ฉีดฟิลเลอร์กรอบหน้า เพื่อกรอบหน้าที่คมชัด

หากพูดถึงการทำหัตถการอะไรสักอย่างเกี่ยวกับช่วงกรามและกรอบหน้า หลาย ๆ คนก็มักจะนึกถึงการฉีดโบท็อกซ์ให้หน้าเรียวก่อนเลยใช่ไหมคะ แต่ที่จริงแล้วเรายังสามารถฉีดฟิลเลอร์กรอบหน้า เพื่อปรับกรอบหน้าและสันกรามให้มีความคมชัดขึ้นได้โดยไม่ต้องผ่าตัดด้วยค่ะ ซึ่งในปัจจุบัน การฉีดฟิลเลอร์เพื่อให้กรอบหน้าคมชัดสไตล์สายฝอก็ได้รับความนิยมมาก ๆ ทั้งในหมู่ผู้หญิงและผู้ชาย เพราะหลังฉีดแล้วจะเห็นผลลัพธ์ทันที อีกทั้งยังไม่ต้องใช้เวลาพักฟื้นด้วยค่ะ อ่านมาถึงตรงนี้ หลายคนก็คงจะเริ่มสนใจการฉีดฟิลเลอร์กรอบหน้ากันแล้ว งั้นเราก็ไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ KKC Clinic ได้รวบรวมมาไว้ในบทความนี้กันดีกว่าค่ะ
ผลลัพธ์ที่ได้อาจขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล
ฟิลเลอร์กรอบหน้าคืออะไร?
ในภาษาอังกฤษ Jawline แปลว่ากรามหรือสันกรามค่ะ ซึ่งกรามเป็นส่วนหนึ่งของขากรรไกรล่าง แต่หากพูดถึงคำว่า Jawline Filler แล้ว จะหมายถึงการฉีดฟิลเลอร์กรอบหน้าค่ะ ซึ่งกรอบหน้าคือบริเวณส่วนล่างของใบหน้า ไล่ตั้งแต่ด้านหน้าใบหู ขากรรไกรล่าง ไปจนถึงปลายคางนั่นเองค่ะ
ซึ่งฟิลเลอร์กรอบหน้า (Jawline Filler) ก็คือการฉีดสารเติมเต็มประเภทกรดไฮยาลูรอนิก (Hyaluronic Acid – HA) เข้าไปตามแนวกรอบหน้าค่ะ ซึ่งจะช่วยปรับโครงสร้างใบหน้า ทำให้เห็นกรอบหน้าและสันกรามคมชัดขึ้นได้โดยไม่ต้องผ่าตัด จึงได้รับความนิยมในผู้ชายที่ชอบให้ตัวเองมีสันกรามชัด ๆ และในผู้หญิงที่อยากให้ใบหน้าดูมีมิติมากขึ้นนั่นเองค่ะ ข้อดีของการฉีดฟิลเลอร์กรอบหน้าคือ เป็นหัตถการที่ใช้เวลาทำไม่นาน ไม่ทิ้งรอยแผลเป็น ไม่ต้องใช้เวลาพักฟื้น มีความปลอดภัยสูง เห็นผลลัพธ์ทันที แถมผลลัพธ์ยังอยู่ได้นานอีกด้วยนะคะ
ทั้งนี้ ในคนไข้ที่มีคางสั้น ก็จะนิยมฉีดฟิลเลอร์คางไปพร้อม ๆ กับกรอบหน้าค่ะ เพราะถ้าคางยาวขึ้น ก็จะดูสมูทไปกับแนวกรอบหน้า ทำให้ใบหน้าเรียวสวยและเข้ารูปมากขึ้น นอกจากนี้ ที่ KKC Clinic เรายังมีโปรแกรมฉีด Radiesse (+) ที่จะช่วยปรับกรอบหน้าให้คมชัดและทำให้รูปหน้าใกล้เคียง V-Shape อีกด้วยนะคะ แต่ถ้าคนไข้ไม่แน่ใจว่าตัวเองต้องฉีดอะไรบ้าง หรือควรฉีดโปรแกรมไหนดี ก็แนะนำให้มาเข้ารับคำปรึกษากับแพทย์ของเราก่อนค่ะ
ฟิลเลอร์กรอบหน้าช่วยเรื่องอะไร?
