉพาะ ก็อาจจะต้องมาฉีด 3 ครั้ง หรือใช้การฉีดครั้งที่ 3 เพื่อกระตุ้นให้ได้ผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้น ขึ้นอยู่กับการประเมินของแพทย์ค่ะ
ภายหลังจากฉีด Profhilo แล้ว คนไข้จะรู้สึกว่าผิวชุ่มชื้นและฉ่ำวาวขึ้นในวันต่อมาค่ะ หลังจากนั้นประมาณ 1 สัปดาห์จะเริ่มเห็นว่าผิวเฟิร์มและกระชับขึ้น จนเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนเมื่อเวลาผ่านไปประมาณ 2 – 4 สัปดาห์ โดยผลลัพธ์ที่ได้อาจจะแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคลนะคะ
Profhilo อยู่ได้นานแค่ไหน?
ตามปกติแล้ว หากคนไข้ฉีด Profhilo ครบ 2 ครั้ง ตามระยะเวลาที่กำหนด ผลลัพธ์ก็จะอยู่ได้นานประมาณ 6 – 12 เดือนค่ะ โดยระยะเวลาของผลลัพธ์ก็จะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น อายุและสภาพผิวของคนไข้ รวมถึงการดูแลตัวเองหลังฉีดด้วยค่ะ
ก่อนและหลังการฉีด Profhilo
วิธีการเตรียมตัวก่อนฉีด Profhilo และวิธีการดูแลตัวเองหลังฉีด Profhilo มีดังนี้ค่ะ
วิธีการเตรียมตัวก่อนฉีด Profhilo
- เตรียมข้อมูลสุขภาพไปแจ้งกับแพทย์ เช่น โรคที่กำลังรักษาอยู่, โรคประจำตัว, ยาที่กำลังรับประทาน, ยาที่กินเป็นประจำ, ยาที่แพ้
- งดการกินยา, วิตามิน, อาหารเสริม, สมุนไพรบางชนิด ที่ส่งผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น แอสไพริน, ไอบูโพรเฟน, วาร์ฟาริน, NSAIDs, วิตามินอี, น้ำมันปลา, น้ำมันพริมโรส, กิงโกะ ประมาณ 1 สัปดาห์
- หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนัก ๆ หรือกิจกรรมที่ทำให้เลือดสูบฉีดแรง อย่างน้อย 1 – 2 วัน
- หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์หรือสูบบุหรี่ อย่างน้อย 24 ชม.
วิธีการดูแลตัวเองหลังฉีด Profhilo
- หลีกเลี่ยงการสัมผัส, กด, นวด, ถู, เกา ในบริเวณที่ฉีด
- งดการแต่งหน้าและทาครีมอย่างน้อย 24 ชม.
- งดการออกกำลังกาย, เล่นกีฬา, หรือการทำกิจกรรมหนัก ๆ ที่จะทำให้เหงื่อออกมาก อย่างน้อย 48 ชม.
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับความร้อน เช่น การอาบน้ำร้อน, การซาวน่า, การอบไอน้ำ อย่างน้อย 48 ชม.
- งดการดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่ อย่างน้อย 1 – 2 วัน
- งดการนวดหน้า, ทำทรีตเมนต์, ขัดผิว ประมาณ 1 สัปดาห์
- หมั่นสังเกตอาการของตัวเอง และรีบกลับมาพบแพทย์หากมีความผิดปกติใด ๆ เกิดขึ้น
Profhilo อันตรายไหม?
Profhilo ได้รับอนุญาตจากอย.ของไทย ให้ใช้ฉีดบริเวณใบหน้ากับลำคอ สำหรับแก้ไขความหย่อนคล้อยของผิวหนัง รวมถึงฉีดเพื่อรักษาหลุมสิว และได้รับรางวัล Aesthetics Awards จากสหราชอาณาจักร ติดต่อกันถึง 4 ปีซ้อน (2016 – 2019) คนไข้จึงมั่นใจได้ว่า Profhilo เป็นตัวยาที่มีความปลอดภัย และสามารถใช้ในการเสริมความงามได้โดยไม่ก่อให้เกิดผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายต่อร่างกายค่ะ
ทั้งนี้ เนื่องจาก Profhilo เป็นตัวยาที่ไม่กระตุ้นให้เกิดการอักเสบ หลังฉีดจึงมักจะไม่เกิดอาการบวม แต่อาจจะมีตุ่มคล้ายยุงกัด ซึ่งจะหายไปเองใน 24 ชม. หรือหากเป็นการฉีดที่คอแล้วมีตุ่มขึ้น ก็จะหายไปเองใน 1 – 2 วันค่ะ
แม้ว่า Profhilo จะเป็นตัวยาที่มีความปลอดภัย แต่ก็ไม่เหมาะกับการฉีดในคนบางกลุ่มค่ะ เช่น คุณแม่ที่อยู่ในระหว่างการตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร รวมถึงคนที่แพ้ HA หรือมีปัญหาสุขภาพบางประการ ซึ่งจะขอแนะนำให้คนไข้เข้ามาพบแพทย์ที่ KKC Clinic ก่อนนะคะ เพื่อให้แพทย์ช่วยแนะนำแนวทางการรักษาที่เหมาะสมต่อไปค่ะ
Profhilo ราคาเท่าไหร่?
