Skinvive ตัวช่วยให้ผิวอิ่มน้ำและชุ่มชื้นอย่างยาวนาน

ผู้หญิงที่มีผิวเนียนใสกำลังสัมผัสใบหน้าของตนเองเบา ๆ ด้วยท่าทางผ่อนคลาย โปรแกรม Skinvive เพื่อความชุ่มชื้นยาวนานอยู่ทางซ้ายพร้อมกับกล่องผลิตภัณฑ์และเข็มฉีดยาทางขวา

หากอยากมีผิวโกลว์ใส เล่นแสง หรือผิวฉ่ำวาวแบบ glass skin การบำรุงผิวให้มีความเนียนนุ่มและชุ่มชื้นอยู่เสมอย่อมเป็นสิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้ โชคดีที่ในปัจจุบันเรามีผลิตภัณฑ์ซึ่งช่วยในการปูพื้นฐานให้ผิวมีสุขภาพดีจากภายในอย่าง Skinvive ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยในการเติมความชุ่มชื้นให้กับผิว อีกทั้งยังช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นในผิวให้คงอยู่อย่างยาวนาน โดย Skinvive เป็นผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการรับรองจากอย.ของประเทศสหรัฐอเมริกา (USFDA) จึงเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีความปลอดภัย

Skinvive คืออะไร?

Skinvive (สกิน – วิบ หรือ สกิน – วิฟฟ์) คือ skin booster ในลักษณะของสารเติมเต็มรูปแบบฉีดที่จัดอยู่ในกลุ่มงานผิว (skin quality) โดยมีส่วนประกอบหลักเป็นกรดไฮยาลูรอนิก (Hyaluronic Acid – HA) ที่มีโมเลกุลขนาดเล็กในระดับไมโคร (Microdroplet) ซึ่งความพิเศษคือ Skinvive มีงานวิจัยรับรองว่าสามารถเพิ่ม Aquaporin3 (AQP-3) ที่เปรียบเสมือนประตูน้ำของผิวได้จริง นอกจากนี้ ใน Skinvive ยังมีส่วนประกอบของยาชา (Lidocaine) ที่จะช่วยลดความเจ็บปวดขณะฉีดอีกด้วย

Skinvive มีความแตกต่างจากฟิลเลอร์ (Filler) ทั่วไปตรงที่ Skinvive จะใช้กรดไฮยาลูรอนิกในลักษณะของเนื้อเจลนิ่ม ๆ เพราะมีจุดประสงค์ในการเพิ่มความชุ่มชื้นและทำให้ผิวมีคุณภาพดีขึ้น แตกต่างจากฟิลเลอร์ทั่วไปซึ่งใช้กรดไฮยาลูรอนิกในลักษณะของเนื้อเจลที่มีความแข็งกว่า เพราะมักมีจุดประสงค์เพื่อใช้ในการเติมเต็มนั่นเอง

ทั้งนี้ โปรแกรมฉีด Skinvive สามารถเป็นหัตถการเพื่องานผิวที่ทุกคนเลือกฉีดเป็นเข็มแรก เนื่องจาก Skinvive เหมาะสำหรับการทำเป็นหัตถการพื้นฐานก่อนการทำหัตถการอื่น ๆ เพราะจะช่วยป้องกันปัญหาบางประการที่อาจพบได้เมื่อทำหัตถการบางประเภท เช่น ปัญหาผิวแห้งจากการยิงเลเซอร์ (Laser) หรือจะใช้เป็นหัตถการเพื่อดูแลและแก้ปัญหาหลังทำหัตถการบางประเภทก็ได้เช่นกัน เช่น แก้ปัญหาผิวแห้งภายหลังจากการทำหัตถการยกกระชับใบหน้า รวมถึงเป็นการเตรียมความพร้อมให้ผิวเพื่อที่จะทำให้การทำหัตถการอื่น ๆ ได้รับผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เช่น การฉีดโบท็อกซ์ หรือการฉีดฟิลเลอร์ (Filler)

หลักการทำงานของ Skinvive

กล่องผลิตภัณฑ์สีฟ้าอยู่ตรงกลางพร้อมแบรนด์ Skinvive มีฟองอากาศสามฟองเน้นส่วนประกอบสำคัญ ได้แก่ Hyaluronic Acid, Glycerin และตัวช่วยเพิ่ม AQP3