การฉีดฟิลเลอร์กรอบหน้าจะช่วยในเรื่องต่าง ๆ ดังนี้ค่ะ
- ช่วยให้กรอบหน้าและสันกรามคมชัด สร้างไลน์กรอบหน้าให้เห็นชัดเจนขึ้น
- ช่วยให้ใบหน้าได้สัดส่วน มีมิติ คมสวย และคมชัดมากขึ้น
- แก้ปัญหาใบหน้าไม่สมมาตร กรามด้านขวาและด้านซ้ายไม่เท่ากัน
- ช่วยยกกระชับใบหน้า แก้ปัญหาแก้มห้อยและผิวหย่อนคล้อย
- แยกให้เห็นส่วนของหน้ากับคออย่างชัดเจน และทำให้ช่วงคอดูยาวขึ้น ใบหน้าจึงดูเรียวเล็กลง
- ลบเหลี่ยมมุมของสันกราม ช่วยให้ใบหน้าดูหวานละมุนมากขึ้น
- ประหยัดเวลาในการคอนทัวร์ตอนแต่งหน้า
ฟิลเลอร์กรอบหน้าเหมาะกับใคร?
การฉีดฟิลเลอร์กรอบหน้าเหมาะกับทุกเพศที่อยากมีกรอบหน้าคมชัดค่ะ ไม่จำกัดว่าจะต้องฉีดแค่ในผู้หญิงหรือในผู้ชายเท่านั้น โดยคนที่เหมาะกับการฉีดกรอบหน้าก็จะมีดังนี้
- คนที่มีกรอบหน้าไม่ชัด ไม่เห็นสันกราม แล้วต้องการมีกรอบหน้าชัด สันกรามคม
- คนที่มีหน้ากลม หน้าอูม หน้าแบน แล้วต้องการให้ใบหน้าเรียวลง ได้สัดส่วน และมีมิติมากขึ้น
- คนที่ใบหน้าไม่สมมาตรเพราะกรามไม่เท่ากัน รวมถึงกรอบหน้าเบี้ยว
- คนที่มีแก้มห้อย มีใบหน้าหย่อนคล้อย ทำให้หน้าแก่ก่อนวัย แล้วต้องการดูเด็กลง
- คนที่มีกรามบุ๋ม กรามหุบ กรามถดเข้าไป
- คนที่หน้ากับคอดูรวมกัน เพราะไม่มีกรอบหน้าแบ่งส่วนระหว่างหน้ากับคอ
- คนที่ไม่อยากเสียเวลาคอนทัวร์ตอนแต่งหน้า
- คนที่ไม่อยากหรือไม่เหมาะกับการผ่าตัดทำศัลยกรรม ต้องการใช้ใบหน้าเลยทันทีหลังทำ รวมถึงไม่อยากเสียเวลาพักฟื้น
ฟิลเลอร์กรอบหน้าไม่เหมาะกับใคร?