การฉีด Profhilo บริเวณใบหน้าจำนวน 1 ครั้ง / ใช้ 1 ไซริงค์ (2 ml.) จะมีราคาอยู่ที่ 30,000 บาทค่ะ แต่หากเป็นการฉีดบริเวณใบหน้าและลำคอ จำนวน 1 ครั้ง / ใช้ 2 ไซริงค์ (4 ml.) จะมีราคาอยู่ที่ 55,000 บาทค่ะ
คุณสามารถจองรับคำปรึกษากับเราฟรี เพื่อรับใบเสนอราคาที่จัดเตรียมมาให้เหมาะกับเป้าหมายและแผนการรักษาของคุณโดยเฉพาะ
เปรียบเทียบ Profhilo กับโปรแกรมฉีดอื่น ๆ
นอกจาก Profhilo แล้ว ที่ KKC Clinic ยังมีโปรแกรมฉีดให้เลือกอีกหลากหลายเลยค่ะ เพื่อให้ตอบโจทย์ต่อปัญหาและความต้องการของคนไข้ โดยในหัวข้อนี้ เราจะมาเปรียบเทียบความแตกต่างระหว่าง Profhilo และโปรแกรมฉีดอื่น ๆ ที่ได้รับความนิยมกันค่ะ
Profhilo vs. ฟิลเลอร์ (Filler)
แม้ว่าจะมีส่วนประกอบเป็น HA เหมือนกัน แต่ HA ใน Profhilo จะเป็น Non-Crosslinked HA ที่ใช้การเชื่อมพันธะด้วยเทคโนโลยี NAHYCO ทำให้ได้ออกมาเป็น HCC โดยตัวยาจะมีลักษณะเป็นของเหลว ความหนืดต่ำ ไม่สามารถใช้ฉีดเพื่อเพิ่มวอลลุ่มได้ แต่จะใช้ฉีดเพื่อพื้นบำรุงผิว ในขณะที่ HA ในฟิลเลอร์จะเป็น Crosslinked HA ที่ใช้การเชื่อมพันธะด้วยองค์ประกอบทางเคมี ทำให้มีความหนืดและความคงตัวมากกว่า สามารถตั้งเป็นทรงได้ จึงใช้ฉีดเพื่อการเติมเต็ม เพิ่มวอลลุ่ม รวมถึงเพื่อยกกระชับและปรับรูปหน้า โดยที่ KKC Clinic จะมีเทคนิคในการฉีดฟิลเลอร์ที่เรียกว่า Asian MD Codes ค่ะ
Profhilo vs. Sculptra
Profhilo กับ Sculptra นับว่าเป็นตัวยาที่คล้ายคลึงกัน เพราะช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนเหมือนกัน แต่ Profhilo จะมีส่วนประกอบเป็น HA ที่เป็น HCC สามารถใช้ฉีดเพื่อฟื้นบำรุงเซลล์ผิวได้ในทุก ๆ ชั้น รวมถึงช่วยให้ผิวชุ่มชื้น อิ่มฟู และเรียบเนียน จึงถูกนิยามว่าเป็น Bio-Remodeling ในขณะที่ Sculptra จะมีส่วนประกอบเป็น PLLA เน้นฉีดเพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในผิวชั้นลึก ช่วยให้ผิวมีความแน่นและเฟิร์มมากขึ้น รวมถึงแก้ปัญหาในบริเวณที่ซูบตอบและยกกระชับได้เล็กน้อย โดยจัดอยู่ในกลุ่ม Collagen Biostimulator
Profhilo vs. Radiesse & Radiesse (+)
Profhilo มีความคล้ายคลึงกับ Radiesse ตรงที่ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนเหมือนกัน แต่แตกต่างตรงที่ Profhilo จะมีส่วนประกอบเป็น HA ที่เป็น HCC สามารถใช้ฉีดเพื่อฟื้นบำรุงเซลล์ผิวได้ในทุก ๆ ชั้น รวมถึงช่วยให้ผิวชุ่มชื้น อิ่มฟู และเรียบเนียน จึงถูกนิยามว่าเป็น Bio-Remodeling ในขณะที่ Radiesse จะมีส่วนประกอบเป็น CaHA และ HA สามารถใช้ฉีดเพิ่มวอลลุ่มในระยะสั้น และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในระยะยาว จัดอยู่ในกลุ่ม Collagen Biostimulator ส่วน Radiesse (+) จะเน้นฉีดเพื่อยกกระชับและปรับกรอบหน้าให้คมชัด