อย่างที่ทุกท่านทราบกันดีว่า การฉีดสารเติมเต็มที่เป็นกรดไฮยาลูรอนิก (Hyaluronic Acid – HA) จะช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน เปรียบเสมือนการเติมน้ำให้กับผิว ช่วยให้ผิวมีความชุ่มชื้น เนียนนุ่ม และยืดหยุ่นมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ การที่โมเลกุลของกรดไฮยาลูรอนิกใน Skinvive มีขนาดเล็กมาก ๆ ก็จะช่วยให้สามารถกระจายตัวและแทรกซึมลงสู่ชั้นผิวได้อย่างล้ำลึก อีกทั้งยังช่วยให้อุ้มน้ำและกลืนไปกับผิวได้ดีกว่ากรดไฮยาลูรอนิกทั่วไป

นอกจากนี้ กรดไฮยาลูรอนิกใน Skinvive ยังสามารถเพิ่ม Aquaporin 3 (AQP-3) ที่เปรียบเสมือนประตูน้ำซึ่งกั้นอยู่ระหว่างผิวหนังชั้นหนังแท้ (Dermis) กับผิวหนังชั้นหนังกำพร้า (Epidermis) เมื่อประตูน้ำเปิดมากขึ้น ก็จะส่งผลให้มีการส่งผ่านน้ำและ Glycerin หรือ Glycerol ออกสู่ผิวชั้นนอกมากขึ้น ซึ่ง Glycerin ก็เป็นโปรตีนที่เปรียบเสมือนถังเก็บน้ำที่ช่วยกักเก็บน้ำไว้ในผิว ดังนั้น การฉีด Skinvive หรือการวิบผิวด้วย Skinvive จึงช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว ช่วยให้ผิวกักเก็บน้ำได้มากขึ้น และยังช่วยให้มีการส่งผ่านน้ำออกมาสู่ผิวชั้นนอกได้มากยิ่งขึ้น จึงทำให้ผิวของเรามีความอิ่มน้ำ ชุ่มชื้น กระจ่างใส เปล่งประกาย และมีสุขภาพดีจากภายในอย่างแท้จริง ให้ผิวโกลว์ใส เล่นแสง หรือที่เราเรียกกันว่า ‘ผิววิบ’ นั่นเอง

Skinvive ช่วยเรื่องอะไรบ้าง?

การฉีด Skinvive มีประโยชน์และข้อดี ดังนี้

  • ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงทำให้ผิวมีความฉ่ำน้ำและอิ่มฟู
  • ช่วยให้ผิวมีความกระจ่างใส เปล่งประกาย และฉ่ำวาว
  • ช่วยลดความมันบนใบหน้า
  • ช่วยลดเลือนริ้วรอยเล็ก ๆ
  • ช่วยลดรอยแดงและรอยดำ
  • ช่วยลดความหมองคล้ำใต้ตา
  • ช่วยกระชับรูขุมขน และทำให้ผิวมีความเต่งตึง
  • ช่วยให้ผิวมีความนุ่มและเรียบเนียน
  • ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับผิว ทำให้ผิวแลดูอ่อนเยาว์
  • ช่วยปรับสภาพผิวให้ผิวมีคุณภาพที่ดีขึ้นอย่างยาวนาน
  • ช่วยให้ผิวแข็งแรงขึ้น แก้ปัญหาผิวบอบบางและแพ้ง่าย
  • ช่วยฟื้นบำรุงให้ผิวมีสุขภาพดีจากภายในอย่างแท้จริง
  • ช่วยแก้ปัญหาผิวขาดน้ำ แห้งกร้าน หมองคล้ำ และไม่เรียบเนียน
  • ช่วยให้เครื่องสำอางติดทนบนใบหน้ามากยิ่งขึ้น
  • ช่วยทำให้ใบหน้าดูสดใสและมีชีวิตชีวา แก้ปัญหาหน้าโทรมที่ทำให้ใบหน้าดูแก่ก่อนวัย

ใครบ้างที่ควรฉีด Skinvive?