การฉีดฟิลเลอร์กรอบหน้าจะไม่เหมาะกับคนบางกลุ่มค่ะ เช่น คุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์หรืออยู่ในระหว่างการให้นมบุตร คนที่แพ้ HA หรือยาชา รวมถึงคนที่มีผื่นแพ้หรือผิวหนังติดเชื้อในบริเวณกรอบหน้าด้วยค่ะ ทั้งนี้ แนะนำให้เข้ามาพบแพทย์ที่ KKC Clinic ก่อนนะคะ เพื่อที่แพทย์จะได้แนะนำแนวทางการรักษาที่เหมาะสมให้ค่ะ
วิธีการเตรียมตัวก่อนฉีดฟิลเลอร์กรอบหน้า
วิธีการเตรียมตัวก่อนการฉีดฟิลเลอร์กรอบหน้ามีดังนี้ค่ะ
- ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์กรอบหน้าโดยละเอียด โดยเฉพาะข้อมูลที่จะช่วยในการเลือกคลินิกฉีดฟิลเลอร์
- เตรียมข้อมูลสุขภาพไปแจ้งกับแพทย์ เช่น โรคประจำตัว ยาที่แพ้ หรือยาที่กินเป็นประจำ
- งดกินยาและวิตามินบางอย่าง เช่น แอสไพริน, NSAIDs, วิตามิน St. John’s Wort, Ginkgo Biloba และวิตามิน E
- งดดื่มแอลกอฮอล์และงดทำกิจกรรมที่ทำให้เลือดสูบฉีดแรง
- งดทายาหรือครีมผลัดเซลล์ผิว รวมถึงการถอนหรือโกนขนในบริเวณที่จะฉีด
ขั้นตอนการฉีดฟิลเลอร์กรอบหน้า
ก่อนเข้ารับการฉีดฟิลเลอร์ แพทย์ก็จะทำการวิเคราะห์โครงสร้างใบหน้าและปัญหาของคนไข้ เพื่อวางแผนการรักษาก่อนค่ะ เช่น ต้องฉีดฟิลเลอร์ในตำแหน่งไหน ต้องใช้ปริมาณเท่าไหร่ รวมถึงต้องใช้ฟิลเลอร์ยี่ห้อและรุ่นอะไร จากนั้นค่อยกำหนดจุดที่จะฉีดบนใบหน้าค่ะ โดยตำแหน่งที่สามารถฉีดได้ก็จะมีดังนี้
- หน้าใบหู: ช่วยยกกระชับผิวช่วงกรอบหน้าและทำให้ใบหน้าดูมีมิติ
- มุมสันกราม: ช่วยให้สันกรามคมชัด ช่วยยกกระชับแก้มห้อยและเหนียง
- แนวกราม: ช่วยให้กรอบหน้ากับกรามคมชัด และช่วยยกกระชับกรอบหน้า
- สันกระดูกใต้คาง: ช่วยเพิ่มความยาวคางและยกกระชับเหนียง รวมถึงปรับรูปหน้าให้ดูสมส่วนมากขึ้น
ขั้นตอนการฉีดจะเริ่มจากผู้ช่วยแพทย์ทำความสะอาดผิวแล้วแปะยาชา จากนั้นแพทย์จะแกะกล่องฟิลเลอร์ให้คนไข้ดู เพื่อให้คนไข้เห็นว่าเป็นฟิลเลอร์แท้ค่ะ เมื่อยาชาออกฤทธิ์ แพทย์จึงจะทำการฉีดฟิลเลอร์ตามจุดที่กำหนดไว้ด้วยเทคนิคที่เหมาะสม โดยจะมีการประคบเย็นไปด้วย ซึ่งหากไม่รวมระยะเวลาที่รอยาชาออกฤทธิ์ ก็จะใช้เวลาประมาณ 30 – 45 นาที โดยหลังจากฉีดฟิลเลอร์แล้วจะสามารถเห็นได้ว่ากรอบหน้าชัดขึ้นทันทีค่ะ และถ้าคนไข้ไม่มีอาการผิดปกติใด ๆ ก็สามารถกลับบ้านไปใช้ชีวิตประจำวันได้เลย โดยไม่ต้องใช้เวลาพักฟื้น
ฟิลเลอร์กรอบหน้าอยู่ได้กี่เดือน?
การฉีดฟิลเลอร์กรอบหน้าจะอยู่ได้ประมาณ 6 – 24 เดือนค่ะ โดยระยะเวลาจะขึ้นอยู่กับทั้งยี่ห้อและรุ่นของฟิลเลอร์ที่ใช้ รวมถึงเทคนิคการฉีดของแพทย์ ทั้งนี้ หากคนไข้ต้องการให้ผลลัพธ์อยู่ได้นาน ๆ ก็ต้องดูแลตัวเองตามวิธีที่แนะนำนะคะ
ฟิลเลอร์กรอบหน้าใช้กี่ cc?