Profhilo vs. Skinvive
Profhilo กับ Skinvive เป็นตัวยาที่ค่อนข้างแตกต่างกัน โดย Profhilo จะถูกนิยามว่าเป็น Bio-Remodeling เพราะมีส่วนประกอบเป็น HA ที่เป็น HCC ซึ่งช่วยทั้งเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว ทำให้ผิวยืดหยุ่นและเรียบเนียน ในขณะเดียวกันก็ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในระยะยาวด้วย แต่ Skinvive จัดอยู่ในกลุ่ม Skin Booster มีส่วนประกอบเป็น HA ที่เล็กระดับไมโคร เน้นในเรื่องของการเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว ช่วยให้ผิวฉ่ำน้ำ อิ่มฟู และเปล่งประกาย หรือที่เรียกกันว่า ‘ผิววิบ’ และไม่ได้ช่วยในเรื่องของการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน
ฉีด Profhilo ที่ไหนดี?
หากคนไข้สนใจที่จะฉีด Profhilo ก็ขอแนะนำให้มาฉีดที่ KKC Clinic ด้วยเหตุผลดังต่อไปนี้ค่ะ
- ทีมแพทย์มีความชำนาญในการรักษาด้วยโปรแกรมฉีดที่มีเทคนิคแตกต่างกันไป อีกทั้งยังผ่านการเทรนเทคนิคการฉีด Profhilo กับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศ
- มีโปรแกรมการฉีดให้เลือกหลากหลาย โดยทีมแพทย์ของเราจะออกแบบแผนการรักษาให้กับคนไข้แต่ละคนโดยเฉพาะ และเลือกใช้โปรแกรมที่เหมาะกับความต้องการและปัญหาของคนไข้ที่แตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล
- KKC Clinic นำเข้าตัวยาใหม่ ๆ และเครื่องมือที่มีเทคโนโลยีทันสมัยอยู่เสมอ เพื่อให้คนไข้ได้รับการรักษาด้วยโปรแกรมที่มีประสิทธิภาพ ได้ผลลัพธ์ที่ดี รวมถึงมีความสะดวกสบาย
- นอกจาก Profhilo แล้ว เรายังมีรีวิวผลลัพธ์ในโปรแกรมการรักษาอื่น ๆ จากคนไข้ที่มาใช้บริการจริง และรู้สึกพึงพอใจ
- KKC Clinic มีที่ตั้งหลายสาขาในกรุงเทพฯ ซึ่งง่ายต่อการเดินทางไม่ว่าจะด้วยรถส่วนตัวหรือขนส่งสาธารณะ
Profhilo เป็นตัวยาที่จะช่วยฟื้นบำรุงเซลล์ในทุกชั้นผิว และกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนในระยะยาว นับว่าเป็นโปรแกรมการรักษาที่เหมาะสำหรับคนไข้ที่มีอายุมาก และประสบปัญหาผิวหย่อนคล้อย รวมถึงคนไข้ที่อายุน้อย แต่ต้องการปรับปรุงให้ผิวมีคุณภาพที่ดีขึ้นและแข็งแรงขึ้นตั้งแต่ชั้นโครงสร้าง
หากคนไข้สนใจที่จะฉีด Profhilo ก็สามารถนัดหมายเพื่อปรึกษาแพทย์ของ KKC Clinic ได้ฟรี! ตั้งแต่วันนี้ ทั้งช่องทางออนไลน์หรือเข้าไปที่คลินิกทุกสาขา แล้วมาสัมผัสประสบการณ์ใหม่ในการฟื้นบำรุงผิวกับ Profhilo ไปด้วยกันนะคะ