กล่องผลิตภัณฑ์สีฟ้าอยู่ตรงกลางพร้อมแบรนด์ Skinvive รอบๆ กล่องมีกรอบเล็กๆ ที่แสดงสภาพผิวต่าง ๆ ได้แก่ ผิวหน้าแห้งกร้าน รูขุมขนกว้าง ผิวหมองคล้ำ ริ้วรอยร่องเล็ก และแต่งหน้าไม่ติด

จุดเด่นของ Skinvive คือเป็นโปรแกรมที่เหมาะกับทุกสภาพผิว ไม่ว่าจะเป็นผิวแห้ง ผิวมัน หรือผิวผสม อีกทั้งยังเป็นโปรแกรมที่เหมาะสำหรับกลุ่มคนเหล่านี้

  • ผู้ที่มีผิวแห้ง เป็นขุย ขาดน้ำ แล้วต้องการเติมความชุ่มชื้นให้ผิว เพื่อให้ผิวมีความฉ่ำน้ำและอิ่มฟู
  • ผู้ที่ต้องการมีผิวกระจ่างใส เปล่งประกาย และฉ่ำวาว
  • ผู้ที่มีผิวหน้ามัน
  • ผู้ที่ต้องการลดเลือนริ้วรอยเล็ก ๆ รวมถึงรอยแดงและรอยดำจากสิว
  • ผู้ที่มีใต้ตาดำคล้ำ
  • ผู้ที่มีรูขุมขนกว้าง ผิวขาดความกระชับและเต่งตึง
  • ผู้ที่ผิวขาดความยืดหยุ่น ไม่นุ่ม และไม่เรียบเนียน
  • ผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย อ่อนแอ ไม่แข็งแรง สุขภาพและคุณภาพผิวไม่ดี
  • ผู้ที่แต่งหน้าแล้วเครื่องสำอางไม่ติดอยู่บนผิว
  • ผู้ที่มีหน้าโทรมและหน้าแก่ก่อนวัย
  • ผู้ที่ต้องการเตรียมผิวหน้าให้พร้อมก่อนการทำหัตถการต่าง ๆ เพื่อให้การทำหัตถการได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
  • ผู้ที่ต้องการดูแลและแก้ปัญหาผิวภายหลังการทำหัตถการต่าง ๆ
  • ผู้ที่ต้องการการฟื้นบำรุงผิวอย่างล้ำลึกและเร่งด่วน ด้วยวิธีที่เห็นผลลัพธ์ชัดเจน อยู่ได้นาน ไม่ต้องใช้เวลาพักฟื้น และมีความปลอดภัย

ทั้งนี้ การฉีด Skinvive จะไม่เหมาะสำหรับกลุ่มคนบางประเภท เช่น ผู้ที่แพ้กรดไฮยาลูรอนิก (Hyaluronic Acid – HA) หรือยาชา (Lidocaine), หญิงที่อยู่ในระหว่างการตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร, ผู้ที่มีผื่นลมพิษหรือมีการติดเชื้อในบริเวณที่จะฉีด Skinvive ทั้งนี้ หากไม่แน่ใจว่าตนเองเหมาะกับโปรแกรมฉีด Skinvive หรือไม่ แนะนำให้คนไข้มาเข้ารับคำปรึกษาจากแพทย์

การฉีด Skinvive ต้องใช้จำนวนกี่ cc?

ตามปกติแล้ว การฉีด Skinvive ควรใช้ที่ประมาณ 2 – 4 cc ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและปัญหาผิวที่แตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ทั้งนี้ หากต้องการทราบจำนวนที่แน่นอน ควรมาเข้ารับการประเมินจากแพทย์

ผลลัพธ์ภายหลังการฉีด Skinvive

ภาพเปรียบเทียบผิวของผู้หญิงก่อนและหลังการรับการรักษา Skinvive โดยแสดงความเปลี่ยนแปลงจากผิวที่มีสิวและหมองคล้ำไปเป็นผิวที่เรียบเนียนและกระจ่างใสขึ้น
ก่อนทำ – หลังทำ 7 วัน – หลังทำ 14 วัน

การฉีด Skinvive จะสามารถเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ฉีด โดยจะเห็นถึงผลลัพธ์ที่ชัดเจนเต็มที่ภายในระยะเวลา 7 – 14 วัน และผลลัพธ์จะคงอยู่ได้นานถึง 9 เดือน ทั้งนี้ เพื่อคงผลลัพธ์ภายหลังการรักษาไว้ แนะนำให้คนไข้มาเข้ารับโปรแกรมฉีด Skinvive ทุก ๆ 6 – 9 เดือน