โดยปกติแล้วการฉีดฟิลเลอร์จะเริ่มต้นที่ 1 cc ค่ะ แต่สำหรับกรอบหน้าจะไม่สามารถประมาณจำนวน cc ที่ต้องใช้ก่อนได้ เนื่องจากเป็นบริเวณที่ฉีดได้หลายจุด และในความแตกต่างระหว่างคนไข้แต่ละคนก็ทำให้ปริมาณที่ต้องใช้แตกต่างกันไป ตั้งแต่โครงสร้างใบหน้า ปัญหา และความต้องการของคนไข้ ทั้งนี้ คนไข้จะทราบปริมาณฟิลเลอร์ที่ต้องใช้อย่างแน่นอนได้เมื่อมาเข้ารับคำปรึกษาจากแพทย์ค่ะ
ผลลัพธ์ที่ได้หลังฉีดฟิลเลอร์กรอบหน้า
ภายหลังจากการฉีดฟิลเลอร์กรอบหน้า คนไข้จะสามารถเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ได้ทันทีค่ะ โดยเฉพาะความคมชัดของกรอบหน้าและสันกรามที่เพิ่มมากขึ้น ใบหน้ากับคอแยกส่วนกันชัดเจน แต่จะเห็นผลลัพธ์เต็มที่เมื่อเวลาผ่านไปประมาณ 2 สัปดาห์ หลังจากที่อาการบวมหายไปและฟิลเลอร์เข้าที่ดีแล้วค่ะ
โดยคำแนะนำในการดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ก็มีดังนี้ค่ะ
- งดจับ กด นวด แกะ เกา ในบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ ไม่ควรพยายามปั้นทรงฟิลเลอร์เอง
- งดสูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ และออกกำลังกายหรือเล่นกีฬาหนัก ๆ
- งดกินอาหารดิบ อาหารหมักดอง อาหารรสจัด
- งดทำหัตถการที่ใช้ความร้อน เช่น เลเซอร์กำจัดขน หรือ Thermage และ Ultherapy ประมาณ 1 เดือน
- ควรอยู่ในที่เย็น ๆ หลีกเลี่ยงการโดนแดดหรืออยู่ในที่ที่มีอากาศร้อน ๆ เช่น ซาวน่า ออนเซ็น ร้านหมูกระทะ
- ดื่มน้ำเยอะ ๆ และนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
- กินยาและปฏิบัติตัวตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด รวมถึงรีบกลับมาพบแพทย์หากมีอาการผิดปกติเกิดขึ้น
ผลข้างเคียงจากการฉีดฟิลเลอร์กรอบหน้า
ภายหลังจากการฉีดฟิลเลอร์ อาจมีอาการบวมหรือรอยช้ำเล็กน้อยเป็นเรื่องปกติค่ะ ซึ่งจะค่อย ๆ ดีขึ้นเองใน 2 – 3 วัน และหายไปเองใน 7 – 14 วัน ทั้งนี้ การฉีดฟิลเลอร์ต้องใช้ฟิลเลอร์แท้และฉีดกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญนะคะ เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายหรือภาวะแทรกซ้อน เช่น ฟิลเลอร์เข้าเส้นเลือดค่ะ
ฟิลเลอร์กรอบหน้าราคาเท่าไหร่
การฉีดฟิลเลอร์กรอบหน้า (Jawline Filler) ที่ KKC Clinic มีราคาเริ่มต้นที่ 9,900 บาท โดยค่าใช้จ่ายทั้งหมดจะขึ้นอยู่กับปัจจัย เช่น ยี่ห้อและจำนวนของฟิลเลอร์ที่ใช้ ซึ่งจะทราบได้จากการประเมินของแพทย์ค่ะ
ฟิลเลอร์กรอบหน้ายี่ห้อไหนดี?
ฟิลเลอร์ที่นิยมใช้ในการฉีดกรอบหน้าให้ดูชัด จะเป็นฟิลเลอร์เนื้อแข็ง คงตัวสูง ขึ้นรูปดี และปั้นทรงสวย โดยตัวอย่างฟิลเลอร์ที่นิยมใช้จะมีดังนี้ค่ะ
- Juvederm Voluma: ฟิลเลอร์เนื้อแข็ง ฟูปานกลาง ยืดหยุ่นสูง หนาแน่นสูง ปั้นทรงง่าย อยู่ได้นาน 18 เดือน
- Juvederm Volux: ฟิลเลอร์เนื้อแข็ง คงตัวสูง ขึ้นรูปง่าย ปั้นทรงสวย ช่วยปรับโครงสร้างหน้าได้ดีที่สุด อยู่ได้นาน 18 – 24 เดือน
- Restylane Perlane Lyft: ฟิลเลอร์เนื้อแข็ง ไม่ฟู คงตัวสูง ฉีดเสริมทดแทนกระดูกได้ดีที่สุด อยู่ได้นาน 12 เดือน
- Belotero Intense: ฟิลเลอร์เนื้อแข็ง ยืดหยุ่นสูง โดดเด่นด้านการแก้ปัญหาร่องลึกมาก ๆ อยู่ได้นาน 18 เดือน
ฟิลเลอร์กรอบหน้า VS วิธีอื่น ๆ ในการสร้างกรอบหน้า?
นอกจากวิธีการฉีดฟิลเลอร์กรอบหน้า ก็ยังมีอีก 2 วิธีที่ได้รับความนิยมในการสร้างกรอบหน้าให้คมชัดค่ะ ซึ่งเราจะมาเปรียบเทียบกันในหัวข้อนี้
- โบท็อกซ์กราม: การฉีดฟิลเลอร์จะใช้สารที่เป็น HA ฉีดเพื่อเติมเต็ม ในขณะที่การฉีดโบท็อกซ์จะใช้สาร Botulinum Toxin ฉีดเข้าไปที่กล้ามเนื้อบริเวณกราม เพื่อลดการทำงานของกล้ามเนื้อ ซึ่งจะส่งผลให้กล้ามเนื้อกรามมีขนาดเล็กลง จึงช่วยให้ใบหน้าดูเรียวเล็กลง และเห็นกรอบหน้าคมชัดขึ้น
ทั้ง 2 วิธีนี้เป็นวิธีการที่ไม่ต้องใช้การผ่าตัดเหมือนกัน จึงไม่ต้องใช้เวลาพักฟื้น โดยฟิลเลอร์จะสามารถเห็นความเปลี่ยนแปลงหลังฉีดได้ทันที แต่โบท็อกซ์จะต้องรอประมาณ 1 – 2 สัปดาห์ถึงจะเริ่มเห็นความเปลี่ยนแปลง - ผ่าตัดเสริมกราม: ฟิลเลอร์กรอบหน้าจะเป็นโปรแกรมฉีด จึงไม่ต้องใช้การผ่าตัด ในขณะที่การผ่าตัดเสริมกรามเป็นการผ่าตัดเพื่อใส่ซิลิโคนหรือวัสดุทางการแพทย์เข้าไปตามแนวขากรรไกร ซึ่งจะช่วยให้แนวกรามมีความคมชัดขึ้น รูปหน้าจะได้สัดส่วนและสมดุลกันมากขึ้น
ทั้งนี้ เนื่องจากการผ่าตัดกรามต้องดมยาสลบ จึงไม่เหมาะกับผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น ความดันโลหิตสูง เบาหวาน โรคหัวใจ และต้องใช้เวลาในการทำหัตถการนานกว่า ใช้เวลาพักฟื้นมากกว่า มีวิธีการดูแลตัวเองมากกว่า รวมถึงมีค่าใช้จ่ายที่สูงกว่า แต่ข้อดีคือ ถ้าได้ผลลัพธ์ที่พอใจก็จะเป็นการทำครั้งเดียวจบ อยู่ได้ถาวร แต่ถ้าไม่ถูกใจในผลลัพธ์ ก็จะต้องแก้ไขโดยการผ่าตัดอีกครั้ง แตกต่างจากการฉีดฟิลเลอร์ที่สามารถรอให้สลายไปเอง หรือใช้การฉีดสาร Hyaluronidase ฉีดเพื่อสลายก็ได้
คำถามที่พบบ่อย
การฉีดฟิลเลอร์กรอบหน้าเจ็บไหม?