การดูแลตัวเองภายหลังการฉีด Skinvive

ภายหลังจากการฉีด Skinvive คนไข้ควรปฏิบัติตามวิธีการดูแลตัวเองดังนี้

  • หลีกเลี่ยงการสัมผัส กด หรือนวดในบริเวณที่ฉีดทันที อย่างน้อย 24 ชม. ภายหลังจากการฉีด 
  • งดออกกำลังกายหนัก ๆ อย่างน้อย 24 ชม. ภายหลังจากการฉีด 
  • งดดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 24 ชม. ภายหลังจากการฉีด 
  • หลีกเลี่ยงการแต่งหน้า อย่างน้อย 24 ชม. ภายหลังจากการฉีด 
  • หลีกเลี่ยงการกินอาหารที่ต้องอยู่หน้าเตาร้อน ๆ เช่น หมูกระทะ ปิ้งย่าง ชาบู อย่างน้อย 48 ชม. ภายหลังจากการฉีด 
  • หลีกเลี่ยงการให้ใบหน้าสัมผัสกับแสงแดดตรง ๆ หรือการอยู่ในสถานที่ที่มีอากาศร้อน ๆ เช่น กลางแจ้ง ซาวน่า ออนเซ็น อย่างน้อย 14 วัน ภายหลังจากการฉีด 
  • งดทำหัตถการบางประเภท เช่น การยิงเลเซอร์ อย่างน้อย 14 วัน ภายหลังจากการฉีด หรือเว้นระยะตามคำแนะนำของแพทย์
  • หมั่นทาครีมกันแดดและครีมบำรุงที่เหมาะกับสภาพผิวเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ
  • ดื่มน้ำเปล่ามาก ๆ อย่างน้อยวันละ 8 – 12 แก้ว และนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
  • ปฏิบัติตามคำแนะนำอื่น ๆ ของแพทย์อย่างเคร่งครัด และรีบกลับมาพบแพทย์หากมีอาการผิดปกติใด ๆ เกิดขึ้น

ผลข้างเคียงจากการฉีด Skinvive

การฉีด Skinvive อาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงเล็กน้อยที่สามารถพบได้ทั่วไป เช่น มีรอยแดงหรือรอยช้ำ มีอาการบวมหรือตุ่มนูน รวมถึงรู้สึกคัน เจ็บ ปวด และตึงในบริเวณที่ฉีด ซึ่งอาการเหล่านี้จะเกิดขึ้นเพียงชั่วคราวและสามารถหายได้เองภายในระยะเวลา 7 วัน

Skinvive แตกต่างจากโปรแกรมฉีดอื่น ๆ อย่างไร?

โปรแกรมฉีด Skinvive มีความแตกต่างจากโปรแกรมฉีดอื่น ๆ ดังตัวอย่างที่กล่าวมานี้

ความแตกต่างระหว่าง Skinvive กับฟิลเลอร์

ผู้หญิงที่หลับตากำลังรับการฉีดฟิลเลอร์บริเวณร่องแก้มที่ KKC Clinic โดยผู้เชี่ยวชาญที่สวมถุงมือ

ถึงจะมีส่วนประกอบหลักเป็นกรดไฮยาลูรอนิก (Hyaluronic Acid – HA) เหมือนกัน แต่ Skinvive จะมีความแตกต่างจากฟิลเลอร์ (Filler) ตรงที่ Skinvive จะเน้นเรื่องการให้ผลลัพธ์ของการปรับปรุงคุณภาพผิว โดยเฉพาะการเพิ่มความชุ่มชื้น ขณะที่ฟิลเลอร์มักจะเน้นไปที่เรื่องของการเติมเต็มริ้วรอยและร่องลึกต่าง ๆ อีกทั้งยังสามารถใช้ฉีดเพื่อยกกระชับและปรับกรอบหน้าให้คมชัดได้อีกด้วย เพราะ Skinvive มีโมเลกุลของกรดไฮยาลูรอนิกที่เล็กถึงระดับไมโคร อีกทั้งยังมีลักษณะเป็นเจลเนื้อนิ่ม ไม่สามารถปั้นให้ขึ้นทรงได้ตามต้องการ

ความแตกต่างระหว่าง Skinvive กับโบท็อกซ์

ผู้รับบริการที่หลับตากำลังได้รับการฉีดลดริ้วรอยบริเวณขมับจากผู้เชี่ยวชาญที่สวมถุงมือ ขณะรับการรักษาทางความงามที่ KKC Clinic

Skinvive มีความแตกต่างกับโบท็อกซ์ ค่อนข้างมาก เพราะ Skinvive มีส่วนประกอบหลักเป็นกรดไฮยาลูรอนิก (Hyaluronic Acid – HA) ที่จะช่วยในเรื่องของงานผิว ให้ผิวมีความอิ่มน้ำ ฉ่ำลึก และชุ่มชื้นนาน โดยจะได้ผลดีที่สุดเมื่อฉีดเข้าที่ผิวหนังชั้นหนังแท้ ในขณะที่โบท็อกซ์เป็นสาร โบทูลินั่ม ท็อกซิน ที่จะช่วยในเรื่องของการลดเลือนริ้วรอยต่าง ๆ อีกทั้งยังสามารถฉีดเพื่อปรับรูปหน้าให้เรียวเล็ก รวมถึงยกกระชับและทำให้กรอบหน้ามีความคมชัดมากยิ่งขึ้น โดยโบท็อกซ์จะฉีดเข้าไปในชั้นของกล้ามเนื้อ เพราะโบท็อกซ์จะทำงานโดยออกฤทธิ์เพื่อลดการหดเกร็งของกล้ามเนื้อ และทำให้กล้ามเนื้อคลายตัวลงนั่นเอง

ความแตกต่างระหว่าง Skinvive กับ Sculptra

ผู้หญิงกำลังรับการฉีด Sculptra บริเวณแก้มที่ KKC Clinic โดยผู้เชี่ยวชาญที่สวมถุงมือ

แม้จะช่วยในเรื่องของการปรับปรุงคุณภาพผิวเหมือนกัน แต่ Skinvive จะแตกต่างกับ Sculptra ตรงที่ Skinvive มีส่วนประกอบหลักเป็นกรดไฮยาลูรอนิก (Hyaluronic Acid – HA) ในขณะที่ Sculptra จะมีส่วนประกอบหลักเป็น Poly-L-Lactic Acid (PLLA) ซึ่งสามารถกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน Type 1 ซึ่งนอกจากจะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น ทำให้ผิวกระจ่างใสและเรียบเนียนเหมือนกับ Skinvive แล้ว Sculptra ยังช่วยฟื้นฟูโครงสร้างผิวชั้นลึก ยกกระชับใบหน้า แก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อย รวมถึงลดริ้วรอยและร่องลึกต่าง ๆ ได้อีกด้วย

ความแตกต่างระหว่าง Skinvive กับ Rejuran

Skinvive นับว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่ให้ผลลัพธ์ต่าง ๆ ค่อนข้างคล้ายคลึงกับ Rejuran แต่จะมีความแตกต่างตรงที่ส่วนประกอบ ซึ่งส่วนประกอบหลักของ Skinvive คือกรดไฮยาลูรอนิก (Hyaluronic Acid – HA) ในขณะที่ Rejuran จะเป็นสาร Polynucleotide (PN) ความเข้มข้น 2% ซึ่งเป็นสารสกัดจากอสุจิของปลาแซลมอน

การฉีด Skinvive ร่วมกับการทำหัตถการอื่น ๆ

ผู้ชายที่หลับตากำลังรับการรักษา Thermage ที่ KKC Clinic โดยผู้เชี่ยวชาญที่ใช้เครื่องมือพกพาขณะสวมถุงมือ

โปรแกรมฉีด Skinvive สามารถทำร่วมกับโปรแกรมหัตถการอื่น ๆ ได้ โดยจะขอยกตัวอย่างการฉีด Skinvive ร่วมกับการทำหัตถการอื่น ๆ ดังนี้

  • การฉีด Skinvive ร่วมกับการฉีดโบท็อกซ์ โดย Skinvive จะช่วยให้ผิวมีความชุ่มชื้น กระจ่างใส เรียบเนียน และยังช่วยลดเลือนริ้วรอยเล็ก ๆ บนใบหน้า ที่ลำพังแค่การฉีดโบท็อกซ์เพียงอย่างเดียวอาจจะลดเลือนได้ไม่มากนัก
  • การฉีด Skinvive หลังจากการยิงเลเซอร์และการใช้เครื่องยกกระชับต่าง ๆ เช่น Ultherapy หรือ Thermage โดย Skinvive จะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว ป้องกันไม่ให้ผิวสูญเสียความชุ่มชื้นหรือเกิดเป็นปัญหาผิวแห้งเพราะความร้อนจากการทำหัตถการเหล่านี้
  • การฉีด Skinvive ก่อนฉีด biostimulator อื่น ๆ เพื่อช่วยให้ biostimulator นั้น ๆ ออกฤทธิ์ได้ดียิ่งขึ้น เช่น Sculptra