การฉีดฟิลเลอร์กรอบหน้าอาจจะรู้สึกเจ็บเล็กน้อย แต่ก็จะมีการแปะยาชาและประคบเย็นเพื่อช่วยลดความเจ็บปวดค่ะ ทั้งนี้ ในฟิลเลอร์ที่นิยมใช้ฉีดกรอบหน้าทุกตัวตามที่กล่าวมา จะมีส่วนผสมของยาชาอยู่ด้วยค่ะ
การฉีดฟิลเลอร์กรอบหน้าจะทำให้หน้าบานไหม?
การฉีดฟิลเลอร์กรอบหน้าไม่ได้ทำให้หน้าบานหรือใหญ่ขึ้นค่ะ แต่จะช่วยให้กรอบหน้ามีความคมชัดขึ้น
ฟิลเลอร์กรอบหน้าลดเหนียงได้ไหม?
การฉีดฟิลเลอร์กรอบหน้าจะไม่ได้ช่วยลดเหนียงค่ะ แต่จะทำให้เหนียงกระชับขึ้น ทั้งนี้ ในคนที่มีไขมันสะสมบริเวณเหนียงมาก ๆ แล้วอยากทำให้เหนียงเล็กลง แนะนำให้เข้ามาปรึกษาแพทย์เพื่อดูดไขมันเหนียงนะคะ
ถ้าผู้หญิงฉีดฟิลเลอร์กรอบหน้า จะทำให้หน้าดูดุไหม?
การฉีดฟิลเลอร์กรอบหน้าในผู้หญิงจะไม่ทำให้หน้าดุหรือเข้มเหมือนผู้ชายค่ะ เพราะแพทย์ที่ KKC Clinic มีเทคนิคในการฉีดฟิลเลอร์กรอบหน้าที่เหมาะสมกับรูปหน้าและความต้องการของคนไข้ ซึ่งจะแตกต่างกันไปในผู้หญิงและผู้ชายค่ะ
สามารถฉีดฟิลเลอร์กรอบหน้าควบคู่กับโปรแกรมอื่นได้ไหม?
ในคนไข้บางคน แค่การฉีดฟิลเลอร์กรอบหน้าอย่างเดียวก็เพียงพอที่จะทำให้เห็นความคมชัดของกรอบหน้าแล้วค่ะ แต่ในคนไข้บางคนก็อาจจะต้องทำโปรแกรมยกกระชับอื่น ๆ ควบคู่ด้วย เพื่อให้เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนยิ่งขึ้นนั่นเองค่ะ
ฟิลเลอร์กรอบหน้าที่ไหนดี?
การฉีดฟิลเลอร์กรอบหน้า ควรฉีดกับคลินิกที่ใช้ฟิลเลอร์แท้ซึ่งผ่านการรับรองจากอย. และนำเข้าอย่างถูกต้องเท่านั้น เพราะจะทำให้ฟิลเลอร์ยังคงรักษาคุณภาพไว้ได้ อีกทั้งการใช้ฟิลเลอร์แท้ยังสามารถฉีดเพื่อสลายได้ด้วยค่ะ
นอกจากนี้ การเลือกฉีดฟิลเลอร์กับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก็เป็นอีกสิ่งที่สำคัญนะคะ เพื่อป้องกันไม่ให้ฉีดผิดจุด ผิดชั้น หรือฉีดมากเกินไป ซึ่งนอกจากจะทำให้ฟิลเลอร์เป็นก้อน ไม่ได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการแล้ว ยังอาจทำให้เกิดอันตรายอย่างการฉีดเข้าเส้นเลือดและเนื้อตายได้ค่ะ
ดังนั้น เราจึงแนะนำให้คนไข้มาฉีดฟิลเลอร์กรอบหน้าที่ KKC Clinic ค่ะ เพราะคนไข้จะสามารถมั่นใจได้ว่า ได้ฉีดด้วยฟิลเลอร์แท้ ฉีดกับแพทย์ที่มีความชำนาญและมีประสบการณ์มาอย่างยาวนาน รวมถึงฉีดในคลินิกที่มีความสะอาด ผ่านการรับรองมาตรฐาน ทำให้ได้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจ และมีความปลอดภัยนั่นเองค่ะ