ทั้งนี้ หากคนไข้ต้องการฉีด Skinvive ร่วมกับการทำหัตถการอื่น ๆ แนะนำให้เข้ารับคำปรึกษาจากแพทย์ก่อน เพื่อให้แพทย์พิจารณาว่าจะสามารถทำร่วมกันได้หรือไม่ รวมถึงสามารถทำพร้อมกันในวันเดียว หรือเว้นระยะก่อน – หลังกี่วันถึงจะทำได้ 

ค่าใช้จ่ายในการฉีด Skinvive

ค่าใช้จ่ายสำหรับโปรแกรมฉีด Skinvive ที่ KKC Clinic จำนวน 1 cc มีราคาอยู่ที่ 12,500 บาท

ทำไมต้องฉีด Skinvive ที่ KKC Clinic?

พญ.ของขวัญ ฟูจิตนิรันดร์ กำลังพูดผ่านไมโครโฟนขณะนั่งบนเวทีในงาน Skinvive โดยสวมเสื้อเบลเซอร์สีขาวและกระโปรงสีเทาอ่อน

สำหรับผู้ที่มีคำถามว่า “ควรฉีด Skinvive ที่ไหนดี?” คำตอบก็คือ ต้องพิจารณาจากหลักเกณฑ์หลาย ๆ อย่างประกอบกัน เช่น ฉีดกับคลินิกที่ใช้ผลิตภัณฑ์ Skinvive ของแท้ และฉีดโดยแพทย์ที่ผ่านการฝึกอบรมจากบริษัท Allergan รวมถึงฉีดในคลินิกที่ผ่านการรับรองมาตรฐาน

ที่ KKC Clinic เราใช้แต่ผลิตภัณฑ์ Skinvive ของแท้ที่นำเข้าอย่างถูกต้องจากบริษัท Allergan และทีมแพทย์ผู้มากประสบการณ์ของเรายังผ่านการฝึกอบรมเทคนิคการฉีด Skinvive จากบริษัท Allergan เป็นที่เรียบร้อย นอกจากนี้ KKC Clinic ยังเป็นคลินิกที่ผ่านการรับรองมาตรฐานและมีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับทั้งในหมู่ชาวไทยและชาวต่างชาติ ทำให้คนไข้สามารถมั่นใจได้ว่า การฉีด Skinvive กับเราจะมีความปลอดภัย และได้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจ

สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ทีมแพทย์ของ KKC Clinic ทุกคนสามารถให้คำปรึกษาเพื่อเลือกผลิตภัณฑ์และการทำหัตถการที่จะช่วยฟื้นบำรุงและแก้ปัญหาผิวหน้าของคนไข้ได้อย่างตรงจุด เพราะเรามีแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญด้านผลิตภัณฑ์เพื่องานผิวที่มีคุณภาพ เห็นได้จากการที่ ‘พญ.ของขวัญ ฟูจิตนิรันดร์ (คุณหมอของขวัญ)’ ผู้ก่อตั้งและ CEO ของ KKC Clinic ได้รับเชิญให้เป็นหนึ่งในผู้บรรยายของงาน Skinvive Grand Launch ซึ่งเป็นงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ Skinvive ในหัวข้อการใช้ Skinvive ร่วมกับ biostimulator เพื่อผลลัพธ์ของผิวคุณภาพดีที่เหนือกว่า

สรุปเรื่องการฉีด Skinvive

Skinvive เป็นผลิตภัณฑ์เพื่องานผิวตัวใหม่จากบริษัท Allergan ที่จะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว ช่วยให้ผิวมีความอิ่มฟู กระจ่างใส เปล่งประกาย ฉ่ำวาว และเนียนนุ่ม ซึ่ง Skinvive เหมาะสำหรับการเป็นหัตถการเพื่อปรับปรุงคุณภาพผิว ที่สามารถใช้ฉีดได้ทั้งก่อนและหลัง หรือฉีดพร้อมกับการทำหัตถการอื่น ๆ โดยขึ้นอยู่กับการพิจารณาของแพทย์ ทั้งนี้ การฉีด Skinvive เพียง 1 ครั้ง สามารถคงผลลัพธ์ได้นานถึง 9 เดือน นอกจากนี้ ที่ KKC Clinic เรามีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการใช้ Skinvive ร่วมกับ biostimulator ต่าง ๆ เพื่อให้คนไข้ได้รับผลลัพธ์ในเรื่องของงานผิวที่มีประสิทธิภาพสูงสุด